Skip to main content
sharethis

'ปิยบุตร' ชวน ส.ส.-ส.ว. เห็นแก่อนาคตชาติ ยกมือผ่านร่างแก้รัฐธรรมนูญ โดยประชาชน อัด ส.ว. หยุดเห็นแก่ตัว-ผลประโยชน์ ชี้ระบบผู้แทนต้องตอบสนองประชาชน 

16 พ.ย.2564 วันนี้ (16 พ.ย.) ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา มีวาระพิจาราร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... ที่ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเข้าชื่อกันเสนอ โดยเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ทีมสื่อคณะก้าวหน้า รายงานว่า ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และพริษฐ์ วัชรสินธุ จากกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า ร่วมจัดรายการวิเคราะห์สถานการณ์การแก้รัฐธรรมนูญ หลังร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของกลุ่ม Re-Solution ซึ่งรวบรวมรายชื่อของประชาชนได้มากกว่าแสนรายชื่อ จะถูกพิจารณาในการประชุมร่วมของรัฐสภาดังกล่าว

ปิยบุตร กล่าวย้ำถึงความสำคัญของข้อเสนอล้างมรดกรัฐประหารและการป้องกันการรัฐประหารในอนาคต โดยระบุว่าสำหรับเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคการเมือง ไม่ว่าจะในฝ่ายรัฐบาลฝ่ายค้าน ล้วนเป็นเหยื่อของการรัฐประหารด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ที่ผ่านมา หลังการรัฐประหารทุกครั้ง นักการเมืองต้องยุติบทบาท ถูกเรียกรายงานตัว ถูกตรวจสอบอย่างไม่เป็นธรรม ทุกวันนี้หลายคนถูกบีบให้ต้องไปร่วมกับพรรครัฐบาลด้วยคดีความต่างๆ นี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่ ส.ส. จะสามารถทำเพื่อประเทศชาติได้ ด้วยการการลงมติเพื่อยืนยันว่ารัฐประหารต้องหมดไปจากประเทศไทย และตนมั่นใจว่าหากทุกคนร่วมมือกัน ทำให้คนก่อรัฐประหารต้องไปขึ้นศาล ถูกดำเนินคดี ถูกพิพากษาให้ติดคุก นิรโทษกรรมไม่ได้ เมื่อนั้นก็จะไม่มีใครกล้าทำรัฐประหารอีกเลย

“ถ้าเราทำให้คนก่อรัฐประหารต้องไปขึ้นศาลอาญาถูกดำเนินคดี ติดคุก เมื่อนั้นจะไม่มีใครกล้าทำรัฐประหารอีกเลย ผมอยากจะเรียกร้อง ส.ส. ทุกคนให้มองข้ามเรื่องรัฐบาล-ฝ่ายค้าน นี่คือผลประโยชน์ร่วมกันของคนไทยทั้งประเทศ เราจะได้ไม่ต้องเห็นรัฐประหารกันอีก” ปิยบุตรกล่าว

อัด ส.ว. หยุดเห็นแก่ตัว-ผลประโยชน์ ชี้ระบบผู้แทนต้องตอบสนองประชาชน

นอกจากนี้ ปิยบุตรยังระบุด้วยว่าที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าเวลาจะมีการแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นสำคัญๆ ของประชาชน ส.ว. มักทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองตลอด แต่กลับไปสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง เช่น เรื่องระบบเลือกตั้ง พร้อมระบุว่าการทำตัวแบบนี้ของ ส.ว. นี่เอง ที่นำมาซึ่งวิกฤติการเมืองที่เป็นอยู่ตลอดปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการชุมนุมเรียกร้องของเยาวชนคนรุ่นใหม่และประชาชน และยังเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าประชาชนที่มักถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของอำนาจ กลับไม่ได้มีที่ยืนอย่างแท้จริงในรัฐธรรมนูญฉบับนี้

“การแก้รัฐธรรมนูญของประเทศนี้ คุณต้องผ่านผู้ออกใบอนุญาตไม่รู้กี่ด่าน ปัญหาก็คือแล้วประชาชนอยู่ตรงไหนของสมการแบบนี้? ประชาชนซึ่งถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ที่เป็นเจ้าของอำนาจ แต่ถึงเวลาพอประชาชนจะใช้อำนาจจริงกลับถูกสกัดขัดขวางตลอดเวลา” ปิยบุตรกล่าว

เลขาธิการคณะก้าวหน้า ยังกล่าวต่อไปว่าการลงมติครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่าสรุปแล้วระบบผู้แทนที่เราใช้อยู่จะสนองต่อความต้องการของประชาชนมากน้อยแค่ไหน เพราะนี่คือร่างที่ประชาชนกว่าแสนคนร่วมกันลงชื่อมา และจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เว้นแต่ ส.ว. 250 คน ซึ่งตนก็ต้องขอให้เห็นแก่อนาคตประเทศมากกว่าประโยชน์ส่วนตน

“ตัวเองอยู่ในอำนาจมาได้ถึงขนาดนี้แล้ว ส.ว. บางคนนี่เป็น ส.ว. ตั้งแต่ไอโฟนรุ่นแรกๆ ออกมา จนวันนี้ยังเป็นอยู่เลย แค่นี้ก็ผิดปกติแล้ว ดังนั้นผมก็เลยอยากจะเชิญชวนให้ฟังการอภิปราย การนำเสนอของเรา เหตุและผลที่เราเสนอร่างรัฐธรรมนูญแบบนี้มา ลองอ่านศึกษาดู อย่าคิดแต่เพียงแค่ว่าฉันจะโหวตล้ม เพราะว่าร่างนี้มันเป็นของฝ่ายตรงข้ามร่างขึ้นมา” ปิยบุตรกล่าว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net