การเมือง

 

"เสื้อแดง"เดินสาย"4 จังหวัด"ปลุก"ม็อบ"เตรียมพร้อมบุก"กรุงฯ"

เว็บไซต์คมชัดลึก - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงสาเหตุการเลิกการชุมนุมยืดเยื้อของกลุ่มคนเสื้อแดงว่าช่วงเย็นเมื่อวันที่ 26 ก.พ. แกนนำคนเสื้อแดงทั้งหมดได้ร่วมประชุมกันที่หลังเวทีใหญ่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อหาข้อสรุปการชุมนุม ซึ่งแกนนำเห็นพ้องต้องกัน ว่า การชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในวันนี้ ไม่สามารถชนะรัฐบาลได้ เพราะหากย้อนกลับไปดูการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการขับไล่รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ก็ไม่ได้รับชัยชนะ เพราะทั้งรัฐบาลสมัคร และรัฐบาลทักษิณ นั้นต้องยุติลงด้วยการรัฐประหารและการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แกนนำคนเสื้อแดงจึงเห็นว่าหากต้องการเอาชนะรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ก็ต้องมีมวลชนเข้าร่วมมากกว่ามวลชนของพันธมิตรฯ นอกจากนี้เรายังเห็นร่วมกันว่าควรจุยุติการชุมนุม และรื้อเวทีเพื่อเปิดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ที่ทรงเสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตร ที่สวนอัมพร ซึ่งทางแกนนำได้รับการประสานมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าในเวลา 10.00 น.ของวันที่ 27 ก.พ.

 

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า แกนนำเห็นร่วมกันว่าระยะเวลา 1 เดือนที่เราพักไปนั้นเพื่อจะสร้างพลังแล้วจะกลับมาใหม่ โดยให้แกนนำในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่มีอยู่ในทุกหมู่บ้านทุกตำบลได้สร้างเครือข่ายและตั้งเวที โดยแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงพร้อมเดินทางไปร่วมในทุกพื้นที่ ซึ่งได้กำหนดที่จะมีการจัดเวทีความจริงวันนี้สัญจรในส่วนภูมิภาค คือในวันที่ 8 มีนาคม จะมีเวทีใหญ่ที่ จ.ขอนแก่น, วันที่ 14 มีนาคม ที่ จ.อยุธยา, วันที่ 15 มีนาคมที่ จ.จันทบุรี และวันที่ 22 มีนาคม ที่ จ.เชียงใหม่ จากนั้นถนนทุกสายจะมุ่งตรงมายังกรุงเทพมหานคร ซึ่งการมาครั้งนี้บอกได้เลยว่าจะหนักกว่าและนานกว่าครั้งที่ผ่านมาแน่นอน

 

"ณัฐวุฒิ" โวยไม่มีชื่อ "กษิต" ร่วมแก๊ง "21 พธม." ชี้รัฐบาลกำลังใช้สองบรรทัดฐาน

เว็บไซต์คมชัดลึก - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการออกหมายจับ 21 แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ไม่มีชื่อนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายจำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลชุดนี้กำลังทำอะไรอยู่ เพราะครั้งแรกที่มีการพูดถึงเรื่องหมายจับครั้งแรกนั้น เป็นเรื่องของการยึดสนามบินสุวรรณภูมิและการยึดทำเนียบรัฐบาล แต่เมื่อรายชื่อออกมากลับพูดว่าเป็นคดีปิดล้อมอาคารรัฐสภา และเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ไม่ใช่ออกหมายจับคดียึดทำเนียบฯ ซึ่งแสดงให้เห็นข้อพิรุธว่าเป็นการกระทำเพื่อไม่ให้มีการออกหมายจับหรือไม่ เพราะคดียึดทำเนียบฯเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม แต่เหตุการณ์ปิดล้อมอาคารรัฐสภาเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม ซึ่งห่างกันกว่า 2 เดือน แต่เรื่องกลับเข้าสู่กระบวนการก่อนนั้นหมายความว่าอย่างไร จะมาแก้ตัวว่าไม่มีใครไปแจ้งความร้องทุกข์การกระทำของนายกษิตไม่ได้ เพราะเป็นความผิดซึ่งหน้า ที่มีหลักฐานต่างๆมากมาย และถ้าคิดกันอย่างนั้นก็หมายความว่าหากไปโจรปล้นธนาคาร 8 คนแล้วอีก 2 คนไม่มีใครรู้ว่าร่วมกระทำด้วยก็ต้องหลุดพ้นจากคดีใช่หรือไม่

 

ศาลนัดฟังคำสั่งคดี "ทักษิณ" ฟ้องสนธิ-สโรชา 26 มี.ค.

เว็บไซต์สยามรัฐ - วันนี้(27ก.พ.52) ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายสมบูรณ์ คุปติมนัส ผู้รับมอบอำนาจ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, นางสโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ดำเนินรายการ ASTV และบริษัทแมเนเจอร์ มีเดียร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332

 

คดีนี้โจทก์ ยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2550 สรุปว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2550 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันจัดรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV และลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันของจำเลยที่ 3 โดยนำเอาเทปบันทึกภาพรายการซึ่งจำเลยที่ 1-2 กล่าวปราศรัยที่สหรัฐอเมริกามาเผยแพร่ โดยอ้างคำบอกเล่าของ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ว่าสาเหตุที่ต้องออกจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากทนไม่ได้ที่ในช่วง 8 ชั่วโมงแรกหลังมีการยึดอำนาจรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 โจทก์ได้พูดจาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงด้วยคำพูดที่เลวทรามต่ำช้า ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่แขวงขนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร และทั่วราชอาณาจักร ขอให้ลงโทษตามกฎหมาย

 

โดยในชั้นไต่สวนมูลฟ้องวันนี้ นายประชุม ทองมี ทนายความโจทก์ นำพยานขึ้นเบิกความต่อศาลเพียงปากเดียวจนเสร็จสิ้น ซึ่งศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ วันที่ 26 มีนาคมนี้ เวลา 09.30 น.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มอบหมายให้ทนายความ ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสามต่อศาลแพ่ง เรียกค่าสินไหมทดแทน 2,000 ล้านบาท เรื่องละเมิดจากกรณีเดียวกันนี้ด้วย

 

อัยการประสาน สตช.ตรวสอบที่อยู่ "แม้ว"

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานติดตามตัวนักการเมืองที่หลบหนีหมายจับไปอยู่ต่างประเทศเป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับมารับโทษตามคำพิพากษาของศาลในประเทศไทย กล่าวถึงการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งล่าสุดมีข่าวพำนักอยู่ที่ฮ่องกง ว่าขณะนี้อัยการได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ซึ่งภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้จำคุก 2 ปี คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกแล้ว ศาลฎีกาฯ ได้ส่งหมายจับให้กับ สตช. โดยอัยการได้ดำเนินการขอเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อีกทั้งขอให้ตรวจสอบที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้แน่นอน เพื่อนำมาประกอบขั้นตอนขอส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับโทษในประเทศไทย ตามสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

 

"นภดล" ติงนำตัว "ทักษิณ" กลับไทยต้องอยู่ในกรอบ กม.

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้กงสุลขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จากประเทศจีนกลับมาดำเนินคดีนั้น แม้จะเป็นสิทธิของรัฐบาลที่สามารถจะนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีได้ แต่ก็ต้องอยู่ในกรอบของสนธิสัญญาที่ประเทศไทยมีระหว่างประเทศซึ่งทำได้โดยผ่านองค์กรระหว่างประเทศเท่านั้น

 

นายนพดล แสดงความไม่เข้าใจว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่กำลังไปสืบหาที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปโดยอาศัยกฎหมายของฮ่องกงหรือกฎหมายไทยในแง่ใด แต่ไม่ควรอาศัยวิธีการนอกกรอบทุกวิถีทางโดยมุ่งหวังทำลายล้าง พ.ต.ท.ทักษิณ

 

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีกำหนดจะปาฐกถาพิเศษที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่ฮ่องกง ในวันที่ 2 มี.ค.นั้น ยืนยันว่าไม่ใช่การเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มักถูกเชิญจากหน่วยงานต่างประเทศให้ไปบรรยายพิเศษในโอกาสต่างๆ ซึ่งครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะแสดงวิสัยทัศน์ถึงแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใต้สภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน

 

รสนา ตบะแตกโวยข่าวมวยล้ม

เว็บไซต์ไทยรัฐ - วานนี้ (27 ก.พ.) ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภามีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ขอหารือกรณีมีข่าวเดินทางไปดูงานที่ประเทศแอฟริกาใต้ ร่วมกับคณะของ น.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานวุฒิสภา ที่เป็นประธานคณะสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนำสามีเข้าห้องประชุมรัฐสภา จนเกิดข้อครหาว่าอาจเป็นมวยล้มนั้น คิดว่าคนให้ข่าวต้องเป็น ส.ว. ด้วยกันเองที่พยายามใส่ร้าย จึงอยากให้มีการสอบสวนข่าวดังกล่าวเพื่อความเป็นธรรมแก่ตน

 

จากนั้นนายสมชาติ พรรณพัฒน์ ส.ว.นครปฐม ลุกขึ้นแสดงความเห็นว่า น.ส. รสนาควรยุตินำเรื่องนี้มาพูดในที่ประชุม เพราะปกติมักจะเห็นสามีของ น.ส.รสนาเดินตามหลังเข้าห้องประชุมเป็นประจำ อาจเป็นเพราะความเคยชินโดยไม่เจตนาก็ได้ เมื่อนายสมชาติกล่าวจบ น.ส.รสนาได้ลุกขึ้นตอบโต้ด้วยความไม่พอใจ โดยกล่าวหาว่านายสมชาติพูดเท็จกลางสภา เมื่อเห็นว่าเรื่องจะบานปลาย นายนิคมขอร้องว่าให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ใกล้จะสรุปแล้ว ขณะนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าใครพูดจริงพูดเท็จ

จากนั้นได้เข้าสู่วาระการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรในวาระแรก โดย ส.ว.หลายคนแสดงความเป็นห่วงว่า การเพิ่มให้ผู้ประกอบอาชีพ ค้าอัญมณี เช่าซื้อรถยนต์ นายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ค้าของเก่า สินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต ต้องรายงานการทำธุรกรรมต่อสำนักงาน ปปง. อาจกระทบสิทธิเสรีภาพผู้ประกอบอาชีพดังกล่าว และเกรงว่าจะเป็นช่องทางให้ กลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามได้ ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ในอนาคตต้องปรับปรุงแก้ไขให้กฎหมายสมบูรณ์และชัดเจนกว่านี้ เพื่อมิให้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งกันทางการเมือง แต่หากให้แก้ให้สมบูรณ์ก่อนอาจไม่ทันกับการจัดการกลุ่มอาชญากรฟอกเงิน ในที่สุดที่ประชุมจึงมีมติให้ความเห็นชอบด้วยคะแนน 85 ต่อ 5 งดออกเสียง 2

 

กกต.ล้อมคอกสมาชิกพรรคการเมือง

เดลินิวส์ - เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ถนนแจ้งวัฒนะ นายกฤช เอื้อวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า กกต.ได้มีมติเห็นชอบร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยการจัดทำและบริหารระบบฐานข้อมูลการเป็นสมาชิกพรรคในระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองกับฐานข้อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์ทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองตรงกัน นอกจากนี้ยังได้เห็นชอบการแก้ไขประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง ข้อที่ 6 เกี่ยวกับ การรายงานการสมัครสมาชิกพรรคทุกวันศุกร์ ของสัปดาห์ที่มีการสมัคร

 

นายกฤช กล่าวว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้มีปัญหากรณีที่มีการส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ กกต. มองว่า เมื่อไม่มีการจัดส่งสำเนาใบสมัครมาให้ กกต. ทุกวันศุกร์จะถือว่าการเป็นสมาชิกพรรคไม่สมบูรณ์ แต่ศาลฎีกาได้เห็นต่างจาก กกต. จึงเห็นควรให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมใน 2 ประเด็นคือ 1.เพิ่มข้อความใน ข้อ 6 ว่าหากพรรคไม่ส่งสำเนาใบสมัครในทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ที่มีการสมัครให้ถือเป็น ข้อสันนิษฐานว่าไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค เว้นแต่จะมีการพิสูจน์เป็นอย่างอื่น 2.ให้แก้ไขข้อ 10 (2) ให้สอดคล้องกับข้อ 6 ว่า ในการแจ้งเพิ่มลดสมาชิกพรรคเป็นรายไตรมาสให้พรรคการเมืองจัดส่งสำเนาเอกสารใบสมัครและหลักฐานให้ครบถ้วนภายในไตรมาสนั้นเว้นแต่ว่าได้มีการส่งแล้วในการรายงานทุกวันศุกร์เมื่อมีการสมัครสมาชิกใหม่

 

กก.สรุปสินบนอุโมงค์ กทม.ไม่มีคนผิด

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - นายสมศักดิ์ กลั่นพจน์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีสินบนอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ-ลาดพร้าว สมัยนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และข้าราชการ 3 ราย ที่ถูกสำนักงานการตรวจแผ่นดิน (สตง.) ประกอบด้วย นายชาญชัย วิทูรปัญญากิจ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ นางสาวสุทิพย์ ทิพย์สุวรรณ์ รอง ผอ.สำนักงบประมาณ และ นายพรพจน์ กรรณสูต รอง ผอ.สำนักการระบายน้ำ ร้องทุกข์กล่าวโทษ ในฐานะที่เป็นคณะกรรมการประกวดราคาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางเลขานุการคณะกรรมการ อยู่ระหว่างการร่างสรุปสำนวน การสอบสวน เพื่อให้ตนลงนามในสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอปลัด กทม.และ สตง.รับทราบต่อไป

 

จากการสอบปากคำ และตรวจสอบเอกสารทั้งหมด พบว่าทุกขั้นตอนเป็นไปตามระเบียบ กทม. ไม่พบข้อผิดพลาดแต่อย่างใด และไม่พบการจัดจ้างราคาแพงเกินจริง โดยคณะกรรมการได้เปรียบเทียบราคาการสร้างอุโมงค์ของรถไฟฟ้าใต้ดินพบว่าอยู่ในระดับเท่ากัน ส่วนราคาที่ สตง.นำมาคิดนั้นคาดว่าน่าจะนำข้อมูลมาจาก บริษัท สี่แสงการโยธา จำกัด ที่แพ้ประมูล โดยเสนอราคา 1,700 ล้านบาท มาเปรียบเทียบกับราคาของ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ซึ่งชนะการประมูลในวงเงินกว่า 2,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากบริษัท สี่แสงการโยธา ไม่ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิค ทำให้บริษัทไปยื่นฟ้อง กทม.กับศาลปกครองกลาง ซึ่งสุดท้ายศาลก็ยกฟ้องไปแล้ว

 

รองปลัด กทม.กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงในการเรียกรับสินบนตามที่มีการเสนอข่าวว่าทางการญี่ปุ่นได้สอบสวนบริษัท นิชิมัตสึ จำกัด ซึ่งร่วมทุนกับบริษัท อิตาเลียนไทยฯ อีกทั้งไม่พบความเชื่อมโยงถึงตัวนายสมัคร จึงไม่จำเป็นต้องเชิญเข้าให้ปากคำและทางกระทรวงการต่างประเทศก็ไม่ได้จัดส่งข้อมูลเกี่ยวกับทางบริษัทญี่ปุ่นมาให้แต่อย่างใด

 

ผ่านฉลุย วุฒิสภารับหลักการร่างพ.ร.บ.3ฉบับ
มติชนออนไลน์ - การประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ มี น.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานสภาวุฒิสภา คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. .... ด้วยคะแนน 83 ต่อ 0 งดออกเสียง 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาโดยกำหนดแปรญัตติ 7 วัน จากนั้น มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ..... ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 83 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 21 คน ประกอบด้วยคณะกรรมาธิการการเงินการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็กเยาวชนสตรีผู้สูงอายุคนพิการและผู้ด้อยโอกาส และคณะกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา รวม 17 คน และ ครม. 4 คน กำหนดแปรญัตติ 7 วัน

นอกจากนี้ ยังรับหลักการร่าง พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล ในเขตท้องที่บางซื่อ จตุจักร ห้วยขวาง ดินแดง ราชเทวี วัฒนา คลองเตย ปทุมวัน สาทร ด้วยคะแนน 77 ต่อ 2 งดออกเสียง 1 เสียง โดยให้คณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภาพิจารณา กำหนดแปรญัตติ 7 วัน

 

 

เศรษฐกิจ

 

ทีดีอาร์ไอเตือน 3 จีสะดุดเร่งทีโอทีตัดหน้าเอกชน

เว็บไซต์ไทยโพสต์ - นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ รองประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้การลงทุนโครงข่ายเทคโนโลยี 3จี ทั้งรัฐและเอกชนได้รับปัญหาจากการหาแหล่งเงินทุนไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะการลงทุนของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการพัฒนาโครงข่าย 3จี บนคลื่นความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ มูลค่ากว่า 29,000 ล้านบาท เป็นโครงการขนาดใหญ่สำหรับรัฐวิสาหกิจจะหาแหล่งเงินกู้ยาก เพราะต้องผ่านความเห็นชอบหลายขั้นตอน และขณะนี้หนี้สาธารณะของประเทศอยู่ในระดับสูง การกู้ยืมเงินซึ่งถือเป็นหนี้สาธารณะยิ่งเพิ่มความยากลำบากขึ้นไปอีก

 

อย่างไรก็ตาม การกู้เงินขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหารของทีโอที สามารถเจรจากับรัฐบาลและจัดทำแผนธุรกิจโน้มน้าวให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญในการลงทุนและการเพิ่มรายได้ ซึ่งหากทีโอทีสามารถดำเนินการด้าน 3จี เร็วกว่ารายอื่น ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจและการสร้างแบรนด์ อย่างโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) เอดีเอสแอล ช่วง 2-3 ปีก่อนที่ติดปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างจนทำให้กลุ่มทรูเป็นผู้ทำตลาดก่อน และกลายเป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน

 

นอกจากนี้ คดีพิพาทของทีโอทีกับเอกชนจะส่งผลต่อสถานะการเงินในอนาคตด้วย ล่าสุด กรณีทีโอทีไม่มีอำนาจกำกับดูแลบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) แต่ยังมีสิทธิประโยชน์ตามสัญญาทางแพ่งและพาณิชย์ โดยประเด็นสำคัญ คือ จะมีข้อพิพาทต่อเนื่องอีกหรือไม่ เช่น การแบ่งส่วนแบ่งรายได้

 

รายงานแจ้งว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) ทีโอที มีมติให้ทีโอทีพัฒนาสถานีฐานที่มีอยู่ 500 สถานี เพื่อเปิดให้บริการ 3จี ได้ทันปีนี้ ส่วนการลงทุนขยายโครงข่ายใหม่ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องรอความชัดเจนในเดือน เม.ย.เนื่องจากต้องรอ ครม.อนุมัติแหล่งเงินกู้ ส่วนเงินลงทุนต้องดูกระแสเงินสด หากไม่พอจำเป็นต้องหาแหล่งเงินกู้เช่นกัน ขณะที่การลงทุนในปีนี้ยังมีการพัฒนาโครงข่ายเดิมสู่โครงข่ายยุคหน้า หรือเอ็นจีเอ็น วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท

 

ชู "อาหาร-บริการ" เจาะตลาดอินเดียเชื่อยอดส่งออกพุ่ง

เว็บไซต์แนวหน้า - นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ รองกงสุลใหญ่ฝ่ายการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อินเดียยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง โดยปี 2551 ขยายตัวถึง 7% ทำให้ผู้ส่งออกไทยจำนวนมากหันมาเจาะตลาดอินเดียมากขึ้น เพราะตลาดอื่นๆเริ่มซบเซาจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก โดยสินค้าที่มีโอกาสเติบโตได้ในตลาดอินเดีย ได้แก่ สินค้าเกษตรแปรรูป และเครื่องจักรกลทางการเกษตรของไทยที่กำลังเป็นที่สนใจของชาวอินเดีย เพราะมีกำลังผลิตมากกว่าสินค้าที่ผลิตในอินเดียถึง 3 เท่า

 

"อีกสาขาหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ร้านอาหาร ซึ่งภาครัฐควรสนับสนุนให้มีการร่วมทุนกับนักธุรกิจอินเดียในลักษณะแฟรนไชส์ โดยเฉพาะร้านก๋วยเตี๋ยว เพราะจะแก้ปัญหามันสำปะหลังล้นตลาดได้ เนื่องจากถ้ามีร้านก๋วยเตี๋ยวในต่างประเทศมากขึ้น การส่งออกเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำจากมันสำปะหลังก็จะเพิ่มขึ้น" นายไพศาล กล่าว

 

ด้าน น.ส.จิราภรณ์ ตุลยานนท์ ผอ.สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย กล่าวว่า ในอนาคตสินค้าประเภทอาหารของไทยจะส่งออกไปยังอินเดียได้มากขึ้น เพราะหลายเมืองของอินเดียกำลังเร่งสร้างศูนย์การค้า และซุปเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มขึ้น

 

สปส.เมินนายจ้าง-ลูกจ้าง "ล้ม" ลดเงินสมทบ 2.5%

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึง กรณีข้อเสนอของนายจ้าง ลูกจ้างให้ลดส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมฝ่ายละ 2.5% ว่า ความจริงเรื่องนี้เป็นนโยบายของนายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน และบอร์ด สปส.ซึ่งเคยเสนอแนวคิดนี้ แต่ปรากฏว่าได้รับการคัดค้านจากฝ่ายแรงงานและนักวิชาการ จึงชะลอแนวคิดออกไป

 

ขณะที่รัฐบาลมีนโยบายแจกจ่ายเงิน 2,000 บาทต่อรายให้กับผู้ประกันตน รวมถึงมาตรการต่างๆ แต่การที่ สปส.นำเงิน 10,000 ล้านบาท ไปให้ลูกจ้าง นายจ้างกู้เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมจะพิจารณาใหม่ หากเป็นการเสนอของนายจ้างและลูกจ้าง

 

นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการกองทุนประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึง การแจกจ่ายเงิน 2,000 บาทต่อราย ให้กับผู้ประกันตนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท ว่างบประมาณ 1.6 หมื่นล้าน ที่รัฐบาลให้เพื่อดำเนินการจ่ายเงินรายละ 2,000 บาทให้กับลูกจ้างผู้ประกันตนจำนวน 8.3 ล้านคน

 

หากมีการของบเพิ่มเติมจากทางรัฐบาลอีกครั้ง คงเป็นงบที่ต้องใช้จ่ายเพิ่มเติม อาทิเช่น ค่าใช้จ่ายในการออกรถโมบายไปยังสถานประกอบการ หรือค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ในการออกเช็ค

 

"สปส.ต้องของบเพิ่มจากรัฐบาล ผมคิดว่าน่าจะเกิน 15 ล้านบาท ตอนนี้ต้องรอว่าค่าธรรมเนียมออกเช็คของธนาคารพาณิชย์แห่งไหน มีความคุ้มค่ามากที่สุด จะทำให้ประหยัดเงินต้นทุนในการจ่ายและสามารถเฉลี่ยไปใช้ในส่วนอื่นๆ ได้" นายปั้นกล่าว

 

นายปั้น กล่าวว่า ผู้ประกันตนในมาตรา 38 (ผู้ว่างงานหรือถูกปลดออกจากงาน) จะได้รับเงิน 2,000 บาทต่อรายแน่นอน แต่จะได้ล่าช้าดังนั้นผู้ประกันตนควรเร่งมาลงทะเบียนเพื่อพิสูจน์สิทธิโดยเร็ว เพราะ สปส. ต้องตรวจสอบข้อมูลจากนายจ้าง ขณะนี้ มีผู้ประกันตนมาลงทะเบียนแล้วกว่า 2.6 ล้านคน

 

นายปั้น กล่าวถึง กรณีที่การนิคมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เสนอให้ สปส.พิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณ จากเงินเพื่อเกษียณอายุหรือกองทุนชราภาพมาใช้เสริมสภาพคล่องและชำระหนี้สินให้กับ สถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ ว่า ขณะนี้ ยังไม่เห็นข้อเสนอของ กนอ. หากบอร์ด สปส.เห็นว่าวิธีการดังกล่าวสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ ก็ต้องพิจารณาว่าเงื่อนไขที่ กนอ. เสนอมาเข้าข่ายเหมือนกรณีที่ สปส.นำเงินไปฝากไว้กับธนาคาร เพื่อปล่อยกู้ให้กับลูกจ้างและนายจ้างที่ได้รับความเดือดร้อน หากเข้าข่ายตนก็จะนำเสนอที่ประชุมบอร์ด สปส. พิจารณาอีกครั้ง

 

"ผมเห็นว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเงินในกองทุน สปส. จำนวนกว่า 5 แสนล้านบาทนั้น ไม่ได้อยู่ในรูปของเงินสดที่ฝากไว้ตามธนาคารต่างๆ แต่มันอยู่ในรูปแบบพันธบัตรของรัฐบาลซึ่งจะได้ผลกำไรในอีก 20-30 ปีข้างหน้า หาก สปส.นำเงินกองทุนมาให้สถานประกอบการเสริมสภาพคล่องทางการเงินผมว่าเป็นการเสียรายได้ และเสียโอกาสที่กองทุนได้รับในอนาคต" นายปั้นกล่าว

 

นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า วันที่ 16 มี.ค. จะประชุมเพื่อพิจารณาหลักสูตรในการฝึกอบรมที่ในแต่ละกระทรวงเสนอ จะพิจารณาโครงการฝึกอบรมของโรงงานที่เข้าร่วมโครงการด้วย ส่วนการฝึกอบรมจะเน้นสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน และยอดการสั่งซื้อลดลง โดยมีเงื่อนไขว่าโรงงานที่ได้รับการพิจารณาต้องไม่ปลดคนงานภายใน 1 ปี

 

ม็อบเลิกจ้างปิดล้อม ก.แรงงาน

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงแรงงาน ว่า ได้มีพนักงานบริษัท แคนาดอล เอเชีย จำกัด และบริษัท แคนาดอลไพพ์ จำกัด จำนวนกว่า 500 คน บุกเข้าปิดล้อมบริเวณด้านหน้ากระทรวง นำโดยนายสุธีร์ บูรณะพล ประธานสหภาพแรงงานแคนาดอลประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้นายไพฑูรย์ ช่วยเหลือกรณีที่นายจ้างบริษัทเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยนำรถกระบะติดเครื่องเสียงปักหลักปิดล้อมประตูทางเข้า-ออก ของกระทรวงแรงงาน ทั้ง 7 ประตู เพื่อไม่ให้ข้าราชการและบุคคลภายนอกที่มาติดต่อราชการเข้าออกได้

 

นอกจากนี้ ยังได้นำเต็นท์และผ้าพลาสติกมาขึงทำเป็นที่พักหลบแดด ที่ด้านหน้าประตูทุกด้านสร้างความเดือดร้อนให้กับข้าราชการและคนภายนอกไม่ได้รับความสะดวก ทำให้ข้าราชการไม่พอใจบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นการลิดรอนสิทธิของผู้อื่น ทำให้เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานจำนวนมาก ต่างปีนรั้วออกจากกระทรวง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีกลุ่มพนักงานบริษัท เมย์ฟิลด์ จำนวน 200 คน ถูกเลิกจ้าง เดินทางปักหลักประท้วงค้างคืนภายในบริเวณห้องโถง ชั้นล่างอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน

 

คุณภาพชีวิต

 

เกิดโรคใหม่เจ็บปวดที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง โรคของเด็กเล่นเกม

เว็บไซต์ไทยรัฐ - วารสาร "วิทยาการโรคผิวหนัง" ของอังกฤษเปิดเผยว่า แพทย์โรคผิวหนังได้พบว่าผู้ที่ติดเล่นเกมเป็นประจำ จะเป็นโรคผิวหนังที่ฝ่ามือโรคใหม่ มีอาการปวดเจ็บที่ฝ่ามืออย่างรุนแรง

 

รายงานในวารสาร ได้ยกตัวอย่างคนไข้เป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี ที่โรงพยาบาลสวิสแห่งหนึ่ง ซึ่งเกิดเจ็บปวดที่ฝ่ามืออย่างหนัก หลังจากเล่นเกมอยู่ประจำ และต้องหยุดเล่นโดยสิ้นเชิงนาน 10 วันถึงได้กลับเป็นปกติ

แพทย์ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเจนีวา ได้ลงความเห็นว่า คนไข้เป็นโรคผิวหนัง เป็นตุ่มแดงที่ฝ่ามือและที่ส้นเท้า อาการแบบนี้ เคยพบแต่เป็นอยู่ที่ส้นเท้าของเด็กที่ชอบเล่นออกกำลังแรงๆ อย่างเช่น การวิ่งเหยาะๆ เท่านั้น และคาดว่า อาจจะเกี่ยวโยงกับการเหงื่อออกมากๆ ด้วย แต่ที่มาเป็นที่มือนับว่าเป็นเรื่องแปลกมาก

 

เด็กหญิงคนไข้กล่าวว่าไม่ได้ออกกำลังรุนแรงในระยะเวลาเมื่อไม่นานมานี้แต่อย่างใด และก็นึกไม่ออกว่าเคยใช้มือทำอะไรหนักๆ มาด้วย แต่ผู้เป็นพ่อแม่เล่าว่า ลูกของตนเพิ่งจะคลั่งเล่นวีดิโอเกม บนคอนโซล เพลย์ สเตชั่นวันละหลายชั่วโมง มาเมื่อไม่กี่วันก่อนนี่เอง และก็ยังทนเล่นอยู่แม้แต่เมื่อเกิดเจ็บมือขึ้นแล้ว

แพทย์ยังสงสัยว่า อาการเจ็บ อาจจะเกิดจากที่คนไข้ ใช้มือกำด้ามบังคับของคอนโซลแน่นไป ซ้ำยังต้องใช้มือกดปุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่เหงื่อตกจากความตื่นเต้นกับเกมไปด้วย

 

ไฟป่าเหนือวิกฤติ ฝุ่นเกินมาตรฐานกระทบสุขภาพ

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - กรมควบคุมมลพิษเผยผลตรวจปริมาณฝุ่นขนาดเล็ก 8 จังหวัดภาคเหนืออ่วมฝุ่นเกินมาตรฐานส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ลำปางหนักสุดสูงถึง 259.8 มคก./ลบ.ม. ขณะที่สถานการณ์ไฟป่ายังวิกฤติตรวจพบกว่า 500 จุด ด้านเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดปัดไม่ใช่ตัวการก่อ "หมอกควัน" เชียงใหม่เชื่อเกิดจาก "ไฟป่า" ที่ชาวบ้านลอบเผา เพื่อเก็บผักหวาน-ล่าสัตว์เป็นหลัก

 

ศาล ปค.ยกฟ้อง นร.พลาดเอเน็ต

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - จากกรณีที่ นายสุวินัย กิตติเจริญฤกษ์ นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กับพวกซึ่งเป็นนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนต่างๆ รวม 30 คน ยื่นฟ้อง สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยเลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา, คณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 ศาลปกครองกลาง วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา เรื่องขอให้เพิกถอนมติตัดสิทธินักเรียนสมัครเข้าทดสอบ A-NET และมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องให้โอกาสผู้ฟ้องคดีเข้าทดสอบ A-NET ในปีการศึกษา 2552 พร้อมขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวเพื่อให้นักเรียนกลุ่มดังกล่าว ได้สอบเอเน็ตทันในวันที่ 28 ก.พ.นี้ นั้น

ภายหลังจากที่ศาลโดยนายวชิระ แต่งชอบ ตุลาการศาลปกครองกลาง เจ้าของสำนวน ดังกล่าว ได้ไต่สวนนายสุวินัย นักเรียน ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และพยานปากอื่นรวม 4 ปาก เมื่อวันที่ 24 ก.พ. และไต่สวนผู้แทนจาก สกอ. ในวันที่ 25 ก.พ. แล้ว ล่าสุดวันนี้ (27 ก.พ.) นายวชิระ ตุลาการเจ้าของสำนวน ได้มีคำสั่งยกฟ้องคดีดังกล่าวแล้ว

 

 

ต่างประเทศ

 

ผู้ดีรับแล้วส่ง "นักรบข้าศึก" ให้มะกันขัง

เว็บไซต์ไทยโพสต์ - รัฐบาลอังกฤษสารภาพเป็นครั้งแรกหลังจากปฏิเสธมานานปี รัฐมนตรีกลาโหมรับอังกฤษมีส่วนร่วมในกระบวนการส่งตัวผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายเข้าเงื้อมมือสหรัฐให้จัดการตามอำเภอใจ โดยส่ง "นักรบข้าศึกเถื่อน" 2 รายที่จับได้ในอิรักให้สหรัฐก่อนถูกส่งตัวไปรีดข้อมูลที่อัฟกานิสถานเมื่อ 5 ปีก่อน

 

จอห์น ฮัตตัน รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ แถลงยืดยาวต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพฤหัสบดี ยืนยันว่า กองทัพอังกฤษในอิรักได้ส่งตัวผู้ต้องสงสัย 2 รายที่ทหารจับได้ในอิรักเมื่อเดือน ก.พ. 2547 ให้สหรัฐควบคุมตัว และสุดท้ายบุคคลทั้งสองได้ถูกเคลื่อนย้ายไปคุมขังที่อัฟกานิสถานโดยละเมิดข้อตกลงที่สหรัฐและอังกฤษเคยทำไว้ร่วมกัน ที่ระบุว่าผู้ต้องสงสัยที่ถูกทหารอังกฤษจับกุมในอิรักจะต้องไม่ถูกเคลื่อนย้ายออกจากอิรักหากไม่มีการปรึกษาหารือกันก่อน

 

กระทรวงกลาโหมอังกฤษเคยยืนกรานปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ว่าอังกฤษไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการส่งมอบตัวผู้ต้องสงสัยให้สหรัฐโยกย้ายไปยังประเทศ และอังกฤษไม่เคยมีส่วมร่วมในกระบวนการผิดกฎหมายดังกล่าว

 

"ผมเสียใจที่ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่า กระทรวงของผมได้ส่งมอบข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับประเด็นนี้มายังสภาผู้แทนราษฎรหลายครั้งหลายคราว ผมอยากขอโทษต่อสภาสำหรับความผิดพลาดเหล่านี้" ฮัตตันกล่าว

 

รายงานระบุว่า ชาย 2 นี้เป็นสมาชิกกลุ่มลัสการ์อีตออิบะห์ กลุ่มนักรบจากปากีสถานที่มีความเชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ และถูกอินเดียโทษว่าอยู่เบื้องหลังการก่อวินาศกรรมมุมไบเมื่อปีที่แล้วซึ่งคร่าชีวิตคนมากกว่า 165 คน

 

ฮัตตันกล่าวด้วยว่า สหรัฐอ้างว่าต้องส่งคนทั้งสองไปอัฟกานิสถานเพราะที่อิรักไม่มีล่ามที่จะช่วยให้สามารถสอบปากคำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สหรัฐได้ให้คำรับประกันว่าผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ ซึ่งถูกจัดเข้าจำพวก "นักรบข้าศึกผิดกฎหมาย" จะได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสมในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีมนุษยธรรมที่อัฟกานิสถาน

 

ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า การยอมรับของรัฐบาลอังกฤษครั้งนี้เป็นแค่ส่วนยอดที่โผล่พ้นน้ำของภูเขาน้ำแข็ง และเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้กระจ่าง

 

สหรัฐเล็งยุติยุทธการอิรักปีหน้า

เว็บไซต์ไทยโพสต์ - เผยผู้นำสหรัฐเตรียมประกาศแผนการถอนทหารหน่วยรบออกจากอิรักทั้งหมดในเดือนสิงหาคม 2553 เป็นการทำตามคำมั่นที่ให้กับประชาชนอเมริกันในช่วงหาเสียง

 

แหล่งข่าวในสภาคองเกรสผู้หนึ่งเผยว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัก โอบามา จะประกาศแผนการนี้ในวันศุกร์ที่ฐานทัพนาวิกโยธินในนอร์ทแคโรไลนา

 

แหล่งข่าวซึ่งขอสงวนนามผู้นี้ได้เข้ารับฟังการพูดคุยระหว่างโอบามากับบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสที่ทำเนียบขาว เขาบอกว่า ทหารอเมริกันราว 35,000-50,000 นายซึ่งอยู่ในอิรักในขณะนี้ จะยังคงอยู่ในอิรักต่อไปเพื่อทำการฝึกกองกำลังของอิรัก และดำเนินยุทธการปราบปรามการก่อการร้ายอย่างจำกัด

 

สงครามที่ดำเนินมานานเกือบ 6 ปีนี้ได้สร้างความแตกแยกในหมู่ชาวอเมริกัน และช่วยให้พรรคเดโมแครตสามารถกลับเข้าไปยึดครองสภาคองเกรสและทำเนียบขาวได้

 

การตัดสินใจดังกล่าวของโอบามายังสอดคล้องกับเจตนาของเขาที่จะเปลี่ยนจุดเน้นทางทหารจากอิรักไปยังอัฟกานิสถาน และลดการขาดดุลงบประมาณ โดยลดค่าใช้จ่ายในสงครามลง

 

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ โรเบิร์ต เกตส์ บอกว่า หลังจากยุติภารกิจสู้รบ ทหารสหรัฐที่เหลือจะทำหน้าที่ปราบปรามการก่อการร้าย ฝึกอบรม ให้คำแนะนำ ให้ความช่วยเหลือ แก่กองทัพของอิรัก

 

เกตส์ปฏิเสธที่จะยืนยันแผนการถอนทหารของประธานาธิบดี แต่บอกกับนักข่าวเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า ถึงอย่างไรทหารสหรัฐทั้งหมดก็จะต้องถอนตัวออกจากอิรักภายในสิ้นปี 2554 ตามข้อตกลงที่ทำไว้กับรัฐบาลอิรัก

 

เจ้าหน้าที่สหรัฐผู้หนึ่งเผยว่า นายพลเรย์ โอเดียร์โน ผู้บัญชาการสหรัฐในอิรัก และนายพลเดวิด เพทรีอุส ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางสหรัฐประจำตะวันออกกลาง อยากให้ถอนทหารหน่วยรบตามตารางเวลา 23 เดือนมากกว่า เพราะเห็นว่าอิรักยังคงเปราะบาง ถ้าสหรัฐถอนทหารเร็วเกินไป สถานการณ์ด้านความมั่นคงที่กระเตื้องขึ้นอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมาอาจถดถอยได้

 

ในช่วงหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โอบามาให้สัญญาที่จะถอนทหารออกจากอิรักภายใน 16 เดือน เขาพูดชัดเจนว่าอัฟกานิสถานเป็นจุดเน้นอันดับแรก ซึ่งเขาได้ออกคำสั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้ส่งทหารไปเพิ่มอีก 17,000 นาย ขณะนี้ มีทหารสหรัฐในอิรัก 142,000 นาย และในอัฟกานิสถาน 38,000 นาย

 

จีน-อเมริการื้อฟื้นเจรจาร่วมมือทหาร

เว็บไซต์ไทยโพสต์ - สหรัฐ-จีนจะรื้อฟื้นการเจรจาความร่วมมือด้านกลาโหมกันสุดสัปดาห์นี้ เป็นครั้งแรกนับแต่จีนระงับการติดต่อทางทหารกับสหรัฐเมื่อ 5 เดือนก่อน ประท้วงที่สหรัฐขายอาวุธให้ไต้หวัน

 

การรื้อฟื้นการเจรจาทหารประจำปีครั้งนี้เพิ่มความหวังว่าสองชาติยักษ์ใหญ่จะหวนกลับมาร่วมมือด้านความมั่นคงและสานเสวนาปัญหาตึงเครียดที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 เดือน เพราะแผนขายอาวุธมูลค่า 6,500 ล้านเหรียญฯ ของสหรัฐแก่ไต้หวัน และถูกมองเป็นการหยิบยื่นไมตรีแก่รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐ

 

กระนั้นก็ตาม พลตรีเชียนหลีฮัว หัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศของกระทรวงกลาโหมจีนซึ่งจะทำหน้าที่ประธานร่วมของการเจรจาประสานความร่วมมือด้านนโยบายกลาโหมวันเสาร์-อาทิตย์นี้ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างสหรัฐกับจีนยังคงอยู่ในช่วงที่ยุ่งยาก และเรียกร้องให้สหรัฐขจัดอุปสรรคที่เป็นสาเหตุขัดขวางการปรับปรุงความสัมพันธ์

 

"เราคาดหวังให้สหรัฐดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพของพวกเรา" เขากล่าวเป็นนัยถึงการขายอาวุธให้ไต้หวันที่จีนยืนยันจะยังประท้วงต่อไป

 

เดวิด เซดนีย์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐด้านความมั่นคงในเอเชียตะวันออกจะร่วมเป็นประธานการประชุม โดยโฆษกสถานทูตสหรัฐเผยว่าการเจรจาปีนี้จะมีประเด็นความสัมพันธ์ทางทหารจีน-สหรัฐ, ปัญหาความมั่นคงในภูมิภาคและโลก และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการขยายความร่วมมือระหว่างกองทัพ

 

ขนส่งอากาศเอเชียดิ่ง

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - กัวลาลัมเปอร์ - สมาคมสายการบินประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก รายงานว่า การขนส่งสินค้าทางอากาศในทวีปเอเชียลดลง 23.6% เมื่อเดือน ม.ค. ขณะที่จำนวนผู้โดยสารก็ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 7.8% มาอยู่ที่ 11.4 ล้านคน เป็นผลมาจากสภาพการค้าโลกที่ย่ำแย่ ทำให้สายการบินหลายแห่งต้องจอดเครื่องบินขนส่งสินค้าไว้ชั่วคราว ส่วนภาคธุรกิจลดต้นทุนการเดินทางเพื่อรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อปีที่แล้ว สายการบินที่เป็นสมาชิกของสมาคม 17 แห่ง มียอดผู้โดยสารรวมกัน 141.5 ล้านคน ลดลง 1.8% จากปี 2550 ส่วนปริมาณการขนส่งสินค้าลดลง 6.1%