Skip to main content
sharethis


อมธ.เสียงแตก ด้านหนึ่งประณามความรุนแรง เรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหาอย่างสันติและรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกด้านหนึ่งระบุว่าแถลงการณ์ดังกล่าวไม่ผ่านมติคณะกรรมการบริหารฯ จึงร่วมกับ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.), ฝ่ายการเมือง องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ชมรมนักสิทธิมนุษยชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กลุ่มประชาธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊ก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (กปก.),กลุ่มราษฎรเดินนำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์อีกฉบับยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ เรียกร้องพันธมิตรฯ ยุติการล้อมสภา คัดค้านการรัฐประหาร รัฐบาลแห่งชาติ

 


รายละเอียดแถลงการณ์ทั้ง 2 ฉบับ มีดังนี้


 


000


 


 


แถลงการณ์องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีจุดยืนมาตลอดในเรื่อง การเคารพในสิทธิของการชุมนุมโดยสันติ ปราศจากอาวุธ และการไม่ใช้ความรุนแรงทั้งจากผู้ชุมนุมและฝ่ายรัฐบาล ซึ่งองค์การนักศึกษามีความเชื่อมั่นว่า การแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองอยากอารยชนในปัจจุบันนั้นต้องไม่ใช้ความรุนแรง และอยู่ในกรอบของกฎหมาย


แต่ทว่า เหตุการณ์เมื่อเช้าวันที่ 7 ตุลาคม 2551 การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไปยังบริเวณรัฐสภานั้น ได้เกิดการปราบปรามอย่างหนักจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการใช้แก๊สน้ำตาอย่างผิดหลักสิทธิมนุษยชนและเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ จนทำให้เกิดความสูญเสียต่อผู้ชุมนุมทั้งร่างกายและทรัพย์สิน การกระทำการปราบปรามเช่นนี้ถือได้ว่าผิดหลักมนุษยธรรม เป็นการละเมิดในสิทธิเสรีภาพ อนามัย และร่างกายของประชาชนอย่างสาหัส นอกจากนั้นยังมีการประกาศที่จะทำการปราบปรามต่อเนื่องอีกด้วย



องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงขอประณามการกระทำความรุนแรงที่เกิดขึ้น
ซึ่งนอกจากจะไม่ก่อให้เกิดความสมานฉันท์อันเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายมุ่งหวังแล้ว การกระทำดังกล่าวยังเป็นสัญญาณอันตรายที่เป็นการซ้ำเติมต่อวิกฤติการณ์ที่มีอยู่เดิม ให้เกิดความแตกแยกและตึงเครียดมากยิ่งขึ้น องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงมีข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้


1.ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยุติการใช้ความรุนแรงในการเข้าปราบปราม และการกระทำใดๆ ที่เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพและก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินทันที และจะต้องไม่มีการกระทำความรุนแรงดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าอีก


2.รัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่ามีการใช้เพียงแก๊สน้ำตา ก็จะต้องตรวจสอบหาสาเหตุที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บที่สาหัสและรุนแรงดังกล่าว


3.ขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอย่างสันติ ด้วยการกระทำการใดๆ อย่างไม่มีนัยซ่อนเร้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพยายามที่จะต้องจัดการต่อปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่อย่างไม่เลือกปฏิบัติ และให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งหากรัฐบาลไม่สามารถที่จะดำเนินการหรือจัดการให้เป็นไปตามกระบวนการได้นั้น ก็จำเป็นที่จะต้องทบทวนและพิจารณาถึงบทบาทหน้าที่ของตนเพื่อให้สามารถหาทางออกได้ในที่สุด
ความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นต่อประเทศชาตินั้นก่อให้เกิดความบอบช้ำต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลควรคำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง อย่างไรก็ดีการกระทำของทุกๆ ฝ่ายก็จะต้องไม่เป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงมากขึ้นอีก และขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายได้ใช้สติในการแก้ไขปัญหาต่างๆ 


องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประเทศชาติจะเกิดความสงบสุขโดยเร็วด้วยการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธีด้วยความร่วมมือของทุกคน 

ด้วยความสมานฉันท์
องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
7 ตุลาคม 2551


 


 


0000


 


 


 


 


แถลงการณ์


เครือข่ายนิสิตนักศึกษาผู้ห่วงใยในประชาธิปไตย


เนื่องจากสถานการณ์การปะทะกันเมื่อเช้าวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและ
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เป็นที่น่าเป็นห่วงแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่รัฐ และบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐตามระบอบประชาธิปไตยอย่างยิ่ง


 


การชุมนุมเรียกร้องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตามกระบวนการของกฎหมายเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย หากแต่ทว่าต้องอยู่ในขอบเขตของการแสดงออกทางความคิดเห็นและข้อเรียกร้อง ซึ่งกรณีการปิดล้อมรัฐสภาที่กำลังจะทำหน้าที่ตามกระบวนการที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญที่ได้ดำเนินไปได้โดยปกตินั้น เป็นการกระทำที่เกินกว่าขอบเขตของการชุมนุม และเป็นการยั่วยุอย่างเห็นได้ชัด


 


ดังนั้นความรุนแรงจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้สถานการณ์มีความคลี่คลายในระดับหนึ่ง การใช้แก๊สน้ำตาเพื่อควบคุมจึงมีความจำเป็นไม่เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เนื่องจากพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมต้องการเย้ยหยันอำนาจรัฐและละเมิดกฎหมาย โดยการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่าต้องปฏิบัติ อันได้แก่การแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และยังบุกรุกสถานที่ราชการอย่างอุกอาจเสมอมา แต่ทั้งนี้การกระทำของรัฐต้องตราบที่ไม่เป็นการใช้มากเกินกว่าเหตุโดยจงใจให้มีการบาดเจ็บและเสียชีวิต


 


ซึ่งกรณีของการมีการใช้ระเบิดซึ่งมีเศษแก้วยังเป็นที่คลุมเครือไม่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้ใช้กันแน่ จึงเป็นการสมควรที่ทางการและผู้เกี่ยวข้องจะต้องออกมาตรวจสอบโดยเร็วที่สุด การที่มีตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกเสาปลายธงแทงก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าความรุนแรงได้ถูกใช้อย่างไร้สติแล้วในที่สุด


           


เพื่อการคลี่คลายสถานการณ์ให้เป็นไปได้โดยดีต่อทั้งระบอบประชาธิปไตยและความปลอดภัยต่อชีวิตทรัพย์สินของประชาชน เราขอเรียกร้องดังนี้


 


1.       ขอให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ใช้สติทบทวนตนเองและแนวทางที่ตนเองทำ
และยุติการปิดล้อมรัฐสภา เพื่อให้สถานการณ์ที่มีแนวโน้มรุนแรงมีความคลี่คลายลงมาในระดับที่เหมาะสม


 


2.       ขอให้รัฐบาลมีการตรวจสอบการใช้กำลังทั้งของกลุ่มพันธมิตรฯ และเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม 2551 ให้ละเอียดแน่ชัด โดยการมีส่วนร่วมขององค์กรกลาง เพื่อความชัดเจนและการหาคนผิดมาลงโทษได้โดยกระบวนการยุติธรรม


 


3.       ทั้งนี้เพื่อแสดงออกถึงการเคารพกฎหมายบ้านเมืองขอเรียกร้องให้แกนนำการชุมนุมที่ผ่านมาทุกฝ่าย เข้ามอบตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตามหลักการอารยะขัดขืนที่ผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย


 


4.       ขอให้มีการเจรจากันจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและรัฐบาล เพื่อให้ได้ข้อตกลงที่ยุติธรรมที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย


 


5.       ในเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการแอบอ้างเหตุการณ์เดือนตุลาฯ ในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทยมาใช้ เราขอเรียกร้องให้หยุดการกระทำดังกล่าว เนื่องจากประวัติศาสตร์เดือนตุลาฯ คือการเคลื่อนไหวของประชาชนที่เป็นการเรียกร้องภายในหลักการของกฎหมายอย่างแท้จริง ไม่ใช่โดยใช้กำลัง
หักหาญช่วงชิงอย่างดื้อรั้น และเป็นการอยู่ภายใต้การเคารพเสียงของคนส่วนใหญ่อย่างยิ่ง ซึ่งผิดกับสิ่งที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกำลังทำอยู่


 


6.       ขอให้ผู้ที่ประสงค์จะเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โปรดใช้สติสัมปชัญญะไตร่ตรองด้วยเหตุและผลในการที่จะเข้าร่วมการชุมนุม ว่าแนวทางของกลุ่มพันธมิตรฯ ถูกต้องเหมาะสม และสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยหรือไม่ โดยเฉพาะบรรดานิสิต นักศึกษา ซึ่งสามารถใช้เป็นข้ออ้างว่าเป็นพลังบริสุทธิ์ได้


 


7.       เพื่อพิสูจน์ความเคารพในเสียงของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยจริง เราขอเรียกร้องให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตั้งพรรคการเมือง ลงหาเสียงและให้การศึกษาแก่ประชาชนตามวิธีการประชาธิปไตย และลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าแนวทางพันธมิตรถูกต้องแน่ชัดหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการกระทำที่น่าชื่นชมว่ามีความเคารพในเสียงประชาชนเป็นอย่างยิ่ง


 


8.       ขอคัดค้านการใช้อำนาจนอกระบบ เช่น การรัฐประหาร หรือการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ไม่ว่าจะด้วยโดยอำนาจของผู้ใด เพราะขัดต่อหลักการประชาธิปไตย และเป็นการแทรกแซงทางการเมืองที่ไม่อาจหาความชอบธรรมได้ไม่ว่าในมุมใดๆ


 


เรามีความคาดหวังว่าสถานการณ์จะมีการคลี่คลายไปได้โดยดี โดยที่ทุกคนจะสามารถใช้สติสัมปชัญญะ ความคิดกันอย่างมีเหตุผล คำนึงและเคารพในเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ และการพัฒนาตามรูปแบบประชาธิปไตยให้ถูกต้องตามครรลองคลองธรรมและกรอบของกฏหมาย


 


 


                                                  ด้วยความสมานฉันท์และความห่วงใยต่อประชาธิปไตยไทย


                           7 ตุลาคม 2551


 


 


ทั้งนี้โดยรายนามดังต่อไปนี้


 


เสียงส่วนหนึ่งในองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.)


สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)


ฝ่ายการเมือง องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


ชมรมนักสิทธิมนุษยชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


กลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


กลุ่มประชาธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊ก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (กปก.)


กลุ่มราษฎรเดินนำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net