Skip to main content
sharethis

แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้ง  5 คน ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง  ศรีเมือง นายสนธิ  ลิ้มทองกุล  นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย และนายสมเกียรติ   พงษ์ไพบูลย์  ร่วมประชุมเมื่อวันพุธ ที่บ้านพระอาทิตย์  สำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เพื่อกำหนดท่าทีหลังพบว่ารัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช  ใช้อำนาจโยกย้ายข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม   อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมไทย


 


หลังการประชุมมีแถลงการณ์กลุ่มพันธมิตรฯ ใช้ชื่อ "กลียุคมาแล้ว" โดยให้เหตุผลว่า มีการเคลื่อนไหวยั่วยุและดูถูกภาคประชาชน   มีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีและฝ่ายนิติบัญญัติที่มีประวัติด่างพร้อยและมีมลทิน   อันเป็นการจงใจหยามเหยียดเกียรติภูมิของประเทศ  และดูถูกศักดิ์ศรีของคนในชาติ   เร่งรัดในการโยกย้ายข้าราชการเพื่อแทรกแซงและตัดตอนกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับคดีความของ   พ.ต.ท.ทักษิณ  และครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโยกย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้พ้นจากคดีความที่มีความเกี่ยวพันกับระบอบทักษิณ


        


 พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อสารมวลชนต่างประเทศเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม  และมีเป้าหมายกลับมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างชัดเจน   ตลอดจนมีการพาดพิงไปถึงสถาบันอันสำคัญของประเทศว่าเป็นตัวการอยู่เบื้องหลัง


 


มีการโยกย้ายข้าราชการตำรวจเพื่อล้างแค้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความของ    พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำพรรคพลังประชาชนให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่   ไม่เว้นแม้แต่ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  อันเป็นสัญญาณการสร้างรัฐตำรวจให้กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อปูทางสร้างฐานให้กับ  พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้มาเป็นผู้คุมดูแลรัฐตำรวจในอนาคตอันใกล้


 


แถลงการณ์ยังระบุว่า   รัฐบาลได้จุดประเด็นดำเนินนโยบายบ่อนเสรีสร้างอบายมุขเหยียบย่ำศีลธรรม  เป็นการจงใจที่จะทำลายรากเหง้าและฐานรากวัฒนธรรมและศีลธรรมอันดีงามของสังคมไทย เพื่อแลกกับผลประโยชน์มหาศาลเฉพาะหน้า  ทำลายแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่บัญญัติเอาไว้ในรัฐธรรมนูญโดยไม่ใส่ใจกับการล่มจมของประเทศชาติในอนาคต


 


ทั้งหมดนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงอยู่หลังฉากบงการทางการเมืองในพรรคพลังประชาชนต่อไป  และเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังคงเป็นปัญหาร้ายแรงของแผ่นดินอยู่เช่นเดิม


 


จากสถานการณ์ดังกล่าว   พันธมิตรฯ เห็นเป้าหมายของระบอบทักษิณคือ  จะมีกระบวนการยั่วยุทางการเมืองและสังคมให้เพิ่มมากขึ้น และอาศัย พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อโยกย้ายทหารสร้างเงื่อนไขในการรัฐประหารตัวเอง แล้วล้มล้างคำสั่งของ คมช.ทั้งหมด อันจะเป็นผลทำให้  พ.ต.ท.ทักษิณไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาลสถิตยุติธรรมทั้งหมด หรือจะมีการแก้ไขกฎหมายและรัฐธรรมนูญเพื่อทำให้  พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวไม่ต้องเข้าไปพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม


 


พันธมิตรฯ  จึงแสดงจุดยืน ขอให้กระบวนการยุติธรรมใช้ความกล้าหาญและความรวดเร็วในการดำเนินคดีความเพื่อป้องกันมิให้วิกฤติที่สุดในโลกกลับคืนมาสู่ชาติบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่ง  เรียกร้องให้  พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่าเห็นแก่ลาภสักการะไปรับใช้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง  ซึ่งรวมถึงการโยกย้ายข้าราชการเพื่อลบล้างความผิดคดีความของคนในระบอบทักษิณ ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้ดำเนินคดีเอาไว้


 


แถลงการณ์ยังแจ้งว่า พันธมิตรฯ จะเพิ่มบทบาทด้วยการฟื้นการต้านระบอบทักษิณ ในเบื้องต้นจะจัดประชุมใหญ่แกนนำพันธมิตรฯทุกจังหวัด ทุกเครือข่ายทั่วประเทศในเร็วๆ นี้ เพื่อร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์และการร่วมกันสร้างพลังถ่วงดุล ตรวจสอบและสร้างทางเลือกใหม่ให้สังคมการเมืองไทย และเดินหน้าสร้างเครือข่ายและขยายแนวร่วม  ระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสานต่อภารกิจกู้ชาติ และร่วมกันขับเคลื่อนสังคมใหม่ต่อไป


 


พันธมิตรฯ ยังตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบอำนาจรัฐทั้งสิ้น   5 ชุด ประกอบด้วย คณะกรรมการติดตามตรวจสอบความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับ  พ.ต.ท.ทักษิณและเครือข่าย  คณะกรรมการติดตามตรวจสอบการคุกคาม  กลั่นแกล้ง และการละเมิดศักดิ์ศรีของข้าราชการ คณะกรรมการติดตามตรวจสอบการจัดระเบียบสื่อสารมวลชน คณะกรรมการติดตามตรวจสอบการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการติดตามตรวจสอบการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและความยากจน


 


ยังมีคำแถลงของ  5 แกนนำพันธมิตรฯ ถึงทิศทางการเคลื่อนไหว โดย พล.ต.จำลอง  ศรีเมือง ยืนยันว่า จะต่อต้านทุกรูปแบบเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับบ้านเมือง และเพื่อยุติวิกฤตการณ์ที่เลวร้ายที่สุดอยู่ในขณะนี้


 


ด้านนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช หุ่นเชิดของทุนนิยมสามานย์โดยระบอบทักษิณ ขณะนี้กำลังฟื้นการทำลายศักดิ์ศรีของข้าราชการ ดังเช่นการฟื้นในอดีต  ซึ่งคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐาน เป็นประวัติศาสตร์ของชาติบ้านเมืองแล้ว รัฐบาลชุดนี้กับระบอบทักษิณนี่สามานย์มาก


 


นายพิภพ  ธงไชย กล่าวว่า เป็นตายร้ายดีอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณก็จะไม่ยอมขึ้นศาลยุติธรรมในคดีต่างๆ  เพราะฉะนั้นความพยายามต่างๆ ได้เห็นชัดเจน ตั้งแต่การย้ายข้าราชการซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีต่างๆ   แต่ที่สำคัญก็คือ จะทำในสิ่งซึ่งประชาชนจะคาดไม่ถึง  นั่นก็คือจะหาทางยกเลิกคำสั่งของ   คมช.ทั้งหมด เพื่อให้คำสั่งทั้งหมดที่นำตัว พ.ต.ท.ทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมถูกยกเลิกไป  นั่นก็คือทำให้มีการยกเลิกคดีต่างๆ  เพราะฉะนั้นแผนของคุณทักษิณวันนี้ก็คือ  ถ้าสามารถแก้รัฐธรรมนูญได้  จะแก้เพื่อมีผลต่อการยกเลิกคำสั่งของ คมช.


 


"โดยทางจิตวิทยาก็เป็นที่รู้กันว่า   คุณทักษิณคงไม่สามารถควบคุมอารมณ์และจิตใจในการที่จะไปขึ้นศาลในคดีต่างๆ  อันนี้ก็สำคัญมาก เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่คุณทักษิณจะขึ้นศาล เพราะฉะนั้นคุณทักษิณอาจจะทำในสิ่งที่ประชาชนคาดหมายไม่ถึง"


 


นายพิภพตั้งข้อสังเกตว่า  ถึงที่สุดแล้ว ในประวัติศาสตร์ของสังคมไทย  รัฐบาลจอมพลถนอม  กิตติขจร เคยรัฐประหารรัฐบาลของตัวเอง  วันนี้จึงอยากจะเตือนเรื่องนี้ว่า  ถ้าไม่สามารถทำกระบวนการต่างๆ ตามกฎหมายได้ อาจจะถึงขั้นนั้น


 


ขณะที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข บอกว่า เห็นชัดรัฐบาลนี้ไม่ได้เข้ามาบริหารประเทศตามที่ได้แถลงนโยบายเอาไว้ และได้เร่งรัดในการที่จะจัดทำเพื่อปกป้อง  ฟอกผิด  และเพื่อประโยชน์ของ  พ.ต.ท.ทักษิณอย่างชัดเจน  เราจะเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายอะไรที่กล่าวมาแล้ว ฉะนั้นในเหตุการณ์เช่นนี้ก็เป็นตัวยืนยันชัดเจนว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลนอมินีจริงๆ


 


"อยากเรียกร้องต่อพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มว่า   ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของบุคคลใด  คณะใดคณะหนึ่ง  แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน   เพราะว่าเรากำลังทำให้มีการเกิดการตรวจสอบที่ถูกต้องเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติของประชาชนทุกคน" แกนนำพันธมิตรฯ ผู้นี้กล่าว


 


นายสนธิ   ลิ้มทองกุล   กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณไปให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์  เมื่อลองอ่านดูแล้วได้พูดถึงสถาบันสถาบันหนึ่งว่าเป็นสุดยอด ยอดสูงสุด เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด  อยากจะให้ดูและให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณดูว่านี่เป็นลักษณะของคนที่เลิกการเมืองหรือไม่


 


"ผมจึงอยากจะเรียกร้องให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนให้รู้ว่า เหมือนอย่างที่คุณพิภพพูด ผมเกรงว่าจะมีการยั่วยุประชาชน แล้วใช้อำนาจ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อที่จะประกาศยึดอำนาจตัวเอง  แล้วใช้เวลานั้นเป็นเวลาที่เปลี่ยนและผ่องถ่ายผู้นำกองทัพทั้งหลาย"


         


นายสนธิกล่าวว่า การที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม ย้ายนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีดีเอสไอ แล้วไปเอา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กลับเข้ามา ท่านลืมไปว่า พ.ต.อ.ทวี  สอดส่อง นั้นท่านเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนนักเรียนตำรวจรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.กานต์  เจ้าของพรรคพลังประชาชน ซึ่งปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ความเกี่ยวโยงตรงนี้ก็พิสูจน์ได้ชัด


 


ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ บอกว่า พันธมิตรฯ จะรวมกลุ่มกับองค์กรและแนวร่วมทั้งหมดอย่างที่เคยเคลื่อนไหวต่อสู้กันมาในเร็วๆ นี้ คาดว่าอย่างช้าเดือนมีนาคมน่าจะได้ข้อยุติ  หลังรายชื่อบุคคลทั้งองค์กรที่จะเข้าร่วมและรูปแบบการทำงาน  เมื่อพร้อมแล้วคงมีการเปิดตัวเป็นทางการ


 


 


"เลี้ยบ" โต้รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ไม่มีรัฐประหารตัวเอง


อย่างไรก็ตาม นพ.สุรพงษ์  สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ออกมาตอบโต้กลุ่มพันธมิตรฯ ว่า  รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน  ฉะนั้นที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีการรัฐประหารอีกครั้งโดยรัฐบาล จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด รวมทั้งรัฐบาลก็ไม่เห็นด้วย


 


รองนายกฯ  ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณตั้งใจมามอบตัว ซึ่งเจตนาคือต้องการมาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลอยากเห็นกระบวนการยุติธรรมเดินหน้าต่อไป เพื่อพิสูจน์ว่าผิดคือผิด  ถูกคือถูก  ไม่มีอะไรล้มล้างกระบวนการยุติธรรมได้


 


ส่วน  พล.อ.เรืองโรจน์  มหาศรานนท์  ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี  บอกว่า เรื่องการปฏิวัติไม่มีหรอก  หากหมายถึงการนำทหารออกมาไม่มี  ไม่มีใครทำ เขาเลิกกันหมดแล้ว ปฏิวัติตัวเองจะทำไปทำไม ขณะนี้มีการเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อย รัฐบาลตั้งหลักแล้ว


 


"พวกนี้ก็ว่าไปเรื่อย  เรื่อง พ.ร.บ.มั่นคงอะไร ถามว่ามาจากรัฐบาลไหน ใครเป็นคนออก แล้วเราจะทำทำไม และที่อ้างเรื่องการโยกย้ายนายทหารเป็นเงื่อนไข ถามว่าขณะนี้มีการโยกย้ายแล้วหรือยัง  ยังไม่มีการโยกย้ายเลยออกมาบอกแล้ว" และว่า ขณะนี้จะทำอะไรควรมองประเทศชาติบ้าง  ไม่ใช่มาใส่ร้ายป้ายสีบอกว่าเราจะทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ  ซึ่งรัฐบาลไม่มีแนวทางอย่างนี้ วันนี้เราก้มหน้าก้มตาทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเดียว


 


นายจักรภพ  เพ็ญแข  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ท้าทายว่า  ใครมีปัญหาอย่างเดียวก็รวมตัวกัน  จุดเริ่มต้นที่ทำให้มีพันธมิตรฯ เมื่อสมัยรัฐบาลก่อนการรัฐประหาร มีเหตุในตัวมันเองในตอนนั้นก็พอเข้าใจกัน   แต่ในตอนนี้เหตุผลนั้นคืออะไร ก็เป็นเรื่องที่อยากให้สังคมได้ช่วยกันตั้งคำถาม  แต่ในส่วนตัวแล้วก็มองเห็นกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นกลุ่มทางสังคมกลุ่มหนึ่ง ซึ่งพูดมาก็รับฟัง  แต่จะให้เชื่อหรือว่าต้องลนลานทำตามนั้น ก็คงจะไม่เป็นอย่างนั้น


 


ยังมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่อยู่คนละขั้วกับกลุ่มพันธมิตรฯ นั่นคือ กลุ่ม  24  มิถุนา ประชาธิปไตย ได้ยื่นหนังสือกับ  พ.อ.อภิวันท์  วิริยะชัย  รองประธานสภาผู้แทนราษฎร  เพื่อเรียกร้องให้รัฐธรรมนูญปี  2550  ที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหารให้สิ้นสุดลงหรือให้เป็นโมฆะ โดยให้เหตุผลว่า หากปล่อยให้มีการบังคับใช้เท่ากับว่าเป็นการยอมรับอำนาจเถื่อน และยอมรับการรัฐประหารและระบอบการปกครองแบบเผด็จการทหาร


 


 


"พะจุณณ์" ยันไม่รู้เรื่อง "ทักษิณ" ขอพบป๋า


วันเดียวกันนี้  พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณขอเข้าพบ  พล.อ.เปรม  ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีว่า ยังไม่ทราบจริงๆ เขาจะติดต่อผ่านใครไม่ทราบ แต่ติดต่อผ่านตนยังไม่มี


         


ซักว่าถ้า พ.ต.ท.ทักษิณมีไมตรีที่ดีมา แล้ว พล.อ.เปรมจะรับไมตรีหรือไม่ พล.ร.ท.พะจุณณ์ตอบว่า "ป๋าไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้  ป๋าเป็นคนที่เงียบที่สุด  ไม่เคยพูดอะไรให้ใครเสียหาย  ที่ผ่านมาที่เราสนใจเรื่องเหตุบ้านการเมือง  ที่เราสนใจ เราก็ทำของเราไป ผมก็ทำของผมไป ท่านก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งหรือเกี่ยวข้อง"


 


ถามว่ารัฐบาลของนายสมัครได้ติดต่อเพื่อเข้าหารือ หรือรดน้ำสงกรานต์  พล.อ.เปรมหรือไม่   พล.ร.อ.พะจุณณ์ปฏิเสธว่า ไม่มี  แต่อาจจะเป็นเพราะว่าไม่คุ้นเคยกัน ส่วนรัฐบาลอื่นๆ  ที่ติดต่อมาเพราะว่ารู้จักกัน คุ้นเคยกัน จริงๆ แล้วไม่จำเป็นที่ทุกรัฐบาลต้องมา แต่รัฐบาลที่มาก็เพราะรู้จักคุ้นเคยกัน และมาขอคำปรึกษาเรื่องการงาน ขอคำแนะนำ


 


หุ้นดิ่ง วิตกการเมืองระอุ "บจ." กำไรสูญ 4.8 หมื่นล้าน


ด้านตลาดหุ้นไทยวันที่  5 มี.ค. ปิด  824.98 จุด ลดลง 6.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย  18,345.41  ล้านบาท  ต่างชาติขายสุทธิ  2,546.51  ล้านบาท สถาบันขายสุทธิ 48.92 ล้านบาท รายย่อยซื้อสุทธิ 2,595.41 ล้านบาท


 


นางจันทนา   วัฒนกูล  ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์  บริษัทหลักทรัพย์เคทีบี  กล่าวว่า  ดัชนีลดลงและการซื้อขายเป็นไปด้วยความซบเซา  จากปัจจัยกดดันหลักตลาดหุ้นต่างประเทศปรับลดลงจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย  และมีความกังวลต่อปัจจัยการเมืองในประเทศที่เริ่มร้อนแรงขึ้น เมื่อกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยระบุว่าในเดือน มี.ค.นี้จะมีการเคลื่อนไหวอย่างใดอย่างหนึ่ง


 


เรียบเรียงจาก : ไทยโพสต์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net