Skip to main content
sharethis

สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี


 


 


พวกนิยมประชาธิปไตยและพวกฝ่ายซ้ายรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเป็นที่สุด เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายสมัคร สุนทรเวช นักการเมืองฝ่ายขวานิยมกษัตริย์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย แต่คนที่ดีใจไชโยจนสุดเสียง หาใช่ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร ผู้คัดเลือกเขามากับมือไม่ หากแต่เป็น "พันธมิตรประชาชนเพื่อการรัฐประหาร" ที่ทำตัวเป็นพ่อสื่อแม่ชักเชื้อเชิญ ปลุกกระแสขวาอนุรักษ์นิยมกษัตริย์ขึ้นมาเถลิงอำนาจทางการเมืองเมื่อสองปีก่อนต่างหาก


 


นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยยอมรับได้อย่างเดียวว่า สมัครเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่ชนะเสียงข้างมากในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 การยอมให้เขาขึ้นนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยไม่คัดค้าน ก็ด้วยเหตุผลของความชอบธรรมจากการเลือกตั้งเป็นสำคัญ พูดในภาษากฎหมายเราเรียกว่า "ไม่ใช่ปัญหาตัวบุคคลไม่ชอบ แต่เป็นปัญหาที่เราไม่ชอบตัวบุคคล" เพราะถ้านึกย้อนไปถึงผลงานในอดีตของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็ชวนให้ขนหัวลุกยิ่งนัก


 


สมัครนับเป็นผลผลิตทางการเมืองในแนวขวานิยมกษัตริย์โดยแท้ นับแต่ต้นจนกระทั่งปัจจุบัน เขาคงจบชีวิตทางการเมืองในตำแหน่งวุฒิสมาชิกไปแล้ว หากพันธมิตรประชาชนเพื่อรัฐประหารไม่หยิบเสื้อเหลือง "เราจะสู้เพื่อในหลวง" มาใส่เป็นธงนำในการเคลื่อนไหวโค่นล้มทักษิณ ธงผืนนั้นถูกส่งต่อไปยังกองทัพผู้นำอาวุธยุทโธปกรณ์ของชาติมาห้ำหั่นคู่แข่งทางการเมืองของตนและยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สร้างวาทกรรมว่า ทักษิณทำตัวเป็นปรปักษ์กับพระมหากษัตริย์ กระทั่งมันกลายมาเป็นข้ออ้างเพื่อการรัฐประหาร


 


ข้ออ้างดังกล่าวในเวลาต่อมาได้รับการพิสูจน์ว่าเหลวไหล อัยการไม่ยอมทำตามประสงค์ของคณะรัฐประหาร ไม่ฟ้องทักษิณในข้อหานี้ ทำให้ความชอบธรรมในการรัฐประหารลดลงไปโขเลยทีเดียว แต่ผลของการชูธงสีเหลืองกลับยืนยาวกว่าที่คาดเอาไว้ และคนที่หยิบธงผืนนี้มาโบกสะบัดมีราคาที่จะต้องจ่ายด้วย เมื่อหัวหอกของขบวนผู้ประกอบการถูกศาลพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญาในคดีหมิ่นประมาทเพราะหยิบยกเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตน ซึ่งมีราคาที่ต้องจ่าย เพราะพวกขวาด้วยกันคิดว่าเป็นของปลอม ไม่เชื่อว่า นี่เป็นสินค้าแบรนด์เนมตามที่โฆษณา


 


ถึงอย่างนั้นก็ตาม กระแสนี้ก็ถูกโหมกระหน่ำอยู่ไม่หยุดยั้ง ผลักดันให้ทักษิณไม่มีทางเลือก เขาไม่อาจจะสนับสนุนคนใกล้ชิดคนใดคนหนึ่งของเขา ไม่ว่าจะเป็นนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือใครก็ตามที่เคยเป็นฝ่ายซ้ายให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคที่เขาตั้งใหม่ได้ แม้ว่าพวกนั้นจะมีคุณสมบัติแข่งขันได้กับคนรุ่นใหม่อย่างหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ตาม


 


เหตุผลที่เขาเลือกสมัครมีเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่เพราะสมัครหัวอ่อนเชื่อฟัง แต่เป็นเพราะสมัครเป็นนักการเมืองคนเดียวในประเทศไทยที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองแบบขวานิยมกษัตริย์ที่คงเส้นคงวาที่สุด เขารักษาความคิดนี้ไว้ได้นานกว่า 3 ทศวรรษแม้ในเวลาที่กระแสต่ำ อันเป็นคุณสมบัติเพียงพอที่เขาจะได้รับเลือกจากทักษิณ เพื่อใช้เป็นเกราะกำบังแรงกดดันจากพันธมิตรประชาชนเพื่อการรัฐประหารซึ่งเวลานี้กำลังเพลี่ยงพล้ำตกเป็นฝ่ายรับ ความจริงทักษิณควรเป็นหนึ่งที่กลัวสมัครด้วย ในกรณีที่เขาเกิดติดลมบนมองไม่เห็นหัวทักษิณอีกต่อไป ซึ่งมันก็มีแนวโน้มจะเป็นอย่างนั้นได้มาก


 


ธงสีเหลืองที่เคยโบกสะบัดใช้โจมตีสมัครไม่ได้ เพราะในทางอุดมการณ์แล้ว สมัครและพันธมิตรฯ พูดภาษาเดียวกัน อีกอย่างหนึ่ง สมัครพิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ถึงความจงรักภักดีของเขา แต่กรณีของพันธมิตรฯ นั้นหลายคนยังสงสัยอยู่ว่ามีอุดมการณ์แบบนั้นจริงๆ หรือเป็นแค่พวกแอบอ้างโหนกระแส


 


ถ้าหากพันธมิตรประชาชนเพื่อการรัฐประหารจริงใจต่ออุดมการณ์ที่พวกตนได้ประกาศเมื่อปีก่อน การผงาดขึ้นสู่อำนาจของสมัครก็เป็นสิ่งที่พวกเขาภูมิใจมากราวกับได้เลือกมาด้วยมือตัวเองเลยทีเดียว เพราะบัดนี้ตัวแทนความคิดฝ่ายขวานิยมกษัตริย์ได้กุมอำนาจรัฐโดยเบ็ดเสร็จ การสะดีดสะดิ้งแสดงการไม่ยอมรับ เพราะอ้างว่าเป็นนอมินีทักษิณบ้าง มีคดีติดตัวบ้าง เป็นจริตทางการเมืองเล็กๆ น้อยๆ ที่จะทำให้ตัวดูเป็นคนดีอยู่บ้างเท่านั้น แต่มันไม่ได้ทำให้พวกเขาต่างจากสมัครเลย


 


อันที่จริงแล้ว ไม่มีความแตกต่างทางด้านอุดมการณ์ทางการเมืองใดๆ ปรากฏให้เห็นเลย ระหว่างสมัครและพันธมิตรประชาชนเพื่อรัฐประหาร เพราะต่างก็เป็นฝ่ายขวาและนิยมกษัตริย์เหมือนกัน เหตุการณ์เมื่อกว่าขวบปีที่ผ่านมา มันก็เป็นแค่ขอเวลานอกให้คณะพันธมิตรฯ ได้กินเนื้อบ้างหลังจากที่หิวโซมานานชั่วสมัยของทักษิณ


 


มาบัดนี้เวลานอกหมดลงแล้ว กองทัพได้งบประมาณกลับไปเป็นกอบเป็นกำ บรรดานายทหารที่เสี่ยงตายยึดอำนาจและพันธมิตรได้รับการปูนบำเหน็จทั่วหน้า อิ่มหนำสำราญกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทิ้งมรดกแห่งความมูมมามเอาไว้ให้เห็นบ้าง รวมทั้งสำรองที่นั่งสำหรับปาร์ตี้รอบต่อไปเอาไว้แล้วในรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 พันธมิตรฯ หลายคนยังจะได้นั่งในตำแหน่งวุฒิสมาชิกจากการแต่งตั้งให้เป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูลอีกด้วย เป็นของชำร่วยแถมติดมือกลับบ้านตามธรรมเนียมของปาร์ตี้ที่ดี 


 


สำหรับพวกนิยมประชาธิปไตยและพวกฝ่ายซ้ายที่ไม่ประสบความสำเร็จในการกลายพันธุ์ไปเป็นขวา เวลานี้พวกเขาได้แต่ภาวนาว่า สมัครน่าจะลดความเป็นคนขวาจัดอนุรักษ์นิยมลง และชำเลืองสายตาไปสู่แสงตะวันใหม่แห่งประชาธิปไตยและการเคารพสิทธิมนุษยชนบ้าง


 


ความหวังนี้อาจจะเป็นหวังลมๆ แล้งๆ (ดูเหมือนว่า นอกจากอาจารย์พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ และคุณหมอกิติภูมิ จุฑาสมิต แล้วยังไม่มีใครกล้าหวังแบบนี้) แต่อย่างน้อยสมัครก็แสดงความคิดแบบขวาๆ น้อยลง ถ้าจะว่าไปแล้ว นับแต่ขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแล้ว เขาเป็นขวาน้อยกว่าคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ที่กำลังจะกลายพันธุ์เป็นนักการเมืองบางคนเสียอีก


 


ภารกิจของนักสู้เพื่อประชาธิปไตยและฝ่ายซ้าย (ไม่กลายพันธุ์) ยังไม่จบสิ้น หรือจริงๆ แล้วมันยังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำไป ที่ผ่านมาได้แต่หวังและทึกทักเอาเองว่า พรรคพลังประชาชนเป็นพลังประชาธิปไตย (ชื่อมันคล้าย แต่จริงๆ มันไม่ใช่)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net