Skip to main content
sharethis

รัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมเสนอนโยบายห้ามสร้างห้องน้ำ 'เป็นกลางทางเพศ' ในอาคารสาธารณะที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย รมต.กระทรวงสตรีและความเท่าเทียม อ้างเพื่อความปลอดภัย และอนามัย สวนทางความเห็นสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งเผยว่าการมีห้องน้ำเป็นกลางทางเพศดีต่อสุขภาวะและจิตใจของคนทุกเพศ

 

เมื่อ 6 พ.ค. 2567 เว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า พรรคอนุรักษ์นิยมอังกฤษ เสนอกฎหมายแบนห้องน้ำที่เป็นกลางทางเพศให้เหลือแต่ห้องน้ำแบบแบ่งแยกเพศชายหญิงในอาคารที่ไม่ใช่อาคารที่พักอาศัย

กระทรวงการยกระดับ การเคหะ และชุมชน แห่งสหราชอาณาจักร ได้เสนอนโยบายดังกล่าวเมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจะห้ามไม่ให้มี ‘ห้องน้ำที่เป็นกลางทางเพศ’ ในอาคารสร้างใหม่และไม่ใช้อาคารที่พักอาศัย เช่น ร้านอาหาร, ศูนย์การค้า, สำนักงาน และอื่นๆ

เคมิ บาเดน็อค (Kemi Badenoch) รัฐมนตรีกระทรวงสตรีและความเท่าเทียม และเป็นสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยม กล่าวว่าพรรคมีนโยบายที่หารือกันมานานแล้ว เพื่อยับยั้ง ‘การเพิ่มขึ้น’ ของห้องน้ำเป็นกลางทางเพศ และ ‘พื้นที่ห้องน้ำแบบใช้ร่วมกันทุกเพศ’ ซึ่งบาเดน็อค อ้างว่าเป็นการ 'ปฏิเสธความเป็นส่วนตัวและเกียรติศักดิ์ศรีของทั้งชายและหญิง'

"การประกาศในวันนี้ยังจะเป็นการสร้างเงื่อนไขข้อกำหนดที่ดีกว่าสำหรับผู้หญิงเพื่อที่ว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของพวกเราได้ทางชีวภาพ, สุขภาพ และอนามัย" บาเดน็อค กล่าว

เคมิ บาเดน็อค (ที่มา: เฟซบุ๊ก Kemi Badenoch MP)

ทั้งที่องค์กรด้านสุขภาวะเคยระบุถึงประโยชน์ของ 'ห้องน้ำเป็นกลางทางเพศ' ไว้ชัดเจน?

สิ่งที่นักการเมืองอนุรักษ์นิยมอย่างบาเดน็อค พูดนั้นขัดกับสิ่งที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ (NIH) เสนอไว้ในบทความเมื่อปี 2566 ที่ระบุว่า ห้องน้ำที่เป็นกลางทางเพศหรือห้องน้ำสำหรับทุกเพศนั้นเป็นเรื่องจำเป็นต่อสุขภาวะ และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในอาคารและการเข้าถึงห้องน้ำสำหรับทุกเพศนั้นถือเป็น ‘ความเสมอภาคในที่ทำงาน’ รูปแบบหนึ่ง

NIH ระบุอีกว่า ห้องน้ำสำหรับทุกเพศหรือห้องน้ำที่เป็นกลางทางเพศในที่ทำงาน ไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกเท่านั้น แต่เป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะกับคนข้ามเพศและนอนไบนารี (บุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศไม่ใช่ชายหญิงแบบ 2 ขั้ว) การกีดกันไม่ให้มีห้องน้ำที่เป็นกลางทางเพศนั้น อาจจะส่งเสียต่อร่างกายและจิตใจ เพราะจะทำให้คนอั้นไม่ยอมเข้าห้องน้ำ หรือละเว้นการดื่มน้ำ ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ โรคไต หรือโรคกระเพาะปัสสาวะได้

นอกจากนี้ NIH ยังระบุว่าห้องน้ำสำหรับคนทุกเพศไม่ได้มีประโยชน์แต่กับคนข้ามเพศหรือนอนไบนารีเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์กับทุกคนและทุกอัตลักษณ์รวมถึงชายหญิงตามเพศกำเนิด ยกตัวอย่าง เช่น ทำให้เป็นการลดเวลารอเข้าห้องน้ำแบ่งแยกเพศในช่วงที่มีคนต่อคิวเข้าจำนวนมาก ทำให้พวกเขาทีทางเลือกสามารถเข้าห้องน้ำเป็นกลางทางเพศได้ ให้ประโยชน์กับคนที่เป็นพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถเข้าห้องน้ำเดียวกับลูกหลานของได้อย่างไม่ขัดเขิน

นอกจากนี้ ห้องน้ำที่เป็นกลางทางเพศยังให้พื้นที่สำหรับทุกคนแม้กระทั่งชาย-หญิงตามเพศกำเนิดในการเข้าถึงห้องน้ำทางเลือกได้เวลาที่ไม่สบายใจจะใช้ห้องน้ำแบ่งแยกเพศ ลดความเป็นไปได้ในการกลั่นแกล้งกัน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในห้องน้ำแบบแบ่งแยกเพศ สร้างบรรยากาศเป็นมิตรมากขึ้น รวมถึงมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับประจำเดือนไว้ให้กับทุกเพศที่จำเป็นต้องใช้ ซึ่งเป็นประโยชน์กับนอนไบนารีและชายข้ามเพศบางส่วนที่มีประจำเดือน แต่ไม่สะดวกใจที่จะเข้าไปใช้ห้องน้ำหญิง

แม้แต่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมบางคนก็ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอแบนห้องน้ำของ 'บาเดน็อค'

เคยมีการเสนอนโยบายห้ามห้องน้ำเป็นกลางทางเพศตั้งแต่เมื่อเดือน ส.ค. 2566 ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มนักกิจกรรมและภาคประชาสังคมหลายกลุ่ม

นักกิจกรรมคนข้ามเพศรายหนึ่งในโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ขณะที่ประชาชนชาวอังกฤษกำลังประสบปัญหาค่าครองชีพ ไม่สามารถจ่ายค่าเช่าหรือค่าเชื้อเพลิงหรือกระทั่งไม่สามารถซื้อข้าวกินได้ แต่ทำไมรัฐบาลกลับพยายามผลักดันเหลือเกินในเรื่องการกำจัดห้องน้ำที่เป็นกลางทางเพศแล้วเน้นเรื่อง "ห้องน้ำที่แบ่งแยกทางเพศ"

ผู้ใช้โซเชียลมีเดียอีกรายหนึ่งระบุว่า "ในตอนที่อ่านข่าวนี้ ขอให้จำไว้ว่าคนข้ามเพศไม่ได้เป็นภัยอะไรเลย ... ขอให้จำไว้ว่าเมื่อไม่มีห้องน้ำที่เป็นกลางทางเพศแล้ว มันมักจะนำไปสู่การที่คนอย่างฉัน (คนข้ามเพศ) ไม่มีทางเลือกที่ปลอดภัย"

โฆษกของกลุ่มที่นำโดยคนข้ามเพศ ‘We Exist’ เคยกล่าวไว้เมื่อปี 2566 ว่า จุดยืนของรัฐบาลต่อเรื่องที่จะแบนห้องน้ำเป็นกลางทางเพศเช่นนี้ ถือเป็นการพยายาม ‘กีดกัน, สร้างความแปลกแยก และเลือกปฏิบัติต่อ’ คนข้ามเพศกับนอนไบนารี

โฆษกของ We Exist ระบุว่า "นอกจากนั้นแล้ว มันมีหลักฐานน้อยมากหรือแทบไม่มีเลยที่ระบุว่าผู้หญิงตามเพศกำเนิดรู้สึกไม่ปลอดภัยในสถานที่ที่จัดไว้ให้ ดังนั้น พวกเรามีความกังวลว่ารัฐบาลกำลังสร้างวาทกรรมหลอกลวง เพื่อที่จะกีดกันคนข้ามเพศและบุคคลที่แสดงออกทางเพศไม่ตรงกับบรรทัดฐานของสังคม"

ในช่วงที่มีการเสนอนโยบายเมื่อปีที่แล้ว (2566) สส.สายอนุรักษ์นิยม แคโรไลน์ โนกส์ (Caroline Nokes) ออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านนโยบายการแบนห้องน้ำเป็นกลางทางเพศ และเมื่อปี 2565 เธอเคยออกมาสนับสนุนให้มีห้องน้ำเป็นกลางทางเพศในโรงเรียน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเด็กและเยาวชนข้ามเพศ

แคโรไลน์ โนกส์ (ที่มา: เฟซบุ๊ก Carloline Nokes)

"สิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับเรื่องห้องน้ำคือการออกแบบ ฉันชี้ให้เห็นเสมอมาว่า ศูนย์ราชการพอร์ตคูลลิสเฮาส์ ในรัฐสภาอังกฤษ มีห้องน้ำแบบนี้อยู่ทุกชั้น ไม่มีใครพูดถึงห้องน้ำเหล่านี้ว่า ห้องน้ำเป็นกลางทางเพศ พวกเขาก็แค่เรียกมันว่าเป็นห้องน้ำ" โนกส์ กล่าว

โนกส์ กล่าวว่า ถ้าหากคุณมีสถานที่ๆ ขับถ่ายได้ และเป็นห้องเดี่ยวที่มีสิ่งต่างๆ ในตัวมันเอง อย่างอ่างล้างมือ เครื่องเป่าแห้ง มีกำแพงกั้นถึงเพดาน และมีประตู แล้วคนที่ยืนปัสสาวะก็ไม่ลืมที่จะนำฝาชักโครกลง มันก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องเป็นทุกข์ร้อนกับมัน

โนกส์ เสนอว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ 'ห้องน้ำที่ดูดี, สะอาด, เป็นส่วนตัว และสร้างขึ้นใหม่โดยเฉพาะ ซึ่งไม่ควรจะเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้'

 

เรียบเรียงจาก

Tories propose ban on gender-neutral toilets in new buildings – including offices and restaurants, Pink News, 06-05-2024
https://www.thepinknews.com/2024/05/06/gender-neutral-facilities-ban/

UK government announces crackdown on gender-neutral toilets, Pink News, 13-08-2023
https://www.thepinknews.com/2023/08/13/gender-neutral-toilets-policy-kemi-badenoch/

Creating Safe Spaces: Why All-Gender Restrooms Are Essential for Health and Well-Being, NIH, 01-06-2023
https://www.edi.nih.gov/blog/communities/creating-safe-spaces-why-all-gender-restrooms-are-essential-health-and-well-being
 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net