Skip to main content
sharethis

ศาลอาญากรุงเทพใต้ ยกฟ้องคดีบริษัทฟาร์มไก่ ธรรมเกษตร ฟ้องหมิ่นฯ 3 นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิฯ ปมโพสต์โซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิแรงงานข้ามชาติ

 

29 ส.ค. 2566 เว็บไซต์ มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน รายงานวันนี้ (29 ส.ค.) ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดอ่านคำพิพากษายกฟ้องคดีที่ บริษัท ธรรมเกษตร จำกัด ฟ้องคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา อังคณา นีละไพจิตร พุทธณี กางกั้น และธนภรณ์ สาลีผล จากการโพสต์และแชร์โพสต์ในเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ (หรือชื่อใหม่คือ 'X') ซึ่งมีการฟ้องคดีมาตั้งแต่ปี 2562-2563 โดยทางบริษัทธรรมเกษตร อ้างว่า การโพสต์และแชร์โพสต์ของจำเลยทั้ง 3 คน ทำให้สามารถเข้าถึงวีดีโอที่อ้างว่ามีข้อมูลที่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท

ศาลได้อ่านคำพิพากษาแล้ว มีประเด็นพอสรุปได้ดังนี้

1. ข้อความที่จำเลยทั้ง 3 โพสต์ เป็นข้อความที่ไม่ได้มีการกล่าวถึงโจทก์โดยตรง โดยเป็นการโพสต์เกี่ยวกับคดีความที่โจทก์ได้มีการฟ้องร้องนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และเป็นข้อความที่จำเลยโพสต์ให้กำลังใจนักปกป้องสิทธิฯ ในคดีอื่นๆ ที่โจทก์ได้ฟ้องนักปกป้องสิทธิฯ เหล่านั้น

2. ส่วนที่มีการอ้างถึงลิงก์วิดีโอนั้น เห็นว่าจำเลยไม่ได้คาดหมายว่าจะมีใครเข้าถึงวีดีโอดังกล่าวได้ อีกทั้ง ขั้นตอนการเข้าถึงวีดีโอก็มีความซับซ้อนหลายขั้นตอน รวมถึงเนื้อหาในวิดีโอ ก็เป็นการกล่าวถึงลูกจ้างที่โจทก์ได้ยื่นฟ้องคดี ซึ่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้องไปก่อนแล้ว 

3. โจทก์ไม่ได้นำสืบว่า ข้อความที่จำเลยทั้ง 3 โพสต์ในทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊กนั้น มีข้อความใดที่หมิ่นประมาทโจทก์ และจำเลยทั้งสามไม่มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์แต่อย่างใด

ดังนั้น ตามที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามโพสต์หรือแชร์โพสต์ข้อความโดยการโฆษณาอันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ จึงยังไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาท

ข้อมูลจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน เปิดเผยว่า คดีนี้แต่เดิมถูกแยกฟ้องเป็น 5 คดี เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2492/2562, อ.2876/2562, อ.739/2563, อ.740/2563 และ อ.741/2563 แต่ต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียว ทั้งนี้ หากศาลมีคำพิพากษาลงโทษสูงสุดในคดีนี้ ตามมาตรา 326 และ 328 จะมีโทษจำคุกกรรมละไม่เกิน 2 ปี และ/หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

"ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง เพราะเห็นว่าข้อความที่จำเลยโพสต์ ไม่มีการกล่าวถึงโจทก์โดยตรง ส่วนที่โจทก์อ้างว่ามีข้อความที่หมิ่นประมาท ศาลเห็นว่าการจะเข้าถึงวิดีโอดังกล่าว ต้องใช้หลายขั้นตอน และไม่อาจคาดคะเนว่า บุคคลที่อ่านโพสต์จะรู้ว่ามีวิดีโอดังกล่าวซ่อนอยู่ ส่วนวิดีโอที่โจทก์อ้างว่ามีข้อความหมิ่นประมาทนั้น ศาลระบุว่ามีคำพิพากษาในคดีอื่นแล้วว่า ตัววิดีโอไม่ได้มีข้อความที่หมิ่นประมาทบุคคลอื่นอยู่ 

"ศาลมองว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่สุจริต ไม่ได้เกิดความเสียหายกับโจทก์

"พอใจกับคำพิพากษาที่ศาลได้มีการคุ้มครองการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โดยคดีนี้ใช้เวลาในการพิจารณาคดีมายาวนาน เริ่มคดีแรกในปี 2562 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 4 ปี ทั้งยังเป็นภาระต่อจำเลยในเรื่องค่าใช้จ่าย และจิตใจ มาโดยตลอด อยากขอบคุณจำเลยที่ยืนหยัดต่อสู้ในเรื่องสิทธิเสรีภาพของตัวเองมาโดยตลอด" ทิตศาสตร์ สุดแสน ทนายความมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net