Skip to main content
sharethis

บอร์ด กสทช. ลงมติ 4 : 2 ปลด 'ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล' จากรักษาการ เลขาธิการ กสทช. หลัง อนุ กก.ตรวจสอบชี้เข้าข่ายกระทำผิด จากการหารือกับ กกท. ก่อนที่จะเสนอวาระการของบสนับสนุนซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 แต่ยังไม่มีผลจนกว่าบอร์ดจะเซ็นรับรองการประชุม เจ้าตัวสามารถอุทธรณ์ได้ตามกฎหมาย 

11 มิ.ย. 2566 หลายสื่อ อาทิ กรุงเทพธุรกิจ ไทยรัฐ และ เดลินิวส์ รายงานตรงกันว่าเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ บอร์ดกสทช. มีวาระการการพิจารณาเป็นวาระลับข้อที่ 5.2 เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

สืบเนื่องมาจาก คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฟุตบอลโลก 2022 ที่ กสทช. อนุมัติเงินกองทุนกทปส.หรือ งบ USO ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก จำนวน 600 ล้านบาทเป็นผู้สนับสนุนหลักการถ่ายทอดฟุตบอลโลก

ปรากฏว่าข้อเสนอที่ คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเสนอเข้ามานั้น ได้เขียนสรุป นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล  รักษาการเลขาธิการ  และ รองเลขาธิการ กสทช. เข้าข่ายการกระทำผิด โดยมีการหารือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ก่อนที่จะเสนอวาระการของบสนับสนุนซื้อลิขสิทธิ์

ดังนั้น บอร์ด กสทช.ต้องดำเนินการพิจารณา หากไม่พิจารณาจะเข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ที่ประชุมบอร์ด กสทช. จึงได้ใช้วิธีการโหวต ปรากฏว่าคะแนน 4: 2 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรักษา เลขาธิการ กสทช.โดยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยต่อไป

โดยเสียง 4:2 ประกอบด้วย

ศาสตราจารย์คลินิก สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกสทช. งดออดเสียง

นายต่อพงศ์ เสลานนท์ เห็นว่าไม่มีความผิด

พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร เห็นว่าไม่มีความผิด

พล อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ เห็นว่ามีความผิด

ศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง รามสูต เห็นว่ามีความผิด

ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย เห็นว่ามีความผิด

รองศาสตราจารย์สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ เห็นว่ามีความผิด

ล่าสุด บอร์ด กสทช. แต่งตั้งให้ นายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รักษาการเลขาธิการ กสทช.

แหล่งข่าวจาก กสทช. กล่าวกับ เดลินิวส์ ว่าหลังการลงมติครั้งนี้ จะมีผลอย่างเป็นทางการนั้น ทาง บอร์ด กสทช. ต้อง ลงนามรับรองการประชุมก่อน ซึ่งหากการรับรองไม่ครบตามที่ลงคะแนนผลก็ยังเปลี่ยนแปลงได้ แต่หากมีการรับรองการประชุมแล้วตามมติ กระบวนการต่อไป จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดของทาง นายไตรรัตน์ ซึ่งหากนายไตรรัตน์ ไม่เห็นด้วยกับผลครั้งนี้ก็สามารถอุธรณ์ได้ ตามกฎหมายทุกอย่าง

อนึ่งกรณีนี้สืบเนื่องมาจากมีการนำเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) กว่า 600 ล้านบาท ซึ่งต่อมาปรากฏว่าการรับชมผ่านแอปพลิเคชันเอไอเอสเพลย์ถูกระงับการแพร่ภาพต้องจอดำ เนื่องจากบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)ในฐานะ 1 ในเอกชนที่ร่วมลงขันออกเงินค่าลิขสิทธิ์ร่วม 200 ล้านบาท ยื่นฟ้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาให้ระงับการถ่ายทอดสดผ่านแอปพลิเคชันเอไอเอสเพลย์ เนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และถือเป็นคู่แข่งขันโดยตรง ขณะที่คณะกรรมการ กสทช.บางคนเห็นว่าเอไอเอสเพลย์เป็นผู้ให้บริการภายใต้ใบอนุญาตของ กสทช. จึงมีสิทธิในการออกอากาศ หากต้องจอดำก็ควรคืนเงิน 600 ล้านบาท กลับคืนกองทุน กทปส. จนเกิดการตั้งคณะอนุกรรมการสอบและนำไปสู่การปลดนายไตรรัตน์จากตำแหน่งรักษาการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net