เมื่อวันที่ 4 พ.ย. หนังสือพิมพ์เดลินิวส์อ้างรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมเป็นแม่งานในการปรับโครงสร้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติใหม่ว่า กระทรวงยุติธรรมได้เสนอรายชื่อคณะกรรมการทั้งสิ้น 28 คนไปให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว อันประกอบด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากกระทรวงยุติธรรม, คณบดีคณะรัฐศาสตร์ของจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ รามคำแหง และ มสธ. ขณะที่นิด้าได้ส่ง ดร.สมบัติ ธำรงธัญญาวงศ์ มาเป็นกรรมการ นอกจากนี้ยังเชิญ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจมาเป็นกรรมการด้วย

สำหรับแนวคิดเบื้องต้น จะตัดแบ่งตำรวจภูธรไปขึ้นกับผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเหลือเฉพาะหน่วยงานกลาง เช่น กองบัญชาการตำรวจนครบาล, สอบสวนกลาง, สำนักงานงานตรวจคนเข้าเมือง และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เป็นต้น ส่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะยังให้คงไว้โดยจะทำหน้าที่เป็นสำนักงานตำรวจภาคประชาชน คอยดูเรื่องใหญ่ ๆ ที่ตำรวจทำไม่ได้ หรือตำรวจเป็นคู่กรณีเสียเอง ทั้งนี้เพื่อคานอำนาจกัน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้วางกรอบเวลาให้ดำเนินการให้เสร็จภายในเวลา 3 เดือน

อนึ่งการปรับโครงสร้างกรมตำรวจไปเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกิดขึ้นในสมัยของรัฐบาล นายชวน หลีกภัย เมื่อ 8 ปีก่อน ก็เคยจะดำเนินการผ่าตัดในลักษณะนี้เพื่อลดสายการบังคับบัญชา และเป็นการกระจายอำนาจไปสู่ภูมิภาค แต่ปรากฏว่า การปรับโครงสร้างยังไม่ทันเรียบร้อย ก็มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จึงทำให้มีการรวบอำนาจ เพื่อทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติใหญ่ขึ้นกว่าเดิม จนนำไปสู่การผ่าตัดตำรวจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในการแถลงนโยบายรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงสรุปตอนหนึ่งว่า รัฐบาลจะเร่งผ่าตัดโครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ที่ผ่านมาเกิดปัญหาขึ้นภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากมาย เมื่อรัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จะสามารถดำเนินการได้ หากรอให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งมีความเกรงใจซึ่งกันและกัน ก็จะทำไม่สำเร็จ

ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี จะรื้อโครงสร้างในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า เป็นสิ่งที่ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเมื่อโครงสร้างมีปัญหา ถึงเวลาก็ต้องมีการปรับปรุง แต่อย่าลืมเรื่องการโยกย้ายตัวบุคคลที่ไม่เป็นธรรมก่อนหน้านี้ด้วย