Skip to main content
sharethis

เวทีเสวนาคู่ขนาน ดัน "พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า" ผ่านสภา แอดมินเพจสุราไทย - ประชาชนเบียร์ - กมธ. พิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ร่วมถก "เท่าพิภพ" ชี้หากจะมีเหตุที่ทำให้ร่างกฎหมายไม่ผ่าน เชื่อเป็นเรื่องการเมือง 

15 ก.ค.2565 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชนว่า เสวนาคู่ขนาน ดัน "พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า" เจริญ เจริญชัย นักวิชาการและแอดมินเพจสุราไทย กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เรามานั่งคุยกันในที่นี้ ก็คือปัญหาของ พ.ร.บ.สรรพสามิต มาตรา 153 ที่ระบุว่าผู้ประสงค์จะผลิตเหล้าเบียร์ต้องทำการขออนุญาต โดยออกเป็นกฎกระทรวงที่มาควบคุมไมว่าจะเป็นการกำหนดกำลังการผลิต ปริมาณการผลิตขั้นต่ำ ซึ่งเหล่านี้ไม่เปิดโอกาสให้คนตัวเล็กตัวน้อยสามารถผลิตบริโภคเองได้ สำหรับสาเหตุในการที่ต้องขออนุญาตินั้น เริ่มจากการที่รัฐมองว่าอุตสาหกรรมเหล้าเบียร์มีรายได้เยอะ จึงคิดเรื่องการจัดเก็บภาษี โดยมีข้ออ้างว่าเหล้าเบียร์นั้นสร้างปัญหาสังคม ต้องการที่จะเอาเงินมาช่วยดูแล  แต่ถามว่าที่ผ่านมาช่วยได้จริงหรือไม่ หรือเป็นแค่การเอื้อให้ทุนใหญ่ผูกขาดการผลิต คนตัวเล็กตัวน้อยผลิตไม่ได้ ดังนั้น เราจึงเห็นข้ออ้างของฝ่ายต่อต้านการแก้กฎหมายนี้ เช่น เรื่องการควบคุมคุณภาพ การทำให้ได้มาตรฐาน ไม่เป็นอันตราย แต่เบื้องหลังแล้ว ไม่ได้ห่วงสุขภาพประชาชนจริงๆ แค่ไม่ต้องการให้มีการเปิดเสรีมากกว่า 

"ถามว่าทำไมวันนี้กัญชาเสรีเปิดได้โดยไม่กลัวประชาชนได้รับผลกระทบ แต่เหล้าเบียร์เปิดให้ประชาชนคนธรรมดาทำไม่ได้ และในความเห็นผม ถ้าจะทำให้อุตสาหกรรมเหล้าเบียร์เติบโตพัฒนาได้ ต้องเปิดให้คนผลิตเยอะๆ สำหรับในส่วนของเบียร์ตอนนี้เริ่มมีการประกวดมากขึ้น แต่ในส่วนของเหล้านั้นยังไม่มาก ทั้งๆ ที่ถ้ามีการเปิดให้แต่ละชุมชนผลิตได้ มีการสร้างเอกลักษณ์ของสุราท้องถิ่น เช่นว่าใช้น้ำจากแม่น้ำนี้ที่ไหลมาจากภูเขาลูกนี้ในฤดูกาลนี้ เป็นต้น เรื่องเหล่านี้ต้องนำออกมาขาย ไม่อย่างนั้นเราก็จะถูกวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามากลืน อย่างที่เราเห็นวัฒนธรรมการดื่มของเกาหลีเข้ามาในหนังในละครบ้านเรา และคนไปดื่มแต่โซจู ในความเห็นผมคนจะดื่มอย่างไรก็ดื่ม ถ้าเรามีเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของเราจะสร้างมูลค่าเพิ่มตรงนี้ได้" เจริญ กล่าว 

เจริญ กล่าวด้วยว่า กฎหมายคือเครื่องมือในการสร้างอำนาจ การผลิตเหล้าเบียร์ของประชาชนมีมานานแล้ว แต่กฎหมายควบคุมมาเกิดขึ้นในภายหลัง ซึ่งกลายเป็นว่าได้กลายเป็นล็อกไม่ให้เกิดการพัฒนา เรามองว่าต้องเปิด แล้วนำภาษีที่ได้มาสร้างกองทุน มีกิจกรรมต่างๆ ทำเพื่อนำเงินตรงนี้มาใช้ในการพัฒนาเหล้าเบียร์ ไม่ว่าจะเป็นทุนสำหรับงานวิจัยต่างๆ ทุกรูปแบบ เป็นต้น ไม่ใช่สร้างภาพแต่เพียงว่าเหล้าเบียร์เป็นปีศาจอย่างที่ทำอยู่ ดังนั้น อยากฝากถึงประชาชนให้ช่วยกันออกมาส่งเสียงถึง ส.ส.ของตัวเอง ให้ผ่านร่างแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิต ฉบับนี้ 

ธนากร ท้วมเสงี่ยม แอดมินเพจประชาชนเบียร์ กล่าวว่า การผลิตเหล้าเบียร์ของประชาชนควรเป็นเรื่องปกติ ประเทศของเราควรสสนับสนุนคนที่มีความสามารถเพื่อให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ อยากให้มองว่านี่คือของกิน คืออาหาร ไม่ใช่ยาเสพติด เราไม่ได้ทำเพื่อการค้าหวังร่ำร่วย แต่ผลิตเหล้าเบียร์เพื่อสร้างสังคมการดื่มที่ดี ส่วนที่อ้างว่าที่ยังคงมีกฎหมายควบคุมเพื่อป้องกันอันตราย ตรงนี้อยากถามว่า คราฟต์เบียร์ไม่ใช่เพิ่งจะมีการทำ แต่ทำมาแล้วเป็นสิบๆ ปี ถ้าอย่างนั้นคนดื่มเบียร์เหล่านั้นก็คงจะตายไปแล้ว ตรงกันข้าม การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ผลิต เอาขึ้นมาอยู่บนดิน ให้สามารถผลิตได้อย่างเสรีจะทำให้ได้มาตรฐานมากขึ้น นอกจากนี้ ปัจจุบันเรามีสถาบันการศึกษาที่ทำการเรียนการสอนเรื่องนี้อยู่เยอะแยะมากมาย ตรงนี้เมื่อเปิดเสรีแล้วก็ควรนำมาใช้ส่งเสริมพัฒนา ที่ห่วงว่าผลิตเหล้าดื่มเองไม่ได้มาตรฐานแล้วอาจทำให้คนได้รับอันตราย นั่นก็เป็นเรื่องคดีความที่ต้องรับผิดชอบกันไป

"ทำไมเราไม่เคยมีเหล้าเบียร์ที่เป็นแบรนด์ของคนไทยที่สามารถโชว์ในเวทีโลกได้ เยอรมัน, ฝรั่งเศส ประเทศที่เขาพัฒนาแล้วนั้นมี ซึ่งถ้าเราเปิดเสรี ผมคิดว่าไม่ใช่แค่เรื่องของการที่เราได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แต่หมายถึงองค์ความรู้ หมายถึงวัฒนธรรมการดื่มที่ดีขึ้น นอกจากนี้ เครื่องดื่มเหล่านี้อาจจะสามารถไปปรากฏในมิวสิกวีดีโอ ปรากฏในหนังในละคร สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ได้ ไม่ใช่มองแต่แค่ว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แน่นอน สำหรับร่างแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิตร ที่เราสนับสนุนให้มีการแก้ไข แม้ผ่านวาระแรกไปแล้ว แต่ก็ยังหนักใจเพราะยังมีวาระ 2 มีวาระ 3 และต้องผ่าน ส.ว.พิจารณา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราอยากเห็นก็คือการผ่านร่างกฎหมายนี้ เพื่อเป็นสิ่งพิสูจน์ว่า ผู้มีอำนาจรัฐนั้นอยู่ฝั่งประชาชนหรือนายทุน จะช่วยเหลือประชาชนหรือช่วยนายทุน" ธนากร กล่าว 

เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต กล่าวว่า ในชั้น กมธ.การถกเถียงเรื่องนี้สำหรับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็จะมีการยกเหตุผลร้อยแปดพันประการมาอ้าง เช่น ถ้าเปิดเสรีแล้วจะทำให้รัฐสูญเสียภาษี คนจะทำกินกันเองเยอะขึ้น ไม่ไปซื้อเหล้าที่ติดแสตมป์ ซึ่งอยากจะชี้ให้เห็นตรงนี้ว่าเหล้าเบียร์ไม่ใช่ผัดกระเพรา ที่อยากจะลุกขึ้นมาทำก็ทำกันง่ายๆ หรือบางคนก็ห่วงเรื่องความปลอดภัย จะเกิดเหตุการณ์ทำนองว่ามีงานบวชแล้วคนไปต้มเหล้าเองมาเลี้ยง ใส่กรัมม็อคโซนลงไปทำให้คนที่มาร่วมงานดื่มตาบอดได้ เจ็บป่วยกันหมด ซึ่งไม่จริง  เพราะผัดกระเพราะก็ใส่กรัมม็อคโซนได้ หรือยกตัวอย่างพืชกระท่อมที่เปิดเสรีแล้วในตอนนี้ ความผิดมันอยู่ที่การไปใส่สูตรสี่คูณร้อย ไม่ได้ผิดที่ใบกระท่อม ดังนั้น เหล้าเบียร์ก็เช่นกัน และที่สำคัญ ทุกวันนี้ทุกคนรู้จักการผลิตกันมากขึ้นแล้ว ยิ่งเปิดเสรีก็จะทำให้คนเรียนรู้ที่เป็นวิทยาศาสตร์เป็นวิชาการมากขึ้น ก็จะแก้ข้อกังวลของ กมธ.บางคนที่ห่วงเรื่องประชาชนมีความรู้ไม่เพียงพอได้ 

"ผมรู้สึกว่าถ้าพูดเรื่องเหล้าเบียร์วันนี้ ถูกควบคุมมากกว่ายาบ้าเสียอีก ห้ามพูดถึง คนครอบครองถูกจับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรผิด ผมมองว่าการออกกฎหมายที่ผ่านมา มาจากมุมมองของผู้ใช้อำนาจ โดยเฉพาะฝ่ายที่ยึดอำนาจมา ฝ่ายที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เขาย่อมไม่ฟังเสียงประชาชน ตรงกันข้ามยอมให้เกิดผูกขาดของทุนที่สนับสนุนอำนาจของพวกเขา ดังนั้น พวกเราฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายประชาชนต้องมาร่วมกันส่งเสียง ว่าต้องการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ และถ้าถามว่า พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับนี้จะผ่านหรือไม่ ผมคิดว่าถึงตอนนี้เป็นเรื่องทางการเมืองมากกว่าข้ออ้างร้อยแปดพันประการที่พูดมา ถึงตอนนี้คิดว่าน่าจะมีสาเหตุที่ทำให้ไม่ผ่านมีอยู่ 2 ประการ คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีชิงยุบสภาไปก่อน และ 2.รัฐสภาชุดนี้ยอมไม่ได้ที่จะผ่านร่านร่างกฎหมายของฝ่ายค้านอย่างพวกเรา" เท่าพิภพ กล่าว

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net