Skip to main content
sharethis

เว็บไซต์เอเอสทีวี ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า จากกรณีก่อนเที่ยงวันที่ 4 เม.ย.52 ที่มีกลุ่มบุคคลได้พยายามบิดเบือนข้อมูลให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการนำเอกสารถ่ายสำเนาจำนวน 4 แผ่นที่มีข้อความหมิ่นเบื้องสูงไปแจกให้ประชาชนที่เข้าไปจับจ่ายซื้อของในห้างโลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาอำเภอพล โดยแนบนามบัตรร้านกิตติอิเลคทรอนิคส์ติดไปพร้อมกับเอกสารหมิ่นฯ ดังกล่าวด้วย การกระทำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวอำเภอพลที่รักและเทิดทูนสถาบันเป็นอย่างมาก
       


ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นางผาสุก ปัญญา ชาวอำเภอพลและพี่น้องในเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกว่า 40 คนได้พากันไปยัง สภ.พล เพื่อแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ที่นำเอกสารหมิ่นฯ ดังกล่าวมาดำเนินคดี
       
ร.ต.อ.ทวีป รินลา ร้อยเวร สภ.พล ผู้รับแจ้งความ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งความจากนางผาสุกและพวกแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบติดตามผู้ที่นำเอกสารเหล่านั้นไปแจกจ่ายทันที โดยใช้หลักฐานนามบัตรที่แนบมากับเอกสารหมิ่นพระบรมฯในการสืบจับ และในเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันที่ 4 เม.ย. ก็สามารถจับผู้ต้องหา คือ นายกิตติ แสนสุขโรจน์วงศ์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านกิตติอิเลคทรอนิคส์ได้ที่ร้านถ่ายเอกสารร้านไทยใหม่
       
"เราจับกุมได้ขณะที่นายกิตติกำลังรอถ่ายเอกสารอยู่ ซึ่งเป็นเอกสารที่มีข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ ชุดเดียวกันกับที่นำไปแจกจ่ายที่ห้างโลตัส และจากการค้นตัวพบปืน .38 อีกหนึ่งกระบอก" ร.ต.อ.ทวีปกล่าว และว่าจากการสอบสวน นายกิตติยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ถ่ายสำเนาและนำเอกสารสำเนาที่มีข้อความให้ร้ายสถาบันเบื้องสูงไปแจกจ่ายที่บริเวณห้างโลตัสสาขาอำเภอพลจริง โดยนายกิตติให้เหตุผลว่าที่ตัดสินใจกระทำอย่างนั้นเพราะได้รับข้อมูลมาเช่นนี้และเชื่อตามข้อมูลที่ได้รับ จึงอยากให้สาธารณชนได้รับข้อมูลเดียวกัน
    


กระนั้นก็ตาม เขายืนยันว่าส่วนตัวแล้วจงรักภักดีต่อในหลวง พร้อมอ้างว่าตนรู้จักคนเสื้อแดงและพยายามขอติดต่อเพื่อให้คนเสื้อแดงมาช่วยประกันตัวตลอดเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
       
ร.ต.อ.ทวีป เปิดเผยต่อว่า จากการสอบปากคำทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ต้องหารวมถึงพิจารณาจากหลักฐานที่ปรากฏ ได้ตั้งข้อหาดำเนินการเอาผิดต่อนายกิตติทั้งหมด 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ข้อหาความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินีและ รัชทายาท 2.มีอาวุธปืนและกระสุนโดยไม่ได้อนุญาตและ 3.พกพาอาวุธปืนไปในชุมชน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
       


ทั้งนี้ ในช่วงเช้าของวันที่ 5 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พล ได้นำตัวนายกิตติไปยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลจังหวัดพลเป็นเวลา 12 วัน
       
ร.ต.อ.ทวีปกล่าวว่า กระบวนการทางคดีหลังจากนี้จะต้องทำรายงานถึงผู้บังคับบัญชาตามระดับเมื่อเรื่องถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุดเพื่อพิจารณาคดีอย่างรอบคอบ เพราะเป็นคดีที่ละเอียดอ่อนและประชาชนให้ความสนใจ
       
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เช้าวันที่ 5 เม.ย. มีการแจกเอกสารใบปลิวเชิญชวนคนเสื้อแดง ร่วมชุมนุม 8 เมษายน พร้อมระบุเพื่อขับเคลื่อนรักษาประชาธิปไตยต้องไล่โจรสีเหลืองไม่ให้ครองเมือง โดยมีการแจกจ่ายตามตลาดสดหลายแห่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net