บุญยืน สุขใหม่ ประธานคณะทำงานกลุ่มแรงงานบ่อวินสัมพันธ์ รายงาน
กราฟแสดงรายได้จากการขาย-กำไรสุทธิ และทรัพย์สินของบริษัทฯ
ที่มา: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพานิชย์
พนักงานทำงานด้วยความทุ่มเทให้กับบริษัทฯ มาโดยตลอด พิสูจน์ได้จากการที่สามารถสร้างผลกำไรให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีการลดจำนวนพนักงานลงแต่ยอดการผลิตยังคงสูงขึ้น โดยที่สินค้าที่ผลิตออกไปมีต้นทุนที่ถูกและมีคุณภาพและสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทฯ แต่คุณภาพชีวิตของคนงานกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม
ตอลดระยะเวลาร่วม ๒๐ ปีที่บริษัทเปิดดำเนินกิจการมา พนักงานไม่เคยออกมาเรียกร้องสวัสดิการใดๆ ยอมก้มหน้าทำหน้าที่เป็นลูกจ้างที่ซื่อสัตย์ต่อองค์กรมาโดยตลอด ยอมให้นายจ้างละเมิดสิทธิตามกฎหมายในบางอย่าง เช่น การลาป่วยหนึ่งวันต้องแสดงใบรับรองแพทย์ การปรับค่าจ้างสวัสดิการ รวมทั้งการจ่ายโบนัสในแต่ละปีที่ผ่านมาทุกคนต่างก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่มีใครกล้าลุกออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมเนื่องจากกลัวกลั่นแกล้งหรือถูกเลิกจ้าง ไม่มีใครกล้าออกมาเป็นตัวแทนของคนงาน บริษัทฯ มีการขยายกิจการและการลงทุนเพิ่มขึ้นแต่คุณภาพชีวิตของคนงานกลับแย่ลงไปทุกวัน
เมื่อเกิดปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกบริษัทฯ อ้างว่าได้รับผลกระทบทำให้ยอดการสั่งซื้อสินค้าลดลง ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ บริษัทฯ ได้เรียกประชุมพนักงานทั้งหมดและขอปรับลดค่าจ้างพนักงาน ๑๓.๐๔% โดยให้พนักงานเซ็นชื่อในหนังสือยินยอมให้หักค่าจ้าง หากใครไม่เซ็นชื่อก็ข่มขู่ให้เขียนใบลาออกหรือจะย้ายหน้าที่งาน แต่ผู้บริหารถูกหักค่าจ้างเพียง ๕% มีพนักงานหลายคนไม่ยินยอมให้หักค่าจ้างเนื่องจากในปัจจุบันค่าจ้างที่ได้รับนั้นก็ต่ำแทบจะไม่พอกินอยู่แล้วเมื่อเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันทุกคนต่างก็ได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อนไม่แตกต่างกัน เพราะพนักงานเชื่อว่าน่าที่จะมีทางออกอื่นที่ดีกว่าและพนักงานไม่ได้รับผลกระทบพนักงานจึงได้รวมตัวกันเพื่อก่อตั้งสหภาพแรงงานฯ และได้ได้ลงรายมือชื่อเพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อบริษัทฯ ในวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๒ โดยมีข้อเรียกร้องที่ยื่นต่อบริษัทฯ จำนวน ๖ ข้อ ดังต่อไปนี้
1. ขอให้บริษัทฯ ยุติการหักค่าจ้าง ๑๓.๐๔% ของพนักงานทั้งหมด
2. ไม่ให้บริษัทฯ โยกย้ายหรือกลั่นแกล้ง พนักงานที่ไม่ยินยอมและยอนยอมในการหักค่าจ้างตามที่บริษัทฯ เสนอ
3. ให้บริษัทฯ ยกเลิกสัญญาของผู้ที่ลงลายมือชื่อให้หักเงินค่าจ้าง ๑๓.๐๔% ที่ลงลายชื่อไปแล้วทั้งหมด
4. .ในกรณีที่บริษัทฯ ประสบปัญหาเกี่ยวกับสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ไม่ให้บริษัทฯ เลิกจ้างลุกจ้างแต่ให้หาวิธีลดค่าใช้จ่ายอย่างอื่นโดยมีตัวแทนของบริษัทฯ และตัวแทนของพนักงานมาร่วมประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน
5. ไม่ให้บริษัทฯ โยกย้ายหรือกลั่นแกล้งและเลิกจ้างพนักงานที่ลงลายชื่อสนับสนุนข้อเรียกร้อง
6. ให้บริษัทฯ จ่ายเงินโบนัสพิเศษให้กับพนักงานทุกคนไม่ต่ำกว่า ๒.๗๕ เท่าของฐานเงินเดือนของแต่ละคน
เพื่อนผู้ใช้แรงงาน-ประชาชน-และสื่อมวลชนที่รักทุกท่านครับ ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าครับวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับขบวนการในการบังคับใช้กฎหมายของไทย เพราะข้อเรียกร้องทั้งหมดที่พนักงานบริษัทสยามมิชลิน จำกัด ยื่นต่อบริษัทฯ นั้น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่พนักงานทุกคนจะต้องได้รับการคุ้มครองตามกหมายอยู่แล้ว แต่วันนี้พนักงานกลับต้องมายื่นข้อเรียกร้องเพื่อขอให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ใช้แรงงานจะฝากความหวังและอนาคตอันแสนมืดมนนี้ไว้กับใครได้.......
ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่มีการยื่นข้อเรียกร้อง
1. วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๒ พนักงานได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อบริษัทฯ จำนวน ๖ ข้อ
2. บริษัทฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อผู้แทนลูกจ้างเช่นเดียวกัน ดังมีข้อเรียกร้อง คือ
· ขอปรับลดค่าจ้างจากเดิมเป็น ๓๕%
· หักเงินช่วยเหลือการเดินทางจาก ๓๖ บาท เหลือ ๒๘ บาทต่อวัน
· ลดจำนวนวันพักร้อนเหลือเพียง ๖ วันตามกกหมาย
· ยกเลิกการลากิจทั้งหมด
3. พนักงานที่เป็นตัวแทนในการเจรจาข้อเรียกร้อง นายจ้างไม่ให้เข้าทำงานแต่จ่ายค่าจ้างให้ตามปกติ และข่มขู่ให้ลุกจ้างถอนรายชื่อจากการสนับสนุนข้อเรียกร้อง
4. บริษัทฯ ส่งผู้ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจมาร่วมเจรจา
5. วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๒ การเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้ผู้แทนฝ่ายลูกจ้างแจ้งเป็นข้อพิพาทแรงงานต่อเจ้าพนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานจังหวัดชลบุรี
6. วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๒ นายจ้างได้ออกประกาศทั้งหมด ๓ ฉบับ คือ
· เรื่องการหยุดการผลิตชั่วคราวตั้งแต่วันที่ ๒๔-๒๖ มีนาคม ๒๕๕๒
· เรื่องใช้สิทธิ์ปิดงานเฉพาะส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องทั้งสิ้น ๓๘๓ คน ตั้งแต่วันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๒ ตั้งแต่เวลา ๑๒.๐๐ น. เป็นต้นไป
· ยกเลิกคำสั่งมอบหมายงานให้กับผู้แทนเจรจาฝ่ายลูกจ้างทั้งหมดฯ
7. วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๒ มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานแต่มาสมารถตกลงกันได้ และมีการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยกันอีกครั้งในวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๒
วันนี้พนักงานงานบริษัทสยามมิชลิน จำกัด ที่ถูกนายจ้างประกาศปิดงานเฉพาะส่วนยังคงชุมนุมอยู่ที่หน้าบริษัทฯ ที่นิคมอุตาสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมตามกฎหมาย มายังบริษัทฯ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนี้
1. ขอให้บริษัทฯ ยุติการหักค่าจ้าง ๑๓.๐๔% ของพนักงานทั้งหมด
2. ให้ส่งผู้มีอำนาจในการตัดสินใจฝ่านายจ้างมาเจรจาข้อเรียกร้องกับลูกจ้าง
3. ให้ยุติการแทรกแซงการดำเนินงานและยุติการขัดขวางการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานของพนักงาน
4. ให้หน่วยงานของรัฐเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อหาข้อยุติโดยเร็ว
5. ห้ามมิให้นายจ้างกลั่นแกล้งหรือกระทำการโดยทางตรงหรือทางอ้อมอันอาจทำให้ลุกจ้างไม่สามารถทนทำงานอยู่ต่อไปได้
หมายเหตุ วันนี้และวันต่อๆ ไปอยากเห็นผู้ที่มาลงทุนในประเทศไทยมีความรับผิดชอบต่อสังคมให้มากขึ้น ที่ผ่านมาการละเมิดกฎหมายจากทั้งส่วนของลูกจ้างและนายจ้างมีให้เห็นมากมายไปหมด แต่ในขณะเดียวกันต่างฝ่ายต่างก็เรียกร้องที่จะให้ทุกคนเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลียบเลียงจากการสอบถามกรรมการสหภาพแรงงานฯ และบางส่วนนำมาจากแถลงการณ์ของสหภาพแรงงานฯ ส่วนประเด็นการแสดงความคิดเห็นเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง |
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)