Skip to main content
sharethis

วันที่ 26 มี.ค. เวลาประมาณ 11.00 น. กลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ เข้ายื่นหนังสือต่อ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาคนที่ 1 ที่รัฐสภา ร้องเรียนเรื่องตรวจสอบบทบาทสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ ของนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กรณีการเข้าไปมีส่วนร่วมเป็นแกนนำใน "กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย


 


นายภูมิวัฒน์ นุกิจ กล่าวว่าการที่นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งเป็น ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนตามครรลองประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนนอกรัฐสภา โดยเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งที่มีกระบวนการทางรัฐสภา เช่น การยื่นกระทู้ หรือยื่นญัตติ รองรับอยู่ ถือเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ด้วยการไม่เคารพระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ทั้งนี้การออกมาเรียกร้องไม่ได้เป็นลิ่วล้อของใครหรือฝ่ายใดเพียงแต่ต้องการสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง ตามสิทธิของพลเมือง


 


"ส.ส. หรือ ส.ว.ไม่ว่าพรรคการเมืองใด มีความชอบธรรมที่จะมาเคลื่อนไหวนอกรัฐสภาอย่างนั้นหรือ" นายภูมิวัฒน์ตั้งคำถาม


 


ทั้งนี้ ภายในหนังสือที่ยื่นต่อ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ระบุการกระทำที่นอกเหนือวาระข้อบังคับของรัฐสภา และมารยาททางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาคือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ สามารถ ยื่นกระทู้ ยื่นญัตติ วิพากษ์ วิจารณ์ โดยสุจริต ในรัฐสภา เพื่อร่วมกันพัฒนาระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาได้ แต่นายสมเกียรติ ไม่เคารพในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา มุ่งหวังเพียงเพื่อจะขับไล่รัฐบาลอันมาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ โดยสร้างวาทกรรมสำนวน กล่าวหาว่า "รัฐบาลอันมาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นระบอบทักษิณ เป็นรัฐบาลนอมินี (ตัวแทน) เป็นรัฐบาลศรีธนณชัย เป็นรัฐตำรวจ เป็นรัฐทุนนิยมสามานย์"



นอกจากนี้ นายสมเกียรติ ได้ร่วมกับพวกออกแถลงการณ์และนัดชุมนุมในรูปแบบงานสัมมนา ซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 28 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ณ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยได้เดินสายโฆษณา ชักชวน พี่น้องประชาชนตามที่ต่างๆ และได้กล่าวปราศรัยระหว่างการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคประชาธิปัตย์ ที่ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มีข้อความตอนหนึ่งซึ่งบ่งบอกว่ามีแนวคิดแบ่งแยกประเทศไทย ให้ออกเป็นภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างความเกลียดชัง และเหมารวม สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นเป็นฝัก เป็นฝ่ายในสังคม


 


ด้านนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาคนที่ 1 กล่าวหลังการรับมอบหนังสือว่า ตามหลักการไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนายสมเกียรติ เพราะส.ส.ควรปฏิบัติตามวิถีทางประชาธิปไตย แต่โดยรัฐธรรมนูญได้ระบุสิทธิในการเสนอความคิดเห็นเอาไว้ ดังนั้นการก้าวล่วงไปสั่งห้ามจึงทำไม่ได้ เพียงแต่ต้องจับตาดูไม่ให้เกินขอบเขต เกิดการละเมิดต่อผู้อื่น หรือขัดต่อหลักกฎหมาย ซึ่งก็จะไม่ปล่อยให้เกินเลยเหมือนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรครั้งที่ผ่านมาอีก


 


ส่วนการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่ม ส.ส.พลังประชาชน ภายใต้ชื่อกลุ่มมหาประชาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตย ซึ่งจะมีการจัดเวทีคู่ขนานในวันที่ 28 มี.ค.นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่าทางพรรคพลังประชาชนไม่ได้ให้การสนับสนุนและได้มีคำสั่งให้ยุติแล้ว แต่ก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปห้ามปรามไม่ให้เคลื่อนไหวได้เพราะถือว่าเป็นสิทธิของบุคคล ทั้งนี้คิดว่าเป็นความผิดพลาดมาตั้งแต่ที่ระบุในรัฐธรรมนูญว่า ส.ส.ไม่จำเป็นต้องฟังมติของพรรคทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น ดังนั้นจึงคิดว่าควรเร่งให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเร่งด่วน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net