ประชาไท - 10 ก.ค. 50 เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (9 ก.ค.) ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปาก กว่า 70 คนได้เดินทางไปที่หน้ากองทัพบก เพื่อรอฟังผลการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.
นาง
ต่อกรณีที่ ครม.เห็นชอบให้มีการรักษาระดับน้ำของเขื่อนปากมูลได้สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศแม่น้ำมูน และทำให้ชาวบ้านกว่า 6,000 ครอบครัว ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแม่น้ำมูนได้ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงวิถีชีวิตของคนสองฝั่งน้ำ โดยสภาพพื้นที่ขณะนี้ปลาจำนวนมากทั้งขนาดใหญ่และเล็กเดินทางจากแม่น้ำโขงเข้ามาในแม่น้ำน้ำมูนเป็นจำนวนมากแต่ไม่สามารถข้ามเขื่อนเข้ามาได้ ชาวบ้านที่อยู่เหนือเขื่อนไม่มีโอกาสใช้เครื่องมือที่เตรียมไว้ คนหาปลาหลายคนขนเรือ เครื่องมือลงไปหาปลาบริเวณท้ายเขื่อน แต่ก็มีปัญหาเพราะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก
นาย
ทางด้านนาย
ทางด้าน นาย
พล.อ สนธิ บุณยรัตกลิน กล่าวว่า ตนจะให้กองทัพศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องนี้ใหม่ เพราะที่ผ่านมาเข้าใจว่าเป็นคนนอกกองทัพเข้าไปทำ ทำให้เกิดปัญหา และในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ค.50) ตนรับปากจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ทบทวนมติครม.เดิม เรื่องการเปิดประตูระบายน้ำ 4 เดือน ปิด 8 เดือน ทั้งนี้ก็อยากให้ประชาชนได้ประโยชน์ทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน พล.อ.สนธิ กล่าวในที่สุด
ขณะที่นาย
โดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 12 มิถุนายน 2550 ที่ให้รักษาระดับน้ำเหนือเขื่อนไว้ที่ 106 - 108 เมตร/ ระดับน้ำทะเลปานกลาง เพื่อการชลประทาน ก็ไม่คุ้มค่า เพราะจ่ายน้ำได้ไม่ถึง 10% และชลประทานยังเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านอีก มติดังกล่าวมีผลตรงทำให้ต้องปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการหาอยู่หากินของชาวบ้านที่เตรียมหาปลาตามกำหนดเปิดประตูเขื่อนระหว่างมิถุนายน - กันยายน 2550 ซึ่งมีมติครม. 8 มิ.ย. 2547 รองรับไว้แล้ว และ ฯพณฯ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวรับรองการเปิดประตูเขื่อนตามกำหนดไว้ถึง 2 ครั้งต่อเนื่องกัน เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2550 และ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2550
"เพื่อพลิกฟื้นคืนวิถีชีวิตประมงพื้นบ้านตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและการพึ่งพาตนเอง และรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามของประชาชน เครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ขอสนับสนุนข้อเรียกร้องของคณะกรรมการชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล (ชชช.) ที่ให้ทบทวนมติครม. เมื่อ 12 มิ.ย. 50 เพื่อนำไปสู่การเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลต่อไป" แถลงการณ์ของเครือข่ายดังกล่าวระบุ
คณะกรรมการชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล(ชชช.) ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ เรื่อง ขอให้เปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูล เรียน พลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน ผอ.รมน./ผอ.ศจพ. ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๐ ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รักษาระดับน้ำในเขื่อนปากมูลไว้ที่ประมาณ ๑๐๖-๑๐๘ เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) นั้น เป็นการตัดสินใจที่ไม่ชอบด้วยเหตุผล ๒ ประการคือ ๑. ไม่ได้ใช้ข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลจากพื้นที่เป็นฐานในการตัดสินใจ มติคณะรัฐมนตรีซึ่งให้รักษาระดับน้ำที่ ๑๐๖-๑๐๘ ม.รทก. โดยทางปฎิบัติหมายถึง การปิดเขื่อนปากมูลอย่างถาวร เนื่องจากระดับน้ำ ๑๐๘ ม.รทก. คือระดับเก็บน้ำของเขื่อนปากมูล เมื่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตใช้น้ำเพื่อปั่นไฟ การปิดเขื่อนปากมูลสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศในระยะยาว และส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตประจำวันของชาวบ้านจำนวนมาก งานวิชาการหลายฉบับยืนยันได้ถึงผลกระทบดังกล่าว งานศึกษาผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูล และผลการทดลองเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลเท่าที่รวบรวมได้มี ๒๒ ชิ้น ทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ "คณะทำงานกลั่นกรองผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับกรณีเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี" ซึ่งได้รับแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๔๕ ได้จัดทำรายงานสรุปผลการศึกษาเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๔๖ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า วิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยแม่น้ำมูลได้รับผลกระทบอย่างมากจากการสร้างเขื่อนปากมูล และเมื่อมีการทดลองเปิดประตูระบายน้ำทั้ง ๘ บาน สุดบาน วิถีชีวิตของชาวบ้านเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากระบบนิเวศได้ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น มติ ครม. ๑๒ มิถุนายน เป็นเสมือนการปิดเขื่อนปากมูล โดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลจากพื้นที่แต่อย่างใด ๒. ไม่ได้คำนึงถึงมติ ครม.ที่ผ่านมา และความคิดเห็นตลอดจนข้อเสนอแนะของคณะกรรมการซึ่งเป็นกลไกการทำงานที่รัฐบาลตั้งขึ้นเพื่อพิจารณากรณีเขื่อนปากมูลเป็นการเฉพาะ ตั้งแต่ ปี พ.ศ.๒๕๔๔ คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลหลายชุดได้พิจารณากรณีเขื่อนปากมูล ตลอดจนได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล อีกหลายชุด มติ ครม. และ ความเห็นของคณะกรรมการที่สำคัญมีดังนี้ ๒.๑. มติครม. เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๔๔ ให้เปิดประตูระบายน้ำเป็นเวลา ๔ เดือน และให้ดำเนินการศึกษาลุ่มน้ำธรรมชาติจากการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง ๘ บาน ๒.๒. สำนักเลขาธิการได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดทำโครงการศึกษาวิจัยแนวทางการฟื้นฟูระบบนิเวศน์วิถีชีวิตและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูน ในระหว่างทำการศึกษา ได้มีมติครม.เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๔ ขยายการเปิดประตูระบายน้ำในครบ ๑ ปี เพื่อให้การศึกษาได้ครบรอบวัฎจักรของปลาและการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศน์ตามหลักวิชาการ ๒.๓. ภายหลังการศึกษาโดย ม.อุบล ได้มีข้อเสนอให้เปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูนตลอดปี แต่มติครม. เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๕ เห็นชอบให้เปิดประตูระบายน้ำปีละ ๔ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ถึง ๓๑ ตุลาคมของทุกปี ๒.๔. มติครม. วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๗ ขยับมาให้เปิดวันที่ ๑ พฤษภาคมของทุกปี เพื่อให้ปลาได้อพยพขึ้นมาวางไข่ได้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่เหมาะสม และมีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาทรัพยากรและวิถีชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล ซึ่งมีลักษณะภาคี โดยประกอบไปด้วยผู้แทนหน่วยราชการ นักวิชาการ และตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ (ศ.ดร. ๒.๕.ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาทรัพยากรและวิถีชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูน วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๐ มีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรี ตัดสินใจเปิดประตูระบายน้ำ เป็น ๒ ทางเลือกคือ ทางเลือกที่ ๑.ให้เปิดประตูระบายน้ำเร็วที่สุด โดยเริ่มลดระดับน้ำตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๐ เป็นต้นไป และให้เปิดประตูระบายน้ำสูงสุดภายในวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๐ ทางเลือกที่ ๒.ให้เริ่มระบายน้ำและเริ่มลดระดับน้ำตั้งแต่วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๐ เป็นต้นไป และให้เปิดประตูระบายน้ำสูงสุดภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๐ ต่อมากระทรวงพลังงานเสนอ ครม. ให้มีมติเปิดประตูระบายน้ำวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๐และ เปิดสุดบานในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๐ ๒.๖. ภายใต้กลไก กอ.รมน. ได้มีการประชุมที่เป็นทางการ ๒ ครั้ง คือ ในวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ณ หอประชุมกองทัพบก และวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๐ ณ ที่ทำการเขื่อนสิรินธร และข้อเสนอได้นำไปสู่การพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน ให้รักษาระดับน้ำในแม่น้ำมูนไว้ที่ประมาณ ๑๐๖-๑๐๘ ม.รทก. มติครม.วันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๐ เป็นการเปลี่ยนมติคณะรัฐมนตรี ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๐ โดยไม่มีเหตุผลประกอบที่ชัดเจน และไม่ได้คำนึงถึงมติครม.และความคิดเห็นของคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ผ่านมา จากเหตุผล ๒ ประการดังกล่าวข้างต้น คณะนักวิชาการและผู้ที่เห็นความสำคัญของการใช้ข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลจากพื้นที่สนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายของรัฐ ดังมีรายนามท้ายหนังสือนี้ จึงขอกราบเรียนให้ พลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน ในฐานะ ผอ.รมน./ผอ.ศจพ. ดำเนินการให้เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลเพื่อแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านกรณีปัญหาเขื่อนปากมูลโดยเร็ว ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง (รศ.สุริชัย หวันแก้ว) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (นายศุภวิทย์ เปี่ยมพงศ์สานต์) อดีตหัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (อาจารย์ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ) ประธานมูลนิธิเพื่อนป่า (ดร.นลินี ตันธุวนิตย์) คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ดร.ชวลิต วิทยานนท์) กองทุนสัตว์ป่าสากล (นายสุทธิชัย เอี่ยมเจริญยิ่ง) ประธานเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (อาจารย์ชัยพันธุ์ ประภาสะวัต) ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อสิทธิชุมชน (นายสมเกียรติ พ้นภัย) (คณะกรรมการชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล(ชชช.)) (นายทองเจริญ สีหาธรรม) คณะกรรมการชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล(ชชช.) (นางสมปอง เวียงจันทร์) คณะกรรมการชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล(ชชช.) |
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)