Skip to main content
sharethis

21 มี.ค. 52 - ที่อาคารรัฐสภา เมื่อเวลา 11.00 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้กดออดเรียกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เข้าประชุมสภาฯ เพื่อเริ่มการลงคะแนนเสียงในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เมื่อครบองค์ประชุมแล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้เปิดการประชุม ซึ่งก่อนจะมีการลงมติ สมาชิกได้อภิปรายปรึกษาหารือว่าจะเป็นการลงมติแบบใด และในที่สุดเป็นการลงมติแบบกดคะแนน โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม 449 คน สรุปผลการลงคะแนนตามลำดับ ดังนี้


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผู้เข้าร่วมประชุม 449 คน ไม่ไว้วางใจ 176 คน ไว้วางใจ 246 คน งดออกเสียง 12 คน ไม่ลงคะแนน 15 คน


นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้เข้าร่วมประชุม 447 คน ไม่ไว้วางใจ 174 คน ไว้วางใจ 246 คน งดออกเสียง 12 คน ไม่ลงคะแนน 15 คน


นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้เข้าร่วมประชุม 446 คน ไม่ไว้วางใจ 184 คน ไว้วางใจ 237 คน งดออกเสียง 12 คน ไม่ลงคะแนน 13 คน


นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ผู้เข้าร่วมประชุม 447 คนไม่ไว้วางใจ 177 คนไว้วางใจ 246 คน งดออกเสียง 12 คนไม่ลงคะแนน 15 คน


นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้เข้าร่วมประชุม 447 คน ไม่ไว้วางใจ 167 คน ไว้วางใจ 246 คน งดออกเสียง 20 คน ไม่ลงคะแนน 14 คน


นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้เข้าร่วมประชุม 447 คน ไม่ไว้วางใจ 168 คน ไว้วางใจ 246 คน งดออกเสียง 18 คน ไม่ลงคะแนน 15 คน





















































ชื่อ


ไม่ไว้วางใจ


ไว้วางใจ


งดออกเสียง


ไม่ลงคะแนน


ผู้แสดงตน


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี


174


246


12


15


449


นายกรณ์ จาติกวณิช


รมว.คลัง


174


246


12


15


447


นายกษิต ภิรมย์


รมว.ต่างประเทศ


184


237


12


13


446


นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล


รมว.มหาดไทย


167


246


20


14


447


นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์


รมช.คลัง


174


246


12


15


447


นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์


รมช.มหาดไทย


168


246


18


15


447


 


เปิดโผงูเห่าเพื่อไทยหนุน"ชวรัตน์" ขณะที่ประชาราชเทคะแนนไม่ไว้วางใจ"กษิต" หลังงดออกเสียง"มาร์ค-รมต.อื่น" ด้านพรรคเพื่อแผ่นดินเสียงแตก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบรายชื่อส.ส.ปัจจุบันมียอดรวม 465 คน พรรคประชาธิปัตย์ 170 คน เพื่อไทย 182 คน ภูมิใจไทย 32 คน เพื่อแผ่นดิน 30 คน ชาติไทยพัฒนา 25 คน รวมใจไทยชาติพัฒนา 9 คน ประชาราช 9 คน กิจสังคม 5 คน และพรรคราษฎร 3 คน แต่การประชุมสภาฯครั้งนี้มีผู้แสดงตนเข้าประชุมและใช้สิทธิ์ลงมติ 449 คน ส.ส.ขาดประชุม 16 คน ในจำนวนนี้แจ้งลาประชุมเป็นทางการ 7 คน มี นายนาราชา สุวิทย์ ส.ส.สงขลา นายสุรสิทธิ์ ตรีทอง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ นายบุญเลิศ ครุฑขุนทด ส.ส.นครราชสีมา นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี นายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และนายมานิต นพอมรวดี ส.ส.ราชบุรี ในฐานะรมช.กระทรวงสาธารณสุข


ขณะที่นางวรศุลี สุวรรณปริสุทธิ์ ส.ส.มุกดาหาร พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ใช้สิทธิ์ลงคะแนนทันเพียงคนเดียวคือนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย โดยให้เหตุผลในที่ประชุมว่ารถยนต์ยางรั่ว ส่วนที่เหลือเป็นส.ส.ที่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีที่มาประชุม แต่ไม่ได้กดบัตรแสดงตน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงคะแนนไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น มีผู้ไม่ไว้วางใจ 176 เสียง ไว้วางใจ 246 เสียง งดออกเสียง 12 คน และไม่ลงคะแนน 15 เสียง ซึ่งพบว่างดออกเสียงนั้น เป็นส.ส.พรรคประชาราช 8 คน คือ 1.นางสาวจิรวดี จึงวรานนท์ ส.ส.ศรีสะเกษ 2.นายฐานิสร์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว 3.นางตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว 4.นายสุตา พรมดวง ส.ส.ศรีสะเกษ 5.นายเสนาะ เทียนทอง ส.ส.สัดส่วน 6.นายสมชัย เจริญชัยฤทธิ์ ส.ส.นครสวรรค์ 7.นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว 8.นางชนากานต์ ยืนยง ส.ส.ปทุมธานี และส.ส.พรรคเพื่อไทย 3 คน ได้แก่ 1.ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี 2.นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง 3.พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน 1 คนคือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน


สำหรับผู้ไม่ลงคะแนนเสียงมี 15 คน ส่วนใหญ่เป็นรัฐมนตรีทั้งหมด ได้แก่ 1.นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.อยุธยา พรรคชาติไทยพัฒนา รมช.คมนาคม 2.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ รมว.ศึกษาธิการ 3.นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ รมช.ศึกษาธิการ 4.นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ รมช.มหาดไทย 5.นายธีระ สลักเพชร ส.ส.ตราด รมว.วัฒนธรรม 6.นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย รมช.มหาดไทย 7.นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยน่าน พรรคภูมิใจไทย รมว.พาณิชน์ 8.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ รมว.ยุติธรรม 9.นายไพฑูรย์ แก้วทอง ส.ส.พิจิตร พรรคประชาธิปัตย์ รมว.แรงงาน 10.นพ.วรรณรัตน์ชาญนุกูล ส.ส.มุกดาหาร พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา รมว.พลังงาน 11.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ รัฐมน ตรีประจำสำนักนายก 12.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ นายกฯ และ 13. นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ รมช.พาณิชน์ 14.นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ รมว.กระทรวงการคลัง และ 15.นายอิสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ รมว.พัฒนาสังคม


ส่วนผลการลงมติไม่ไว้วางใจนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง มีผู้ไม่ไว้วางใจ 174 เสียง ไว้วางใจ 246 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง ไม่ลงคะแนน 15 เสียง พบผู้ที่ไม่ลงคะแนนเสียงเป็นรัฐมนตรี 15 คน ส่วนที่งดออกเสียง 12 คน เป็นส.ส.พรรคประชาราช 8 คน ส่วนนายจักรกฤษณ์ ทองศรี ส.ส.บุรีรัมย์ ไม่เสียบบัตรแสดงตน ส่วนพรรคเพื่อแผ่นดิน 1 คน คือพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน และส.ส.พรรคเพื่อไทย 3 คน คือ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี พรรคเพื่อไทย นายสามารถ แก้วมีชัย และพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ในฐานะรองประธานสภาฯ


ผลลงมติไม่ไว้วางใจนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ซึ่งมีผู้ไม่ไว้วางใจ 174 เสียง ไว้วางใจ 246 เสียง งดออกเสียง 12 เสียงและไม่ลงคะแนน 15 เสียงนั้น พบผู้งดออกเสียง 12 คน เป็นส.ส.พรรคประชาราช 8 คนจากจำนวนส.ส. 9 คน โดยนายจักรกฤษณ์ ทองศรี ส.ส.บุรีรัมย์ โหวตไว้วางใจ ถือเป็นการแหกโผ พรรคเพื่อไทย 3 คนคือ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง และพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และพรรคเพื่อแผ่นดินคือพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน ส่วนผู้ที่ไม่ลงคะแนน 15 คน ส่วนใหญ่เป็นรัฐมนตรี ยกเว้นนายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย


สำหรับผลการลงมติไม่ไว้วางใจนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ มีผู้ลงมติไม่ไว้วางใจ 184 เสียง ไว้วางใจ 237 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง และไม่ลงคะแนน 13 เสียง พบผู้งดออกเสียง 12 เสียง 1.นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ 2.นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ส.ส.นครราชศรีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน 3.นายณัฐวุฒิ สุขเกษม ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย 4.นายมัจมุดดีน อูมา ส.ส.นราธิวาส พรรคราษฎร 5.ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี พรรคเพื่อไทย 6.พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน 7.นางฟาริดา สุไลมาน ส.ส.สุรินทร์ พรรคราษฎร 8.นายมานพ ปัตนวงศ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน 9.นายแวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน 10.นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคราษฎร 11.นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง 12.พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง สำหรับผู้ไม่ลงคะแนนเสียง 13 คน เป็นส.ส.ที่เป็นคณะรัฐมนตรี ได้แก่ 1.นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.อยุธยา พรรคชาติไทยพัฒนา รมช.คมนาคม 2.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ รมว.ศึกษาธิการ 3.นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ รมช.ศึกษาธิการ 4 .นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ รมช.มหาดไทย 5.นายธีระ สลักเพชร ส.ส.ตราด รมว.วัฒนธรรม 6.นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย รมช.มหาดไทย 7.นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท พรรคภูมิใจไทย รมว.พาณิชน์ 8.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ รมว.ยุติธรรม 9.นายไพฑูรย์ แก้วทอง ส.ส.พิจิตร พรรคประชาธิปัตย์ รมว.แรงงาน 10.นพ.วรรณรัตน์ชาญนุกูล ส.ส.มุกดาหาร พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา รมว.พลังงาน 11.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ 12.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ นายกฯ และ 13.นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ รมช.พาณิชย์


ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่านายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราชที่ประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะงดออกเสียงญัตติดังกล่าว ได้นำทีมส.ส.ประชาราชทั้งหมดลงคะแนนไม่ไว้วางใจนายกษิต ส่วนพรรคเพื่อแผ่นดินก็มีผู้ที่งดออกเสียงให้นายกษิต 4 คน นำโดยพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ส.ส.นครราชสีมา น.พ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.ปัตตานี นายมานพ ปัตนวงศ์ ส.ส.สัดส่วน กลุ่มพล.ต.อ.ประชา และนายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่แหกโผของดออกเสียงในญัตตินี้ด้วย


นอกจากนั้นการลงมตินายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้รับความไว้วางใจจากสภาฯ 246 เสียงต่อ 167 เสียง มีส.ส.งดออกเสียง 20 คน ไม่ลงคะแนนเสียง 14 คนนั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีส.ส.พรรคเพื่อไทย 8 คนที่ลงคะแนนงดออกเสียง ประกอบด้วย 1.นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. 2.นายกิตติ สมทรัพย์ ส.ส.ร้อยเอ็ด 3.นายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร 4.นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี 5.นายนิรมิต สุจารี ส.ส.ร้อยเอ็ด 6.นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ 7.นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน และ 8.นายอดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ ส.ส.สัดส่วน ขณะที่ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเพียงคนเดียวที่ลงมติไว้วางใจนายชวรัตน์


เช่นเดียวกับพรรคประชาราชที่ ส.ส.ใช้สิทธิ์งดออกเสียงให้นายชวรัตน์ 8 คน ได้แก่ 1.น.ส.จิรวดี จึงวรานนท์ ส.ส.ศรีษะเกษ 2.นายฐานิสร์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว 3.น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว 4.นายสมชัย เจริญชัยฤิทธิ์ ส.ส.นครสวรรค์ 5.นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว 6.นายสุตา พรมดวง ส.ส.ศรีษะเกษ 7.นายเสนาะ เทียนทอง ส.ส.สัดส่วน และ 8.นางชนากานต์ ยืนยง ส.ส.ปทุมธานี โดยนายจักรกฤษณ์ ทองศรี ส.ส.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหลานนายทรงศักดิ์ ทองศรี อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน คนสนิทของนายเนวิน ชิดชอบ ใช้สิทธิ์ไว้วางใจนายชวรัตน์ด้วย ส่วนพรรคเพื่อแผ่นดินมีเพียงพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน ว่าที่หัวหน้าพรรคเพียงคนเดียวเท่านั้นที่งดออกเสียง


ขณะที่ส.ส.คนอื่นในพรรคซึ่งรวมถึงกลุ่ม 9 ส.ส.และ 3 ส.ส.จากพรรคราษฎรของพล.ต.อ.ประชาต่างลงคะแนนไว้วางใจนายชวรัตน์ เช่น นายนัจมุดดีน อูมา ส.ส.นราธิวาส พรรคราษฎร น.ส.ฟารีดา สุไลมาน ส.ส.สุรินทร์ พรรคราษฎร นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาราช ม.ร.ว.กิตติวัฒนา ไชยันต์ ส.ส.สัดส่วน นายนิมุคตาร์ วาบา ส.ส.นราธิวาส นายปุระพัฒน์ วิเศษจินดาวัฒนา ส.ส.สัดส่วน นายมานพ ปัตนวงศ์ ส.ส.สัดส่วน นายยุซรี ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี นพ.วัลลภ ไทยเหนือ ส.ส.สัดส่วน นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.สัดส่วน นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ ส.ส.สัดส่วน มีเพียงนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน เป็นส.ส.คนเดียวของพรรคประชาธิปัตย์ที่งดออกเสียงให้นายชวรัตน์


สำหรับกรณีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.นั้น เมื่อดูผลคะแนนไว้วางใจ 246 เสียง ไม่ไว้วางใจ 168 เสียง งดออกเสียง 18 ไม่ลงคะแนน 15 เสียง พบ ผู้ที่งดออกเสียง 18 คน แบ่งเป็น พรรคประชาราช 8 คน พรรคเพื่อไทย 6 คน ได้แก่ นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. นายกิตติ สมทรัพย์ ส.ส.ร้อยเอ็ด นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชานี นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ และนายอดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ ส.ส.สัดส่วนและส.ส.ของพรรคเพื่อแผ่นดิน 1 คน คือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 1 คน คือ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน และ รองประธานสภาอีก 2 คน ส่วนผู้ที่ไม่ลงคะแนน 15 คน ประกอบด้วย นายนิรมิต สุจารี ส.ส.ร้อนเอ็ด พรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีอีก 14 คน ดังนั้นหมายความว่า นายบุญจง ได้คะแนนจากส.ส.ซีกฝ่ายค้าน เพิ่มขึ้นมา 12 เสียง ได้แก่ พรรคราษฎร 3 คน พรรคประชาราช 1 คนคือนายจักรกฤษ ทองศรี ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อแผ่นดิน กลุ่มส.ส.พล.ต.อ.ประชา 7 คน และส.ส.ของพรรคเพื่อไทย 1 คน คือนายปรพล อดิเรกสาร


เกียรติกร แจงงดออกเสียง"กษิต"


นายเกียรติกร ภาคเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะไม่ลงมติให้กับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศว่า ที่ผ่านมาไม่ได้มีความโกรธเคืองกับนายกษิต เพียงแต่เห็นว่าก่อนที่นายกษิตจะมาเป็นรัฐมนตรี นายกษิตเป็นพันธมิตรที่ล้อมสนามบินทำให้บ้านเมืองเสียหายแต่เมื่อเข้ามาเป็นรัฐมนตรียอมรับว่าเขาทำงานไม่ผิด ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เป็นเงื่อนไขของกลุ่มคนเสื้อแดง และอภิปรายบนเวทีทั่วประเทศ ดังนั้นตนอยากจะแสดงให้ม็อบเสื้อแดงรู้ว่าตนเป็น ส.ส.และในรัฐธรรมนูญมาตรา 126 ระบุว่าเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.จะโหวตใครก็ได้ ทั้งนี้ในส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ ตนจะโหวตให้ทุกคน


"ผมจึงงดออกเสียงให้นายกษิต ผมไม่ได้เกลียดนะ แต่ต้องการลดความขัดแย้ง ไม่ต้องการให้เป็นเงื่อนไขของม็อบเสื้อแดงทั่วประเทศ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการก็ไปบ้านผมมาแล้วไปถามดูได้ ประชาชน 2 พันคนโบกไม้โบกมือให้ได้หมด ไม่มีม็อบเสื้อแดงแม้แต่คนเดียว บ้านผมไม่มีข่าวม็อบเสื้อแดง หากผมเป็นนายกฯ และจะทำให้บ้านเมืองสมานฉันท์ผมก็ต้องปรับนายกษิตออก" นายเกียรติกร กล่าว


"ขอยืนยันว่าในการโหวตไม่มีใครสั่งผมได้ คนที่สั่งได้ก็มีเพียงประชาชนเท่านั้น คนที่ทำอะไรไม่ถูกต้อง ผมก็ต้องค้าน ส่วนพรรคจะขับไล่ผมออกจากพรรค ก็ไม่มีปัญหา ผมก็ไปหาพรรคอื่นอยู่ได้ ผมยืนยันทำสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าพรรคไม่พอใจจะขับออก ก็ออกผมไม่ว่าอะไร" นายเกียรติกร กล่าว ทั้งนี้นายเกียรติกร ได้ย้ายเข้าประชาธิปัตย์ หลังจากที่พรรคมัชฌิมาธิปไตย ถูกสั่งยุบพรรค


ส.ส.พรรคราษฎรงดโหวต"กษิต"รับไม่ได้ทำมุสลิมน้ำตาตก

นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคราษฎร กล่าวยืนยันว่า ส.ส. 3 คน ของพรรค ลงมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และ 4 รัฐมนตรี แต่งดออกเสียงในส่วนของ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่ได้ไปร่วมชุมนุมยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้พี่น้องมุสลิมได้รับความต้องเดือดร้อน ถึงแม้ไม่ใช่แกนนำ แต่ได้เข้าร่วมด้วย และนายกษิต ยังมายืนยันในสภาว่า มีความยินดีและมีความสุขที่เข้าร่วมชุมนุม เรื่องนี้ทำให้มุสลิมตกค้างไม่ได้ไปเมกกะถึง 10 วันต้องหลั่งน้ำตา ซึ่งการโหวตแบบนี้ ถือว่าเบาที่สุดแล้ว


 


พผ.กลุ่ม"ประชา"โหวตหนุนรัฐบาลทำงานต่อ


ที่อาคารเบญจมาศ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมด้วย ส.ส.กลุ่ม 12 คน อาทิ นพ. วัลลภ ไทยเหนือ ส.ส.สัดส่วน นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.สัดส่วน ม.ร.ว.กิตติวัฒนา ไชยยันต์ ปกมนตรี ส.ส.สัดส่วน ร่วมกันแถลงหลังการประชุมหารือกว่า 1 ชั่วโมง โดย พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า มติของกลุ่มยินดีที่จะให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อไป โดยจะโหวตสนับสนุนรัฐบาล เพราะจากการติดตามสถานการณ์และรับฟังการอภิปรายของรัฐบาล พบว่ารัฐบาลสามารถชี้แจงได้ดี รวมทั้งเห็นว่าฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลที่มีน้ำหนักเพียงพอ แต่อย่างไรก็ตาม การโหวตลงมติให้รัฐมนตรีบางคน ถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. ซึ่งสามารถจะโหวตไว้วางใจ หรืองดออกเสียงก็ได้ แต่คงไม่มีการโหวตไม่ไว้วางใจ เนื่องจากตามหลักพรรคเพื่อแผ่นดินยังได้ชื่อว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ แต่สำหรับตนที่ประชุมมีมติให้สามารถโหวตไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจก็ได้


ด้าน ม.ร.ว.กิตติวัฒนา กล่าวถึงการชี้แจงของรัฐบาลว่าเท่าที่ฟังก็รับได้ แต่ยังข้องใจการชี้แจงของรัฐมนตรีบางคน แต่อย่างไรก็ตามคงคงโหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคน รวมถึงนายกษิต ภิรมย์ด้วย เนื่องจากมีผู้ใหญ่ขอมา แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการโหวตของพรรคเพื่อแผ่นดินจะมีมติไปในทางเดียวกัน


นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ ส.ส.สัดส่วน ระบุว่า เท่าที่พูดคุยกัน ส.ส. พบว่ามี ส.ส.ในกลุ่มประมาณ 1-2 คน จะงดออกเสียงไว้วางใจนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ส่วนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคนอื่น ส.ส.ในกลุ่มจะยกมือโหวตสนับสนุนเพื่อเป็นการให้กำลังใจรัฐบาลในการทำงานต่อไป สำหรับตนจะโหวตให้นายกษิต ซึ่งการที่มี ส.ส.บางคนไม่โหวตให้ ถือเป็นการส่งสัญญาณให้นายกฯ และรัฐบาลพิจารณารัฐมนตรีคนนั้น เพราะถือว่าเราได้ทำหน้าที่สภาในการตรวจสอบรัฐบาลและมั่นใจว่าการโหวตครั้งนี้จะไม่กลายเป็นรอยร้าวในการร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อแผ่นดินจนทำให้รัฐบาลอายุสั้นลง


ด้านพรรคเพื่อแผ่นดินซีกของกลุ่มวังพญานาค และกลุ่มโคราช ได้ประชุมกรรมการบริหารพรรคและส.ส.ของพรรค โดยมีนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รักษาการหัวหน้าพรรค เป็นประธาน ขณะที่ส.ส.ในกลุ่มของบ้านริมน้ำ ก็ได้แยกร่วมประชุมกับพรรคภูมิใจไทย และส.ส.ในกลุ่มของพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ก็ได้นัดหารือกันที่อาคารเบญจมาศ แยกพิชัย เช่นเดียวกัน โดยภายหลังการหารือ นายชาญชัย กล่าวว่า พรรคเพื่อแผ่นดินเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อได้รับฟังเหตุผลของฝ่ายค้านและรัฐมนตรีที่ชี้แจงแล้ว ก็เห็นว่ารัฐมนตรีชี้แจงได้ เพราะฝ่ายค้านยังโยงใยไม่ถึงตัวรัฐมนตรีในด้านลึกว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร เนื่องจากอาจมีเวลาจำกัด ซึ่งพรรคคงจะไม่มีมติพรรคใดๆในการโหวตเพราะตามรัฐธรรมนูญถือว่าการลงคะแนนเสียงเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. การประชุมในครั้งนี้จะเป็นเพียงการหารือภายในของสมาชิกเท่านั้น


เมื่อถามว่ากลุ่มส.ส.ของพล.ต.อ.ประชาก็มีการหารืออยู่ที่อาคารเบญจมาศ นายชาญชัย ตอบว่า คนที่จะเชิญประชุมได้มีคนเดียวคือรักษาการหัวหน้าพรรคเท่านั้น ส่วนการประชุมอื่นถือเป็นเรื่องส่วนตัว และรักษาการหัวหน้าพรรคก็ไม่เคยสร้างปัญหา ส่วนกรณีนายนพดล พลซื่อ ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อแผ่นดินที่ถูกศาลตัดสินยืนใบแดงตามกกต.นั้น ทางพรรคยังมีความมั่นใจในกกต.และศาลยุติธรรมว่าจะได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกิดต่างกรรมต่างวาระ


"เหนาะ"โบกมือไม่คุย"เหลิม"งงเสียงหายไปไหน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในห้องประชุม เมื่อเวลา 11.00 น. ภายหลังนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กดออกเรียกประชุม ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างเดินเข้ามาในห้องประชุม นายธนิตพลได้เดินถือเอกสารเข้าไปเช็คยอดส.ส.ที่เข้ามาอยู่ภายในห้องประชุมกับทุกพรรค พร้อมเดินไปพูดคุยกับนายชินวรณ์ ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พท.ก็พบกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช โดยบังเอิญระหว่างเดินเข้าห้องประชุม แต่นายเสนาะได้แต่เพียงโบกมือและไม่ยอมหยุดคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังผลการลงมติไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีเสียงไม่ไว้วางใจเพียง 176 เสียงจากจำนวนส.ส.ฝ่ายค้านทั้งหมด 194 คน ทำให้ ส.ส.พท. มองหน้ากับเพื่อน ส.ส.เลิกลั่ก ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม หันมาถามเพื่อนส.ส.ที่นั่งข้างๆว่า"เสียงมันหายไปไหน"


เพื่อไทยพล่านเช็คชื่องูเห่าส่ง"เฉลิม"จัดการ

นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตนกำลังตรวจสอบอยู่ว่า ส.ส.พท.คนใดงดออกเสียงในการลงมติไม่ไว้วางใจนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย เพราะติดใจในเรื่องนี้มาก เนื่องจากเป็นคนพรรคเดียวกันกลับทำกันแบบนี้ ทั้งนี้หลังจากได้รายชื่อส.ส.เหล่านั้นมา ก็จะนำไปให้กับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พท. เพื่อขอให้พูดคุยกับคนเหล่านั้น


 


"อภิวันท์" ไม่ขับงูเห่าบอกพรรคร่วมรบ.ก็ปันใจเหมือน พท.

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เสียงส.ส.เพื่อไทยที่หายไปในการลงมตินั้น ถือว่าไม่เกินเป้าหมาย ที่พรรคได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะมีส.ส.เพื่อไทยเสียงหายไปประมาณ 10 เสียง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เสียงส.ส.หายไป 5 เสียง ทราบแล้วว่าเป็นใครบ้าง แต่มองว่าไม่ใช่ปัญหา โดยหลังทราบผลการลงมติ พรรคคงไม่ประเมินถึงสถานการณ์ที่ส.ส.เพื่อไทยเสียงหาย เพราะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ที่ผ่านมาเคยบอกกับพรรคแล้วว่า การล้มรัฐบาลในสภาไม่เคยเกิดขึ้น แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทย หวังจะเห็นคือ การนำหลักฐาน เอกสารที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.เพื่อไทย ไปยื่นต่อ กกต.ให้ตรวจสอบต่อไปว่า องค์กรอิสระจะทำงานเป็นสองมาตรฐาน หรือบังคับใช้กฎหมายด้วยความเป็นธรรมหรือไม่



เมื่อถามว่า เสียงที่หายไปถือเป็นงูเห่าในพรรคหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นงูเห่า เพราะส.ส.มีอิสระในการลงคะแนน ไม่สามารถห้ามได้ และที่ผ่านมาพรรคก็ไม่เคยห้ามไม่อยากเป็นกังวลเรื่องเสียงที่หายไป เพราะได้พูดมาตลอดว่า เป็นพรรคเล็ก แต่มีคุณภาพ แต่ถ้าหวังทำพรรคใหญ่ พรรคจะไม่เติบโต และอยากให้กลับไปดูในคะแนนที่หายไปของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ 9 เสียง



ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีมาตรการดำเนินการอย่างไรกับ 5 เสียงที่หายไปของส.ส.พรรคเพื่อไทย พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ไม่มี เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ และ 5 เสียงที่หายไป ก็ยืนยันว่า ไม่มีการถูกซื้อตัวตามที่มีข่าวออกมา แต่ที่สำคัญมากกว่าคือ เสียงรัฐบาลหายไป 9 เสียง ที่แสดงให้เห็นว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลก็ยังปันใจเหมือนส.ส.เพื่อไทย เป็นเรื่องธรรมดา อย่าไปคิดมาก เมื่อถามว่า หากความเห็นของส.ส.ไม่ตรงกับพรรค จะพิจารณาขับออกจากพรรคหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ไม่มี เพราะถือว่า เป็นอิสระ เพราะถือเป็นมารยาททางการเมืองที่จะไม่ขับออก แต่จะให้พิจารณาลาออกเอง ทั้งนี้สิ่งที่เราต้องคิดคือ ถ้าอยากให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญ


"กษิต"ไม่หวั่นเสียงหนุนน้อยขอลุยทำงานต่อ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมสภาฯ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้เดินทางออกจากสภา พร้อมให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า ขอขอบคุณส.ส.ที่ลงคะแนนให้ ส่วนคะแนนที่ไว้วางใจน้อยกว่ารัฐมนตรีคนอื่นนั้นไม่เป็นไร เพราะการลงมติเป็นอิสระของส.ส. รัฐบาลทำงานเป็นทีม พรรคร่วมรัฐบาลก็ร่วมมือกันดี ไม่มีอะไรมากดดัน ซึ่งผลคะแนนดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการทำงาน อยากให้ดูที่ผลงานที่ออกมามากกว่า


อย่างไรก็ตามตนไม่ถอดใจและไม่กดดันในเรื่องการทำงานต่อไป แต่จะต้องทำงานให้มีความระมัดระวังมากขึ้น ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาที่ทำงานถูกโจมตีตลอด แต่ไม่มีปัญหา และจะเดินหน้าทำงานต่อไป จากนี้ไปตนต้องเดินทางไปเยี่ยมประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยประเทศแรกจะไปเยือน คือ ประเทศพม่า เพื่อหารือถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และประเด็นเรื่องโรฮิงญา


เมื่อถามว่ากลุ่มนปช.จะชุมนุมใหญ่วันที่ 26 มี.ค.และจะยึดทำเนียบรัฐบาล นายกษิต กล่าวว่า เป็นเรื่องนปช. แต่การชุมนุมต้องมีเหตุผลตนไม่วิตกอะไร เพราะเราเป็นคนทำงานมาโดยตลอด แม้จะเป็นเป้าก็ไม่เป็นไร เพราะรู้ตัวมาตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งแล้ว ตนพร้อมสู้เพราะอาสามาทำงานการเมือง


ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวพอใจด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม กับผลคะแนนที่ออกมา ว่า การอภิปรายครั้งนี้เป็นโอกาสดีได้ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงภาพรวมวิกฤติเศรษฐกิจ และเหตุผลของรัฐบาลในการกู้เงิน เพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้รู้สึกเสียดายที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ตอนแรกจะอภิปรายเรื่องเศรษฐกิจ สุดท้ายไม่ทราบเหตุผลว่าเพราะเหตุใดถึงไม่พูด ทั้งนี้ตนอยากเสนอให้ฝ่ายค้านตั้ง"ครม.เงา"เข้าตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และเป็นตัวเลือกให้กับประชาชนในครั้งหน้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.ฉะเชิงเทรา นายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีษะเกษ นส.วิสาระดี เตชะธีรวัฒน์ ส.ส.เชียงราย ร่วมแถลงผลการลงมติไม่ไว้วางใจนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ โดยนางฐิติมา กล่าวว่า จากการที่ตนและส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายนายกษิต ที่ได้สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมการไม่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง และสายสัมพันธ์กับพันธมิตรฯ ส่งผลให้คะแนนนายกษิต ออกมาเช่นนี้ คือ ถูกยกมืออภิปรายไม่ไว้วางใจ 184 คน นั้น ถือได้ว่ามีเสียงไม่ไว้วางใจมากกว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆ ถึง 10 คะแนน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับสมัยนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ที่ได้คะแนนจากการไม่ไว้วางใจน้อย นายนภดลก็ได้แสดงสปิริตด้วยการลาออกทันที


ดังนั้น นายกษิต ควรแสดงสปิริตลาออก เพื่อเป็นการแสดงมาตรฐานเดียวกัน ด้วยเช่นกัน หากไม่ลาออก ก็สะท้อนว่าไม่มียางอาย โดยหลังจากนี้ ทางพรรคเพื่อไทยก็จะตอกย้ำให้ประชาชนเห็นพฤติกรรมนายกษิต ไปเรื่อยๆ และจะเป็นตราบาปติดตัวนายกษิตไปตลอด


นายก"อภิสิทธิ์"ยันไม่ปรับ"กษิต"พ้นเก้าอี้


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้รับคะแนนไว้วางใจจากส.ส.น้อยกว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆว่า ไม่มีปัญหา เพราะวิปรัฐบาลรายงานว่า มีส.ส.รัฐบาลที่มีสิทธิลงคะแนนได้ 234 คน แต่รัฐมนตรีทุกคนได้คะแนนมากกว่านั้น


ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องปรับนายกษิตออกจากครม.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่คิดเช่นนั้น เพราะนอกจากจะได้คะแนนเสียงเกินครึ่งแล้ว ยังได้คะแนนเกินจำนวน ส.ส.รัฐบาลด้วย


ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านมั่นใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ภายใน 1 เดือน เพราะข้อมูลที่ฝ่ายค้านอภิปรายมีความชัดเจน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงมีเรื่องที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.เพื่อไทย จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ก็คงขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกกต. ซึ่งผู้เกี่ยวข้องคงต้องไปชี้แจง แต่ตอนนี้ยังไม่คิดอะไร ยังมีหน้าที่ทำงานต่อไป เพราะเมื่อได้รับความไว้วางใจจากสภาฯ ก็จะเดินหน้าทำงานต่อไป


ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯมีความมั่นใจในการทำงานมากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีหน้าที่ทำงาน ถ้าสภาฯให้ความไว้วางใจก็ทำหน้าที่ต่อ


ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นยุบพรรคเพื่อไทย ในข้อหาใส่ร้ายป้ายสีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคำยื่นของร.ต.อ.เฉลิม ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียงของฝ่ายค้านบางส่วนที่ยกมือสนับสนุนรัฐบาล เป็นไปได้หรือไม่ว่า ในอนาคตจะมาร่วมทำงานกับรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ยังไม่ทราบว่าตัวเลขใครเป็นใคร เพราะเพิ่งลงคะแนนเสร็จ


เฉลิม ยืนยัน ข้อมูลซักฟอกเด็ด แต่คนไม่สนใจ  ตัดพ้อต้นทุนต่ำ โดนดูแคลนตลอด  อัดโพลเฮงซวย


ทางด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะไปยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณายุบพรรคเพื่อไทย ข้อหาใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็นเรื่องของนายสุเทพ


"ข้อมูลที่ผมอภิปรายไป 2 ครั้ง สื่อมวลชนฟังแล้วเข้าใจหรือไม่ ถ้าฟังแล้วไม่เข้าใจ ผมก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร ทีหลังเรื่องคุณสุเทพอย่ามาถามผม เรื่องคะแนนคุณไม่ต้องมาถามว่า ฝ่ายค้านจะได้เท่าไร ไม่ต้องกังวล มันแพ้มาตั้งแต่ก่อนยื่นแล้ว อย่าไปซีเรียส แต่ผมบอกมาตลอดว่าข้อมูลดีกว่า สปก.4-01 เมื่ออภิปรายจบก็จบ ผมถือว่าได้ทำหน้าที่ในสภาฯ จบแล้ว และต่อไปนี้ ผมจะไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ แล้วแต่สังคมและสาธารณชนจะว่าอย่างไร ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะอยู่อย่างไรต่อไปเป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของผม คุณไปเอาเงินในตลาดหลักทรัพย์มาใช้ แล้วจะมาบอกว่าสง่างาม ก็ไม่เป็นไร ประเทศชาติก็อยู่กันไป" ร.ต.อ.เฉลิม


ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ทั้งนี้ ตนจะเขียนสรุปเรื่องเพื่อยื่นให้ กกต.ดำเนินการสอบสวนกรณีการไซฟ่อนเงินด้วยตัวเองตามความถนัดในฐานะที่เคยเป็นตำรวจ และมอบให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้ยื่นเรื่อง


เมื่อถามว่า นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. ระบุว่า กกต.จะพิจารณาสอบสวนโดยยึดหลักฐานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก่อน โดยยังไม่นำหลักฐานของ ร.ต.อ.เฉลิม มาประกอบ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่เป็นไร ไม่เกี่ยว และตนไม่เคยตั้งความหวังกับ กกต. เพราะไม่ใช่หน้าที่


 "ผมต้นทุนต่ำอยู่แล้ว ไม่ได้หวังอะไร แต่ที่อภิปรายฯ เพราะต้องการบอกให้สังคมรู้ว่าเขาทำกันอย่างนี้แล้วจะว่าอย่างไร อย่ามาแสดงหนังกันให้มากนัก ดราม่าละครเมียน้อยเมียหลวงตลอด ผมถูกดูถูกดูแคลนว่า ไม่มีข้อมูล แล้วเป็นอย่างไร ตอบผมได้สักเรื่องไหม คุณสุเทพ อย่าไปพูดถึงเขาเลย ผมไม่ทราบที่ออกมาท้าเดิมพันยุบพรรค เป็นมวยออกอาการหรือเปล่า ไม่กล้าวิจารณ์ เพราะผมต้นทุนต่ำ ต้องระมัดระวังตัว ไม่เหมือนคนที่เครดิตดี ทำวิบัติอะไรไว้ก็ดีตลอด" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว


ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ส่วนที่จะมี ส.ส.พรรคฝ่ายค้านไปลงมติให้รัฐมนตรีหรืองดออกเสียงนั้น ไม่ได้ถือว่าเสียเชิงอะไร ไม่ว่าจะหายไป 10 หรือ 20 เสียงก็เท่านั้น ฝ่ายค้านไม่มีวันได้คะแนน 234 เสียงอยู่แล้ว แต่มันมีข้อมูลดี ก็ต้องอภิปรายฯ


เมื่อถามว่า จะยังทำหน้าที่ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยต่อไปหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่แน่ ถ้าพรรคบอกว่าใช้ไม่ได้ ก็เลิก ไม่มีปัญหา ไม่ยึดติดและเลิกคิดเสียทีว่า ตนจะเป็นหัวหน้าพรรค เพราะไม่มีบารมี ความรู้มี แต่ขาดบารมี ที่พูดนั้นไม่ได้น้อยใจใคร ตนไม่เคยมีเงินทางการเมือง ไม่เคยทุจริต เคยอยู่กระทรวงไหน ก็ตรวจสอบได้


เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ระบุว่า จะยอมลดบทบาทตัวเองถ้าสังคมไม่เชื่อถือข้อมูลที่อภิปราย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า แน่นอน พูดไปต่อไปใครจะฟัง ส่วนจะลดบทบาทอย่างไรก็ต้องดู แล้วสื่อเชื่อหรือไม่ ผู้สื่อข่าวตอบว่า ไม่เชื่อ ร.ต.อ.เฉลิมอุทานว่า "ตายแล้ว คนกันเองยังไม่เชื่อ" เมื่อถามว่า แล้วจะเอาอะไรเป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือของตัวเอง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ก็ถ้าโทรศัพท์เข้าบ้านรับไม่ไหว เมื่อถามอีกว่า แล้วโพลที่ออกมาก่อนหน้านี้ชี้วัดได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบสวนว่า "โธ่ ไอ้โพลเฮงซวย รัฐบาลยังไม่ตอบเลยไปทำโพลออกมาได้ได้อย่างไร ไม่บ้าก็เมา ผมไม่เคยเชื่อถือโพล ไม่เคยตื่นเต้น เพราะมันโพลเฮงซวย ดีนะที่เอาแค่เฮงซวย ไม่ด่าไอ้โพลบัดซบ"


"สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" เผย เพื่อไทย จัดฉลองความสำเร็จศึกอภิปราย ระบุ เป็นการฉลอง 2 เด้ง ทำให้โจรยอมรับสารภาพ


ทางด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในช่วงบ่าย ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ไปฉลองความสำเร็จในการอภิปรายฯ ซึ่งถือว่าครั้งนี้ฝ่ายค้านไม่ได้แพ้ แต่การฉลองครั้งนี้เป็น 2 เด้ง คือเราทำให้จอมโจรยอมรับสารภาพทั้งกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ยอมรับสารภาพโดยไม่รู้ตัวในเรื่อง SMS ซึ่งตรงนี้ชัดเจนว่า รัฐบาลไปเบียดบังผลประโยชน์ เกินกว่าเกณฑ์ที่ ป.ป.ช.กำหนด รวมทั้งกรณีเงินพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถือว่าหลักฐานชัดเจนมาก ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ดิ้นไม่หลุด


"การอภิปรายเรื่องนี้ทำให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ออกอาการลุกขึ้นมาในช่วงที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.กำลังสรุปการอภิปรายฯ ทั้งหมด ซึ่งตรงนี้ถือว่า นายสุเทพ เสียมารยาท เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น เพราะตามมารยาทแล้ว ควรปล่อยให้ผู้อภิปรายฯ พูดให้จบก่อน"นายสุรพงษ์ กล่าว


ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยยังฉลองในแง่ที่ว่า ผลการลงมติครั้งนี้ทำให้ได้รู้ว่า ใครอยู่ฝ่ายไหน โดยเฉพาะกลุ่ม ส.ส.กลุ่มหนึ่งในพรรคเพื่อไทย ที่ตัวอยู่กับพรรคเพื่อไทยแต่ใจอยู่กับพรรคอื่น ในกรณีเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย 7-8 คน งดออกเสียงในการลงมติ นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย กับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ซึ่งตรงนี้สะท้อนถึงธาตุแท้ที่ ส.ส.กลุ่มดังกล่าวไปสนับสนุนรัฐมนตรี จากพรรคภูมิใจไทย


"ผมคงไม่ไปเรียกร้องให้พรรคดำเนินการกับ ส.ส. กลุ่มดังกล่าว เพราะถือว่า ส.ส.ทุกคนควรมีจิตสำนึกว่าตัวเองอยู่พรรคไหน ควรปฏิบัติอย่างไร แต่เชื่อว่า ต่อไปนี้พรรคเพื่อไทยจะดูอะไร ๆ มากขึ้น" นายสุรพงษ์ กล่าว


 



ที่มาเรียบเรียงจาก: เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์, มติชนออนไลน์, เว็บไซต์คมชัดลึก, แนวหน้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net