ศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุก 'วัฒนา เมืองสุข' 99 ปี คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ
วัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงว่าการการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ | แฟ้มภาพ
4 มี.ค. 2565 เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่าที่ศาลฎีกาแผนกอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ นัดพิพากษาอุทธรณ์คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ หมายเลขดำ อม.อธ. 1/2565 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงว่าการการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และพวกรวม 14 ราย
ที่ศาลฎีกาแผนกอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ นัดพิพากษาอุทธรณ์คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ หมายเลขดำ อม.อธ. 1/2565 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงว่าการการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และพวกรวม 14 ราย
ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148
เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 157
เป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 6, 11 และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 91
“วัฒนา เมืองสุข” คุก 99 ปี
จากนั้น (24 ก.ย. 2563) ศาลศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก นายวัฒนา เมืองสุข ในฐานะผู้กำกับดูแลพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำเลยที่ 1 ตามความผิดตามมาตรา 148 จำนวน ของประมวลกฎหมายอาญา 11 กระทง กระทงละ 9 ปี รวม 99 ปี แต่คงจำคุกจริง 50 ปี
ส่วนนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือจำเลยที่ 4 มีความผิด 11 กระทง กระทงละ 6 ปี รวม 66 ปีจำคุกจริง 50 ปี
นอกกจากนี้ ยังจำคุก จำเลยที่ 5 น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง เป็นเวลา 20 ปี, จำเลยที่ 6 น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว เป็นเวลา 44 ปี, จำเลยที่ 7 เป็นเวลา 32 ปี ,จำเลยที่ 8 ปรับ 2 แสนกว่าบาท, และจำเลยที่ 10 นายอริสมันต์ เป็นเวลา 4 ปี
ส่วนจำเลยที่ 2 นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตบอร์ดการเคหะแห่งชาติ (กคช.) จำเลยที่ 3 นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บมจ. ปริญสิริ (PRIN), จำเลยที่ 9 บริษัท ซิลเวอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด, จำเลยที่ 11-14 บริษัท พาสทิญาไทย จำกัด, บริษัท นามแฟทท์ คอนสตรัคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท พรินชิพเทค ไทย จำกัด และ น.ส.สุภาวิดา คงสุข กรรมการผู้มี อำนาจทำการแทน ศาลมีคำสั่งยกฟ้องฯ
ทั้งนี้ คดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหลังมีคำพิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว คดียังไม่ถึงที่สุด คู่ความสามารถยื่นอุทธรณ์ได้อีกครั้งเนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 ให้สิทธิคู่ความในการยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ภายใน 30 วัน
ขอประกันตัว-ยื่นอุทธรณ์ต่อ
จากนั้น นายวัฒนา ได้ยื่นประกันตัวตามสิทธิ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 ให้สิทธิคู่ความในการยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ภายใน 30 วัน ซึ่งศาลอนุญาตให้ประกันตัว วางหลักทรัพย์ 10 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศก่อนได้รับอนุญาต
ส่วนเหตุที่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวนั้น เนื่องจากเห็นว่าตัวเองไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนีคดี ประกอบกับในการต่อสู้คดีชั้นอุทธรณ์นั้นจะเป็นผู้ว่าความเอง ซึ่งต้องจัดเตรียมคดีและเอกสารหลักฐานที่อยู่ในไฟล์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนหลายหมื่นหน้าด้วยตัวเอง ศาลจึงพิจารณาเห็นควรให้ประกันตัว เพื่อได้ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คดี
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)