โดย พลเมืองหัวอ่อน

เป็นที่ชัดเจนเหลือเกินว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองนี้ ผู้นำพันธมิตรฯ ก็จะต้องผลักดันการเมืองใหม่ของพวกเขาให้เป็นจริงจนได้ แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะย่อยยับอย่างไร มวลชนของพวกเขาจักต้องหลั่งเลือดชโลมดินไปอีกเท่าไร พวกเขาก็ยินดีจะแลก เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะของตนเอง (ช่างเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้) เรื่องเจรจาประนีประนอม หาทางลง เป็นเรื่องเพ้อเจ้อไร้สาระที่คนอื่นหวังกันไปเอง เป็นวัฒนธรรมการเมืองไทยที่ล้าหลังใช้กับพันธมิตรฯ ที่ยึดมั่นในหลักการอย่างหนักแน่นไม่ได้อีกต่อไป อย่างไรเสียเขาก็ไม่ยอมหยุดจนกว่าจะชนะ เช่นนี้แล้วท่านทั้งหลายจะยังใจแข็งไม่ยอมรับข้อเสนอการเมืองใหม่ของพวกเขาอีกหรือ ฉะนั้น เพื่อเห็นแก่ความสงบสุขของบ้านเมือง และชีวิตของมวลชนพันธมิตรฯ  (ผู้นำท่านไม่ห่วงไม่เป็นไร อย่างน้อยท่านก็ยังมีเรา) พรรคการเมืองทุกพรรคและบรรดากว้างขวางคอทั้งหลายจักต้องกระทำสิ่งต่อไปนี้

            1. กล่าวขอโทษพันธมิตรฯ เสีย และประกาศยอมรับให้มีการใช้การเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ เป็นเวลา 2 ปี และถ้าภายใน 2 ปีนี้ ผลปรากฏว่าการเมืองใหม่ไม่สามารถแก้ปัญหาของบ้านเมืองได้  ก็ให้พวกผู้นำพันธมิตรฯ ทุกรุ่นเนรเทศตัวเองไปอยู่ไกลๆ ประเทศไทย และสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองไทยอีกต่อไป

และเพื่อความเป็นธรรมกับผู้นำพันธมิตรฯ  การเมืองใหม่แบบ 70:30 อาจไม่เพียงพอให้ท่านแก้ปัญหาของประเทศนี้ได้ ขอเสนอให้เป็นแบบ 100:0 ไปเลย (ที่จริงพวกเขาก็คงอยากได้เต็ม 100 อยู่แล้วล่ะ แต่อาจรู้สึกว่า "มันมากไปหน่อย" แต่ถึงวันนี้แล้ว ไม่ต้องอาย เอาไปเลย)  

2. ยินยอมให้ผู้นำพันธมิตรฯ และ "ผู้โอบอุ้ม" อยู่เบื้องหลังพันธมิตรฯ เท่านั้น ที่มีอำนาจเลือกสรรผู้ทรงภูมิปัญญาเป็นผู้แทนราษฎรในระบบการเมืองใหม่และรัฐบาลแห่งชาติ (หรือรัฐบาลเขาให้มา ก็แล้วแต่จะเรียก)

ข้อแม้มีอยู่นิดเดียว "ผู้โอบอุ้ม" ต้องประกาศตัว เลิกเป็นอีแอบเสียที

3. ยกเลิกความพยายามค้นหาความจริง (พวกชอบฟื้นฝอยหาตะเข็บ) ว่าฝ่ายพันธมิตรฯ ใช้อาวุธในคืนวันที่ 7 ตุลาคมหรือไม่ เรื่องระเบิดปิงปองนั้นให้ถือตาม ศ.ชัยชนะ แห่งรามนคร ว่าเป็น "อาวุธของผู้อ่อนแอ" ก็ลืมๆ กันไปแล้วกัน (ห้ามเอาเรื่องนี้ไปฟ้อง James Scott เจ้าของทฤษฎี Weapons of the weak โดยเด็ดขาด เขาแก่มากแล้ว โปรดให้เขาอยู่อย่างสงบในช่วงปลายของชีวิตเถิด) ส่วนการตั้งข้อหาตำรวจและสมชายเป็นฆาตกร เป็นคนละเรื่องกัน ก็จงเดินหน้าต่อไป (อย่าลืมฟ้องศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศด้วยนะ)

4. เพื่อป้องกันบรรดาประชาชนรากหญ้าผู้โง่เขลาทั้งหลายไม่ให้เข้ามารบกวนความสงบสุขของการบริหารบ้านเมืองตามระบบ 100:0 จักต้องสร้างกำแพงสูง 5 เมตรล้อมรอบกรุงเทพฯ ไว้ทุกด้าน กรุงเทพฯ จักต้องเป็นเมืองของชนชั้นกลางและชนชั้นสูงผู้ชาญฉลาด และนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น (เราชอบเงิน) มีระบบตรวจสอบการเข้าออกกรุงเทพฯ ของพวกบ้านนอกอย่างเข้มงวด

เพียงเท่านี้ บ้านเมืองของเราก็จะสงบสุข (ไม่เหนื่อยกันบ้างหรือไง?)