Skip to main content
sharethis

 







บทความใน "มุมคิดจากนักเรียนน้อย" เป็นแบบฝึกหัดที่นักศึกษาทำเพื่อส่งผู้บรรยายในวิชาระดับปริญญาตรีของ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


 


ทวิมา ไชยยงยศ


คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน


มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


 


 


จุดแตกหักระหว่างนายกฯ ทักษิณกับประชาชนส่วนหนึ่งอยู่ที่ การ "เลี่ยง" เสียภาษีจากการขายหุ้นชินคอร์ป ให้กับบริษัทเทมาเสกของสิงคโปร์เป็นสำคัญ


 


ประชาชนส่วนนี้ที่มองเห็นความไม่ชอบธรรมของตัวผู้นำ จึงได้ออกมาแสดงตัวเพื่อต่อต้าน เช่น การเข้าชื่อของ ส.ว.ทั้ง 27 คน การตั้งโต๊ะล่ารายชื่อถอดถอนของนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงการรวมตัวของหลายองค์กรจนกลายมาเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจะมีการชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 26 ก.พ.ที่จะถึงนี้


 


ฝ่ายรัฐบาลออกมาเตือนให้แกนนำควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมให้อยู่ในความสงบเพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจบานปลายออกไป แต่แท้จริงแล้วไม่ว่าเหตุการณ์ในวันที่ 26 จะบานปลายหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ตัวผู้ชุมนุม แต่ขึ้นอยู่กับตัวนายกฯ และลูกน้องส.ส.ในสังกัดพรรคไทยรักไทยต่างหาก เพราะการออกมาแก้ต่างจะยิ่งทำให้การกระทำของนายกฯตรงกับข้อกล่าวหาของประชาชนผู้ต่อต้านมากยิ่งขึ้นไปอีก เหมือนกับยิ่งพูดก็ยิ่งมัดตัวเอง


 


ตัว "นาย" อย่างท่านนายกฯ ออกมาแก้ต่างให้ตนเองถึงเหตุผลที่ขายหุ้นชินคอร์ปว่า เป็นเพราะลูกขอร้องให้พ่อขาย เพื่อให้พ่อสามารถทำงานการเมืองได้โดยไม่ต้องกังวลกับการกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ฝ่าย "ลูกน้อง" อย่างนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ส.ส.พรรคไทยรักไทยก็แก้ให้นายว่า ท่านทำเพื่อบ้านเมือง และเพื่อหลีกปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน จึงตัดสินใจขายหุ้นทิ้ง


 


นายแก้วสรร อติโพธิ 1 ใน 27 ส.ว. อธิบายว่า สิ่งที่ ส.ว.กล่าวหาคือ การขาดคุณสมบัติตามมาตรา 209 ที่ห้ามรัฐมนตรีเป็นหุ้นส่วน ถือหุ้น หรือคงความเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ซึ่งการตรวจสอบต้องดูที่อำนาจในการจัดการหุ้นเป็นสำคัญ คำแก้ต่างของนายกฯ และลูกน้องนี่เองเผยให้เห็นชัดเจนว่า นายกฯ ยังคงมีอำนาจจัดการและยังเกี่ยวข้องกับหุ้นดังกล่าว เพราะตัวนายกฯ คือคนตัดสินใจขายเพื่อประโยชน์ของตัวเองและครอบครัว ทำให้ควรตกเป็นผู้ต้องหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนจริงตามที่กลุ่มผู้ต่อต้านกล่าวหาไว้


 


ตอนนี้การยื่นเรื่องของ ส.ว.ต้องตกไป เพราะศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าคำร้องไม่ชี้ชัดถึงการกระทำของนายกฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อห้ามตามมาตรา 209 ข้อข้องใจแต่ในอดีตที่ว่า ท่านผู้นำครอบงำองค์กรอิสระจึงปรากฏเด่นขึ้นมาอีกครั้ง คนผิดยิ่งแก้ตัวก็รังแต่จะทำให้ความผิดชัดแจ้งขึ้นมา


 


การที่ผู้ชุมนุมจะลุกฮือขึ้นมาสร้างความรุนแรงอย่างที่ฝ่ายรัฐกังวลนั้น ก็เพราะคำแก้ต่างของนายกฯทักษิณ ลูกน้อง รวมถึงอิทธิพลกว้างขวางของท่านเอง


 


ใครกันนะ ที่โง่จนคนจับได้?


 












บทความทั้งหมด

 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : แม่น้ำมูลกับปลาแซลมอน
 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : เซ็กส์ยังคงเย้ายวน
 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : จะส่องไฟไปทำไม
 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : พูดมากขึ้น เข้าใจมากขึ้น
 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : แห่นางแมว: ฝนไม่ตก ก็สุขได้
 มุมคิดจากนักเขียนน้อย: อยู่ได้อย่างเป็นสุข (ในใจ)
 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : กฎอัยการศึกฉบับป่าชุมชน

 มุมคิดจากนักเรียนน้อย:น้อมรับพระราชดำรัส พูดง่ายแต่ทำยาก

 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : แก้มลิง
 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : Children of Heaven เรื่องเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่
 
มุมคิดจากนักเรียนน้อย : ชนะเลิศ...ได้ "ที่สาม"
 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : สิทธิบัตรชีวิต
 มุมคิดจากนักเรียนน้อย : เอฟทีเอไทย-สหรัฐฯ โอกาสหรือหายนะ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net