Skip to main content
sharethis

สว. ขอระทรวงศึกษาธิการ จัดการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา Anywhere Anytime ส่งเสริมการเรียนรู้เนื้อหาออนไลน์ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ให้ครอบคลุมนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา พร้อมวางมาตรการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง – เช่าอุปกรณ์ ให้เกิดความโปร่งใส


ที่มาภาพ Rosy / Bad Homburg / Germany จาก Pixabay

2 มี.ค. 2567 เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานายออน กาจกระโทก สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้มีการขออนุมัติงบประมาณการดำเนินการตามโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนองบประมาณผูกพัน 5 ปี (ปี พ.ศ. 2568 - 2572) จำนวน 20,000 ล้านบาท ครอบคลุมการเช่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แพลตฟอร์ม และระบบคลาวด์ (Cloud) เพื่อรองรับเนื้อหาออนไลน์ โดยจะนำร่องจัดอุปกรณ์ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนคุณภาพและโรงเรียนขยายโอกาส จำนวน 600,000 คน ทั้งนี้ เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา เพิ่มศักยภาพในการเรียนรู้ จึงขอฝากข้อพิจารณาไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทวงศึกษาธิการ ว่าขอให้พิจารณาจัดอุปกรณ์ให้ครอบคลุมถึงนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาในโอกาสต่อไป เนื่องจากเป็นระดับที่ต้องใช้เครื่องมือในการฝึกทักษะในการหาความรู้เช่นกัน และขอให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของแท็บเล็ตที่จะดำเนินการเช่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่การศึกษาของนักเรียน เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีโครงการจัดซื้อจัดจ้างแท็บเล็ต (Tablet) ให้แก่นักเรียน แต่เป็นแท็บเล็ตที่มีคุณภาพต่ำ คุณภาพไม่คุ้มกับราคา อีกทั้งไม่มีบริการหลังการขายเมื่อเกิดการชำรุด รวมทั้งวางกรอบนโยบายวางแผนมาตรการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างหรือเช่าอุปกรณ์ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ชัดเจน ซึ่งเป็นการป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นด้วย

 

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน ก.พ. 2567 เว็บไซต์ ศธ.360 องศา รายงานว่านายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลา ระยะที่ 2 : จัดหาอุปกรณ์การเรียนที่เหมาะสมต่อผู้เรียนแต่ละวัย (Anywhere Anytime) วงเงินทั้งสิ้น 22,102,973,600 บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 7,469,328,800 บาท ส่วนที่เหลือ จำนวน 14,633,644,800 บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 – พ.ศ. 2572 ตามนัยมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561

โดยสาระสำคัญ ระบุว่า ศธ. เห็นถึงความสำคัญของการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงศตวรรษที่ 21 โดยจะมีการปรับรูปแบบการเรียนรู้และการสอนเพื่อพัฒนาทักษะและอาชีพของคนทุกช่วงวัยด้วยการปรับโครงสร้างหลักสูตรการศึกษาให้ทันสมัยและนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการจัดการเรียนการสอน มีการพัฒนาศักยภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด ศธ. ให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งขยายประสิทธิภาพการทำงานของดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้แห่งชาติ (National Digital Learning Platform: NDLP) ระยะที่ 1 จากการเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นการสื่อสารและการเรียนแบบสองทาง โดยนำดิจิทัลแพลตฟอร์มมาสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนผ่านระบบเทคโนโลยีดิจิทัลของ ศธ. ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงระดับอุดมศึกษา รวมถึงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะของครูและบุคลากรทางการศึกษาในกำกับ ศธ. ให้สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net