เปิดนิทรรศการ Cold War: the mysterious (สงครามเย็น: ปริศนาลวงพราง) โดยทัศนัย เศรษฐเสรี ศิลปินร่วมสมัยและอาจารย์ประจำสาขาวิชา Media Arts and Design คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นิทรรศการที่หยิบเอาประวัติศาสตร์ยุคสงครามเย็นมาไล่เลียงให้เห็นโศกนาฏกรรมและการต่อสู้ของประชาชนในสังคมไทยตั้งแต่อดีตที่คาบเกี่ยวมาจนถึงปัจจุบัน
13 มี.ค. 2565 เมื่อวานนี้ (12 มี.ค. 2565) พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานเปิดนิทรรศการ Cold War: the mysterious (สงครามเย็น: ปริศนาลวงพราง) โดยทัศนัย เศรษฐเสรี ศิลปินร่วมสมัย และอาจารย์ประจำสาขาวิชา Media Arts and Design คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขึ้น นิทรรศการครั้งนี้จัดแสดงผลงานคัดสรรกว่า 60 ชิ้น ทั้งในรูปแบบงานจิตรกรรมหลากเทคนิค ประติมากรรมและ วิดีโอบทสัมภาษณ์ที่จะทำให้ผู้ชมเข้าใจกระบวนการและปฏิบัติการทางศิลปะของศิลปินมากยิ่งขึ้น
นิทรรศการสงครามเย็น: ปริศนาลวงพราง เป็นการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่าง “ภาพ” กับประวัติศาสตร์การเมืองในยุคสงครามเย็นเป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์, เรื่องเล่า, ความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อน, และปมความขัดแย้งในอุดมการณ์ทางการเมืองของประเทศมหาอำนาจ ซึ่งนำไปสู่สงครามตัวแทนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อันส่งอิทธิพลต่อความไม่ลงรอยทางการเมืองไทย เรื่อยมาจนถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรม 6 ตุลา 2519 ตลอดจนความรุนแรงทางการเมืองระหว่างรัฐที่มีต่อประชาชน เช่น การถูกบังคับให้สูญหายและการวิสามัญฆาตกรรมทางการเมือง ศิลปินได้จัดเรียงความสัมพันธ์ที่พัวพันกันนี้ โดยนำเสนอผ่านชุดผลงานศิลปะที่ใช้การปะติดหรืองานคอลลาจ ซึ่งเป็นเทคนิคการตัดกระดาษแบบดั้งเดิมในภูมิภาคล้านนามาผสมรวมกับกระบวนการเฉพาะตัวของศิลปิน ทั้งกระบวนการพิมพ์ภาพ, การสร้างและการย้อมสีกระดาษ, และการทำสีเพื่อเขียนภาพขึ้นใหม่โดยเฉพาะ
ผลงานปะติดของทัศนัยทั้งในรูปแบบจิตรกรรมและประติมากรรมมีความหนาเป็นพิเศษจากชั้นของกระดาษที่ซ้อนทับกันหลายสิบชั้น ความหนาของชิ้นงานนี้ไม่เพียงหมายถึงการทับซ้อนกันของทัศนธาตุ หากยังหมายรวมถึงเรื่องราวความรุนแรงในประวัติศาสตร์ระยะใกล้ที่ถูกแอบซ่อนหรือถูกห่มคลุมไว้ด้วยความสวยงามของสีสันตระการตา ขณะเดียวกันเส้นสีเหล่านี้ยังเรียงตัวกันขึ้นรูปเป็นสัญลักษณ์ในทางประติมานวิทยาที่ซ่อนรหัสจำนวนมหาศาลชวนให้ตีความถึงอิทธิพลของสงครามเย็นต่อวัฒนธรรมประชานิยม, ซอฟต์พาวเวอร์, นิทานปรัมปรา, ภาพนักคิดนักทฤษฎีทางสังคม การเมือง, และภาพนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
นิทรรศการนี้จึงเป็นดั่งจุดประของประวัติศาสตร์ที่ร้อยเรียงกันจนเป็นเรื่องราวขนาดใหญ่สะท้อนถึงหน้าฉากของรัฐนาฏกรรมของสังคมไทยและเป็นดังอนุสาวรีย์ทางความทรงจำถึงผู้ที่ดับสูญ ศิลปินเปิดประสบการณ์ทางสายตาของผู้ชมให้เผชิญหน้ากับภาพอันมโหฬารพร้อมกับรหัสและความหมายที่ซ่อนเร้น ทั้งนี้เพื่อขยายขอบเขตการรับรู้ในการรับชม นิทรรศการนี้นำเสนอการนำชมด้วยเสียงเพื่อบอกเล่าเรื่องราว, เหตุการณ์, และบริบททางสังคมเบื้องหลังความคิดของผลงานแต่ละชุด
ทัศนัย เศรษฐเสรี ศิลปินเจ้าของผลงาน
“งานทั้งหมดที่ทำมาไม่ได้จะทำให้เห็นทั้งหมดของความงามของผลงานศิลปะ แต่ทำขึ้นมาเพื่อให้พวกเราเห็นความหวังในอนาคต ความหวังในชีวิต ความหวังของผม ผมหวังว่าจะได้คนที่มีจิตสำนึกมีวุฒิภาวะที่ดีอยู่ในระบบการศึกษาทุกระดับ ไม่ว่าในโรงเรียนและในมหาวิทยาลัย ผมฝันเห็นและมีความหวังถึงสังคมที่ผู้คนมีอิสรภาพในทุกระเบียบนิ้ว เป็นความหวังที่ผมอยากจะเห็นจากงานทั้งหมดที่ผมทำไม่ใช่แค่สงครามเย็น
ท้ายที่สุดแล้ว ผมขอกล่าวคำสั้นๆ ของครูครอง จันดาวงศ์ เพื่อจะเป็นกุญแจไขเข้าไปดู exhibition ประตูสู่อิสรภาพที่ผู้ชมทั้งหลายจะมีความเข้าใจอย่างอิสระต่อผลงานศิลปะ และประตูที่จะไขแสงสว่างไปสู่มายาคติ อคติต่อผู้คนที่เกลียดชังเสรีภาพ ไม่เคารพรักในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ
ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ
ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”
คำกล่าวเปิดงานจากทัศนัย
หมายเหตุ
นิทรรศการ Cold War: the mysterious (สงครามเย็น: ปริศนาลวงพราง) จะจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2565 ไปจนถึง 14 ก.พ. 2566
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)