Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

โดย ประวิตร โรจนพฤกษ์


 


 


คณะรัฐประหารและรัฐบาลทหารแต่งตั้งในปัจจุบัน ดูเหมือนจะมีเทคนิคการตลาดที่จับกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่ม (segment) หรือไม่ก็เหมือนกับเทพเจ้าอันหลากหลายในศาสนาฮินดูที่มีคุณสมบัติและอภินิหารต่างกันออกไปตามแต่ผู้ศรัทธาจะเลือกกราบไหว้บูชา เรื่องนี้เป็นจริงยิ่งเมื่อมองดูสถานการณ์ ว่าด้วยการจัดการกับสื่อ


 


หากผู้ใดชอบแบบบู๊ขู่เข็ญบังคับสื่อเพื่อให้สังคมสงบ มิต้องคิดต่างก็คงชื่นชมกับความเห็นเป็นระยะๆ ของพลเอกวินัย ภัทยะกุล เลขานุการ คมช.ซึ่งอาจเปรียบได้กับเจ้าแม่กาลีที่ผู้คนหวาดกลัวเกรงขามเล่นบทบู๊เป็นหลัก


 


ตอนต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา พลเอกวินัยได้ "เชิญ" บรรดาบรรณาธิการวิทยุโทรทัศน์มา เพื่อรับทราบว่าพวกเขาควรจะยุติการรายงานข่าวเกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เสียที และกล่าวว่าประชาชนอาจ "สับสน" หากยังคงมีการรายงานข่าวฝ่ายตรงข้ามให้ประชาชนทราบ จึงมิควรที่จะรายงาน พร้อมทั้งขู่เหมือนกับที่เจ้าสแม่กาลีสามารถร่ายรำจนโลกล่มสลายได้ว่า หากพวกบรรณาธิการมิยอมทำตามเขาก็จะไปใช้วิจารณญานตัดสินว่าอะไรเป็นข่าวอะไรไม่เป็นข่าวแทนเอง


 


"อย่าหาว่าไม่เกรงใจ" วินัยกล่าว


 


พูดเช่นนี้คงสะใจบรรดาที่เชียร์ทหารสุดๆ แต่ถ้าคุณยังเป็นแฟนทหารแต่ไม่ต้องการจุดยืนแบบสุดขั้ว คุณก็หันไปบูชาพลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน เพราะผู้นำปฏิวัติผู้นี้ มักพูดจาพยายามลดความรุนแรง ซึ่งคนอย่างพลเอกวินัยหรือพลเอกสะพรั่ง กัลยาณมิตร พูดพรั่งพรูออกผ่านสื่อ


 


พลเอกสนธินั้นมักจะพูดจาแก้ต่างให้คณะรัฐประหารว่า มิได้สั่งให้สื่อเซ็นเซอร์ตัวเอง เพียงแต่ "ขอความร่วมมือ" ส่วนที่เหลือนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสื่อ ประหนึ่งเหมือนกับเป็นพระวิษณุซึ่งปกป้องคุ้มครองจักรวาล เพี่ยงแต่จักรวาลในที่นี้เป็นจักรวาลแห่งระบอบทหารที่มาจากการรัฐประหาร ผู้ที่บูชาองค์พระวิษณุคงทราบดีว่า หนึ่งในอภินิหารของเทพเจ้าฮินดูพระองค์นี้ ก็คือการทำสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ให้เป็นไปได้ ในแง่นี้พลเอกสนธิก็ได้ทำการรัฐประหารหลังจากที่ประเทศไทยไม่ได้มีรัฐประหารมา 15 ปีจนผู้คนนึกว่าหมดยุคสมัยไปแล้วให้กลับมาเกิดขึ้นแบบย้อนยุคได้อีก


 


แล้วเราจะเปรียบตัวนายกรัฐมนตรีที่ทหารแต่งตั้งว่าเปรียบเสมือนใคร ผู้เขียนขอเสนอว่า อาจเปรียบเหมือนนักบวชฮินดูผู้ทำตนเหมือนฤาษีซึ่งมีสาวกเคารพนับถือชื่นชมอยู่มาก เพราะดูเหมือนท่านจะพูด "ความจริง" ไม่ปิดบังใคร ดูอย่างเช่นที่ท่านเคยบอกว่าจะมีระเบิดอีกระลอก หลังที่เกิดระเบิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่กรุงเทพ ซึ่งบางคนที่มิได้ชื่นชมฤาษีท่านนี้ก็บอกว่า พูดไปแล้วได้อะไร แถมก่อนหน้านี้ตอนมารับตำแหน่งใหม่ๆ พลเอกสุรยุทธก็เคยบอกว่า หากกลุ่มรัฐประหารคิดจะสานต่ออำนาจหลังปฏิวัติ ตนก็จะลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี


 


แต่ฤาษีจะทำอะไรได้ในเมื่อต้องเผชิญกับบรรดาเทพเจ้าผู้ทรงอำนาจและเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ ถึงแม้พลเอกสุรยุทธจะได้ประกาศต่อหน้านักข่าวต่างประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ตนจะสนับสนุนสิทธิเสรีภาพสื่อ แถมยังวิพากษ์วิจารณ์การแทรกแซงสื่อในยุคทักษิณอย่างรุนแรง แต่ความจริงทุกวันนี้ก็เด่นชัดแล้วว่า ผู้ที่จะตัดสินว่าสื่อจะถูกแทรกหรือไม่แทรก ไม่ได้อยู่ที่ฤาษีตนนี้ หากขึ้นอยู่กับจริตของบรรดาทหารที่ทำตนเหมือนเทพเจ้าเหนือกฎหมาย มิหนำซ้ำหากท้ายสุดฤาษีสุรยุทธทำงานไม่ถูกและทันใจบรรดาเทพเจ้าทหาร (ซึ่งกำลังมีเสียงบ่นมากขึ้นทุกที อย่างเช่นเสียงวิจารณ์สุรยุทธ์จาก น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และนักวิชาการอื่นๆเช่น ธีรยุทธ บุญมี) ก็อาจถูกปลดได้เช่นกัน ไม่ผิดกฎหมายของรัฐธรรมนูญ 2549 ที่ทหารร่างเองแบบด่วนแดกเมื่อปลายปีที่แล้ว


 


เมื่อวันที่ 20 มกราคม ผู้บริหารสถานียูบีซีได้ออกมายอมรับว่าได้ "ให้ความร่วมมือ" ไม่ถ่ายทอดการสัมภาษณ์ทักษิณของสถานีข่าวซีเอ็นเอ็น จึงเห็นได้ว่า มนตราและคำขู่ของเทพเจ้าอย่างพลเอกวินัยนั้นได้ผล


 


เมื่อเป็นเช่นนี้ หากผู้คนไม่สวดและถวายของบูชาเทพเจ้าต่างๆให้พอใจ ประชาชนก็อาจถูกจำกัดสิทธิเพิ่มได้ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มทหารที่ยึดอำนาจกับประชาชนเป็นความสัมพันธ์แนวดิ่ง ซึ่งบรรดาเทพเจ้าจะตัดสินให้กับปุถุชนคนธรรมดาว่าอะไรควรรับรู้ (จากสื่อ) และอะไรไม่จำเป็นต้องรับรู้เสมือนหนึ่งประชาชนคนไทยเป็นเหมือนกับเด็กไม่รู้จักโตและไม่มีความจำเป็นต้องโต


 


ปัญหาก็คือ ไม่ว่าคุณจะถวายของเซ่นไหว้หรือตามใจบรรดาเทพเจ้าเหล่านี้ให้มากเพียงใด สังคมไทยก็มิอาจเป็นประชาธิปไตยได้ เพราะประชาธิปไตยไม่ได้มาจากเทพเจ้าเหล่านั้น หากเกิดขึ้นจากการต่อสู้ของปุถุชนคนธรรมดา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net