ประชาชนหลากหลายกลุ่มนัดหมายทำกิจกรรม 'สีดาจะไม่ทน' จี้พรรคก้าวไกล รับผิดชอบกรณี สส.คุกคามทางเพศอาสาสมัครช่วยหาเสียง หวังเป็นบรรทัดฐานใหม่นักการเมือง 'เบญจา' นัดถกปม สส.ก้าวไกล คุกคามทางเพศพรุ่งนี้ 

31 ต.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก "สำนักข่าวราษฎร" ไลฟ์สดออนไลน์วันนี้ (31 ต.ค.) ที่หน้าอาคารไทยซัมมิท เมื่อเวลา 10.28 น. เพจเฟซบุ๊ก "ก้าวไกลโกหกอะไรอีก" นิยม นพรัตน์ หรือ 'เค สามถุยส์' แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ กัลยาณี จูปรางค์ หรือ 'ป้าอยุธยา' และนพดล พรหมภาสิต นักกิจกรรมการเมืองอนุรักษ์นิยม นัดหมายทำกิจกรรม ‘สีดาจะไม่ทน’ จี้พรรคก้าวไกล รับผิดชอบ สส.คุกคามทางเพศ 

บรรยากาศการทำกิจกรรมวันนี้ มีประชาชนแต่งกายเป็น 'สีดาลุยไฟ' และถือป้ายปรากฏข้อความว่า "วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร" "เพิ่มความเป็นคน ลดความเป็นด้อม" "ชายเป็นใหญ่" และอื่นๆ 

นิยม กล่าวปราศรัยบนรถขยายเสียง ระบุว่าขอฝากเสียงนี้ไปถึงผู้บริหารพรรคก้าวไกล ประชาชนมายื่นหนังสือกับพวกท่าน ว่าเราจะมายื่นหนังสือที่ตึกไทยซัมมิต เราได้ขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว แต่เราจะฝากเสียงนี้ไปถึงพวกท่าน โดยเราจะใช้เวลาทำกิจกรรม 1 ชั่วโมง ถ้าไม่มารับหนังสือจากพวกเรา แสดงว่าเราไม่รับฟังเสียงจากประชาชน 

นิยม กล่าวต่อว่า วันนี้เรามาทำกิจกรรม ไม่ได้มาทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ฝากถึงด้อมส้ม หรือกองเชียร์พรรคก้าวไกลทุกคน วันนี้เรามาทำเพื่อสังคม การคุกคามทางเพศ สส.ในพรรคก้าวไกล ไม่ควรเกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นแล้ว แทนที่พรรคก้าวไกลจะแสดงความรับผิดชอบ กลับไม่ได้ทำให้ประชาชนเห็น แต่พรรคก้าวไกล กลับไปชี้หน้าด่าคนอื่นว่าสกปรก แต่พรรคก้าวไกลลืมดูในบ้านของตัวเองว่าขยะเต็มบ้าน 

"เราจึงต้องออกมาในฐานะประชาชนว่า พรรคก้าวไกลต้องแสดงให้ประชาชนเห็น สิ่งที่พรรคก้าวไกลทำวันนี้ คนที่ถูกคุกคามคือน้องที่ทำงานให้กับน้องก้าวไกลเอง เปิดรับสมัครอาสาสมัครเพื่อไปช่วยคุณหาเสียง แต่คุณกลับไปทำพฤติกรรมคุกคามน้องที่มีหัวจิตหัวใจรักพรรคก้าวไกลของคุณ น้องเขาตั้งใจมาช่วยคุณตอนหาเสียง เงินทองไม่ได้คิด เป็นอาสาสมัคร แต่โดน สส. หรือว่าที่ผู้สมัครพรรคก้าวไกล ทำการคุกคามทางเพศ ตามที่ได้เห็นในสื่อต่างๆ 

แทนคุณ จิตต์อิสระ (ที่มา: Friends Talk)

"เราจึงออกมาเรียกร้องเพื่อไม่ให้เป็นบรรทัดฐาน ต่อไปนี้ สส.ที่มีพฤติกรรมแบบนี้ต้องถูกสังคมตั้งคำถาม แต่ถ้าพรรคก้าวไกล ไม่ทำอะไรเลย เวลาคนในพรรคตัวเองผิด ไม่กล้าพูด แสดงความเห็น คนในพรรคไม่เคยออกมาให้ข่าวว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่ควรทำ สส.พรรคอื่นคุณกลับไปโจมตีเขาด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงก็ไม่มี

"พรรคคุณเองไม่ใช่เหรอ ที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ คุณเรียกร้องความเท่าเทียมของผู้หญิง เรียกร้องสมรสเท่าเทียม แต่วันนี้น้องที่ทำงานในพรรคคุณ ถูกล่วงละเมิด ถูกคุกคามทางเพศ คุณไม่ออกมาแสดงความจริงใจปกป้องน้องที่ทำงานให้กับคุณเลย" นิยม กล่าว 

นิยม ยังกล่าวฝากเรื่องคณะทำงานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เขาไม่เห็นนักสิทธิมนุษยชนออกมาพูดเรื่อง สส.พรรคก้าวไกล วันนี้หายไปไหนหมด หรือเป็นเพราะพวกคุณไปเชียร์พรรคก้าวไกล เลยไม่กล้าส่งเสียงเรียกร้อง ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นพรรคอื่นๆ จะออกมากี่คน เลยอยากว่า เมื่อไหน่ทางกรรมการสิทธิมนุษยชนจะออกมา เอาเงินเดือนมาคืนภาษีประชาชนดีหรือไม่ ต้องทำงานมากกว่านี้ จะรักจะชอบพรรคใดไม่มีปัญหา แต่เมื่อเป็นหน้าที่ คุณต้องรับผิดชอบ ตรงไปตรงมา 

หลังจากนั้น เป็นการปราศรัยของ แทนคุณ ถึงกรณีดังกล่าว และมีการแสดงการเต้น 

'เบญจา' นัดถกปม สส.ก้าวไกล คุกคามทางเพศ พรุ่งนี้ 

วันเดียวกัน ณัฐพงศ์ มาลี สำนักข่าวราษฎร รายงานว่า เบญจา แสงจันทร์ สส.พรรคก้าวไกล จะมารับหนังสือ สีดาจะไม่ทน และแจ้งความคืบหน้าเรื่องการสอบสวนกรณีการคุกคามทางเพศ ณ ตึกอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล แต่เพจเฟซบุ๊ก 'ก้าวไกลโกหกอะไร' จัดกิจกรรมที่ตึกไทยซัมมิทแทน 

เบญจา แสงจันทร์

พรรคก้าวไกล ชี้แจงว่า ไม่เคยมีการนัดหมายกับผู้จัดกิจกรรม เพียงแต่รับทราบว่าผู้จัดจะมาจัดกิจกรรมที่พรรคก้าวไกลตามที่มาแจ้งไว้ในเพจ จึงเตรียมสถานที่ที่ตึกอนาคตใหม่เรียบร้อยแล้ว แต่พอเพจ ‘ก้าวไกลโกหกอะไร’ มาที่ไทยซัมมิท จึงมีการชี้แจงว่า ที่ทำการของพรรคฯ คืออาคารอนาคตใหม่ หากผู้จัดยืนยันว่าจะจัดกิจกรรมที่ไทยซัมมิท ก็เป็นสิทธิของผู้จัดกิจกรรม 

นอกจากนี้ พรรคก้าวไกล ระบุต่อว่า หากทางผู้จัดกิจกรรมทำกิจกรรมที่ไทยซัมมิทเสร็จแล้ว สามารถมายื่นหนังสือได้ ณ ที่ทำการพรรคก้าวไกล

ด้านเว็บไซต์ 'มติชน ออนไลน์' รายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกลเบญจา แสงจันทร์ สส.พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่มี สส.ของพรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศว่า ขณะนี้ทั้ง 2 กรณีที่อาจเข้าข่ายคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ ทางกรรมการวินัยของพรรคก้าวไกลในการสืบหาและรายงานข้อเท็จจริงต่อที่ประชุมของกรรมการบริหารพรรคเรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้ข้อสรุปและมีมติให้มีการนัดหมายการประชุม สส.ร่วมกับกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 1 พ.ย. 2566 เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป ที่รัฐสภา โดยจะมีการพิจารณาบทลงโทษและมติของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับกรรมการวินัย

เบญจา กล่าวต่อไปว่า สำหรับการลงโทษและวินิจฉัยในกรณีนี้ พรรคก้าวไกลยืนยันว่า เราไม่นิ่งนอนใจ และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะมีบทลงโทษการผิดวินัยร้ายแรงตามข้อบังคับของพรรค เบญจา ย้ำว่า ต้องเป็นมติร่วมกันของกรรมการบริหาร กรรมการวินัย และ สส.ของพรรค

ทั้งนี้ บทลงโทษการผิดวินัยร้ายแรงตามข้อบังคับของพรรคแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ 1. การตัดสิทธิที่พึงมี และ 2. การขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค 

ส่วนตัวมองว่า หากต้องเสียนิ้ว หรือเสีย สส.เพิ่มอีกจะรับได้หรือไม่ เบญจา กล่าวว่า ตนพูดในนามส่วนตัวไม่ได้ วันนี้ตนพูดในนามพรรค เวลาพูดว่าจะต้องเสียนิ้ว หรือเสียบุคลากรของพรรคไป ก็ต้องย้อนกลับไปดูข้อเท็จจริง ซึ่งเรายืนยันเสมอว่า กรณีที่เข้าข่ายการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ พรรคให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ให้คุณค่า มีอุดมการณ์หลักที่ต้องยึดถือในเรื่องนี้ร่วมกัน

"เราจะพูดถึงเฉพาะตัวบุคคลไม่ได้ เราต้องการพูดถึงเรื่องนี้ในระดับที่ต้องยกระดับความเข้าใจของสังคมให้มีเสมอกันและเท่ากัน และต้องการยกระดับการเมืองไทยให้เพิ่มขึ้นกว่านี้" เบญจา กล่าว

เบญจา กล่าวต่อว่า ถ้าเราต้องเสียบุคลากรที่สำคัญไป เราจะเสียดายหรือไม่นั้น ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ที่ต้องยึดตามข้อเท็จจริง ไม่ได้มีอคติแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า หากเกิดกรณีลักษณะคล้ายกันเช่นนี้อีกจะมีบรรทัดฐานของพรรคใช่หรือไม่ เบญจา กล่าวยืนยันว่า เรามีมาตรฐานในการกำหนดบทลงโทษตามข้อบังคับที่ชัดเจนของพรรคอยู่แล้ว

"เราไม่มีวัฒนธรรมในการปกปิดความผิดใดๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราค่อนข้างระมัดระวังกับเรื่องนี้ เพราะการที่เราจะลงโทษคนใดคนหนึ่งโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริง เป็นเรื่องน่ากังวลอย่างมาก เหมือนเป็นอนาคต ความรับผิดชอบ และหน้าที่ของเขาในการเป็นผู้แทนราษฎรด้วย" เบญจา กล่าว

สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า เช่นเดียวกันกับกรณีของผู้ร้อง เราต้องระมัดระวัง ปกป้อง และแสดงความห่วงใยกับสิ่งที่อาจกระทบกับผู้ร้องเอง ดังนั้น ในทุกๆ การพิจารณาที่เราใช้เวลาพอสมควรนี้ เรามีความจำเป็นต้องรอบคอบอย่างมาก ทั้งในการตัดสิน และพูดถึงเรื่องนี้

เมื่อถามว่า หากมีมติให้ขับ สส.ออกจากพรรค พร้อมที่จะยอมรับ และไม่กังวลในจำนวนของ สส.ที่ลดลงใช่หรือไม่ เบญจา กล่าวว่า จำนวน สส.ไม่ได้พิสูจน์ เราจะยืนหยัดให้คุณค่า หรืออุดมการณ์กับเรื่องนี้อย่างไร หากที่ประชุมมีมติเดียวกันว่าสมควรให้ลงโทษทางวินัยร้ายแรงโดยการขับออกจากพรรคนั้น เราก็น้อมรับ