Skip to main content
sharethis


 


 


11 ก.พ.52  สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน จัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการว่าด้วย แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2551-2564 (PDP 2007) ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 ที่สโมสรทหารบก


 


นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากปัญหาเศรษฐกิจที่ไทยและทั่วโลกกำลังประสบอยู่ทำให้มีความจำเป็นต้องปรับพีดีพี ครั้งที่ 2 เพื่อแบ่งเบาภาระการลงทุน ถือเป็นการปรับเล็กโดยจะปรับเฉพาะ 2-3 ปีข้างหน้าไปก่อน ทำให้ลดการจัดหาไฟฟ้าลงประมาณ 6,000 เมกะวัตต์เมื่อเทียบกับพีดีพีฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 โดยจะมีการเลื่อนโครงการของผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) 2 รายออกไป 1 ปี ส่วนการปรับแผนครั้งใหญ่นั้นจะต้องมีการประมาณการเศรษฐกิจใหม่ในช่วง 15 ปีข้างหน้า โดยต้องรอข้อมูลจากสภาพัฒน์ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 8 เดือน หลังจากนั้นจะมีการทำประชาพิจารณ์พีดีพีเต็มรูปแบบอีกครั้ง


 


ด้านตัวแทนจาก กฟผ. ได้ชี้ให้เห็นถึงประเด็นสำคัญในการปรับแผนครั้งนี้ว่า มีการปรับให้รับซื้อไฟจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (เอสพีพี) ให้เร็วขึ้นเป็นภายในปี 2557 เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและลดภาระหนี้สาธารณะ, มีการปรับเลื่อนโครงการไอพีพีออกไป 2 โครงการไปอีก 1 ปีจากกำหนดเดิม, ปรับโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จากปีละ 2,000 เมกะวัตต์ เป็นปีละ 1,000 เมกะวัตต์, มีการลดแผนการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศลงอย่างมาก ทำให้ต้องมีการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้า รวมทั้งจะมีการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าใหม่ อ.ขนอม (800 เมกะวัตต์) เพื่อสนับสนุนนโยบายการผลิต LPG ในประเทศลดการนำเข้า เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้จะยังคงรักษากำลังผลิตไฟฟ้าสำรองไว้ไม่ต่ำกว่า 15% เช่นเดิม แต่จะสามารถลดเงินลงทุนไปได้ราว 400,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้จะเป็นเงินภาครัฐ 270,000 ล้านบาท


 



 


ด้านตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นไม่ว่าพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง พื้นที่หนองแซง จ.ฉะเชิงเทรา พื้นที่ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา พื้นที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ที่ได้เข้าร่วมฟังการสัมมนาในครั้งนี้และยื่นจดหมายต่อปลัดกระทรวงพลังงานในระหว่างการสัมมนา เพื่อเรียกร้องให้ยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ทั้งในส่วนของ กฟผ. และไอพีพี เนื่องจากขณะนี้พลังงานไฟฟ้าสำรองในระบบเหลือเกินกว่ามาตรฐานมากแล้ว อีกทั้งการเปิดรับฟังความคิดเห็นในการปรับปรุงพีดีพีครั้งนี้ก็ไม่ได้ประกาศให้ประชาชนทราบ จึงขอเรียกร้องให้จัดทำพีดีพีใหม่ให้เกิดความโปร่งใส โดยมีคณะกรรมการที่เป็นกลางและมีตัวแทนฝ่ายประชาชนเข้ามีส่วนร่วมในการพยากรณ์และจัดทำแผนพีดีพี


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net