Skip to main content
sharethis

"แนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม" นำโดยสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ แถลงความคืบหน้าหลังนักศึกษาและประชาชนร่วมตั้งโต๊ะล่าชื่อถอดถอน กกต. ทั่วประเทศ โดยได้มาแล้วกว่า 7,200 รายชื่อ หลังจากนี้จะรวบรวมรายชื่อยื่นคำร้อง ปปช. เพื่อถอดถอน กกต. - ด้านนิสิตเกษตรฯ สกลนครร่วมรณรงค์ #save38ล้านเสียง

5 เม.ย. 2562 ช่วงบ่ายวันนี้ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) กลุ่มนักกิจกรรมและนักศึกษาในนาม "แนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม" นำโดย จ่านิว – สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักกิจกรรม และธนวัฒน์ วงศ์ไชย นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อให้ถอดถอน กกต. โดยจ่านิวกล่าวว่ารวบรวมรายชื่อได้มากกว่า 7,200 รายชื่อแล้ว ส่วนการล่ารายชื่อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์  Change.org มีคนลงชื่อแล้วราว ๆ 850,000 คน

อย่างไรก็ตามในรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้กำหนดรายชื่อขั้นต่ำในการถอดถอนไว้ ดังนั้นทางกลุ่มจึงจะรวบรวมชื่อไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ถอดถอน กกต. ที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้โปร่งใสได้ พร้อมนำรายชื่อในเว็บไซต์ Change.org ไปยื่นเป็นหลักฐานประกอบด้วย ทั้งนี้เอกสารของกลุ่มนักศึกษา ยังไม่ได้รวมกับกลุ่มนักกิจกรรมอื่นที่รวบรวมรายชื่อเช่นกัน ทั้ง ฟอร์ด เส้นทางสีแดง และกลุ่มที่นำโดยศรีสุวรรณ จรรยา

เวลาประมาณ 17.00 น. สิรวิชญ์ได้แถลงข่าวหลังการล่ารายชื่อด้วยว่า ตามที่แนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อมาตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. และแถลงข่าวเมื่อ 30 มี.ค. โดยขยายการจัดกิจกรรมไปยังมหาวิทยาลัยและสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรม 2 ที่ คือในเว็บไซต์ Change.org แต่ในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายไปรับรองเพื่อนำการล่ารายชื่อนี้มาใช้เพื่อให้มีผลทางกฎหมาย จึงเพิ่มการล่ารายชื่อในแบบถอดถอนเพื่อยื่นเป็นคำร้องต่อ ปปช. โดยเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) ทั้งนี้ถ้า ปปช. รับคำร้องและส่งฟ้องศาลฎีกา และศาลฎีการับคำร้อง ขั้นตอนหลังากนี้ กกต.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

ธนวัฒน์ วงศ์ไชย นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำหรับมหาวิทยาลัยที่มีการจัดกิจกรรมรวบรวมรายชื่อได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย​ ธรรมศาสตร์​ ขอนแก่น แม่โจ้ บูรพา​ สงขลานครินทร์ พะเยา​ อุบลราชธานี​ มหาสารคาม นเรศวร เกษตรศาสตร์ ม.ราชภัฏสกลนคร ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม ม.ราชภัฏสวนดุสิต ม.ราชภัฏสวนสุนันทา ม.ราชภัฏเพชรบูรณ์ ม.ราชภัฏนครราชสีมา ศิลปากร วลัยลักษณ์​ ฯลฯ นอกจากนี้ อาจมีเพิ่มเติมเข้ามาอีกทางไปรษณีย์

ธนวัฒน์เปิดเผยด้วยว่ามีผู้บริหารหลายมหาวิทยาลัยพยายามขัดขวางไม่ให้นักศึกษาจัดกิจกรรมตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ โดยเหตุร้องเรียนที่เกิดขึ้นล่าสุดคือที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ที่มีอาจารย์ท่านหนึ่งโทรศัพท์ห้ามนักศึกษาจัดกิจกรรม ทำให้นักศึกษาออกไปตั้งโต๊ะนอกมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยคอยห้ามร้านถ่ายเอกสารรอบมหาวิทยาลัยถ่ายบริการเอกสารสำหรับถอดถอนรายชื่อให้นักศึกษา จึงขอประณามเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

อนึ่งในการแถลงข่าว ผู้รณรงค์กังวลว่าที่สำนักงานไปรษณีย์สามเสน จะมีการตรวจดูข้อมูลส่วนบุคคลว่ามีใครร่วมลงชื่อถอดถอนบ้าง โดยกลุ่มนักศึกษาจะไปขอให้เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์สามเสน หรือเจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องแถลงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ด้วย

นิสิตเกษตรฯ สกลนครร่วมรณรงค์ #save38ล้านเสียง

ขณะเดียวกันที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร จัดกิจกรรม #save38ล้านเสียง โดยระบุว่าต้องการให้ผู้มีอำนาจเคารพสิทธิ์ เคารพเสียงของประชาชนกว่า 38 ล้านคนที่ออกไปเลือกตั้ง และเรียกร้องให้เกิดความโปร่งใสในการเลือกตั้งที่ผ่านมา

ทั้งนี้ทางกลุ่มได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลัง กกต. จัดการเลือกตั้งส่อเค้าไปในทางไม่บริสุทธิ์ รวมทั้งกรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ออกมาแถลงซึ่งส่อเค้าที่จะทำให้เกิดความรุนแรงหรือความแตกแยกในสังคม

นอกจากนี้ในท้ายแถลงการณ์ยังมีข้อเรียกร้องต่อ กกต. ให้เร่งรัดประกาศจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อให้แล้วเสร็จตามสูตรคำนวณในกฎหมาย เพื่อให้ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเต็มจำนวน ให้ กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. เพ่อให้มีการเปิดประชุมสภา และนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด รวมทั้งเรียกร้องให้ ผบ.สส. ผบ.ทบ. และผู้นำเหล่าทัพยุติการแสดงความเห็นทางการเมือง

'สุรินทร์-อุบล-ยโส-ชัยภูมิ' ร่วม Save38 ล้านเสียง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.30 น. เครือข่ายประชาชนในชื่อเครือข่าย Save38 ล้านเสียง จังหวัดสุรินทร์ นำโดย พัตร์วิไล สหุนาฬุ ผู้ประสานงานเครือข่าย ได้จัดกิจกรรม อ่านจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของประชาชนกับสถานการณ์ผลการดำเนินงานจัดการเลือกตั้งของ กกต.และสถานการณ์ทางการเมือง 

จากนั้น ทางเครือข่ายได้ยื่นหนังสือถึง ประธาน กกต.เรื่องขอให้เปิดเผยผลคะแนนการเลือกตั้งทุกหน่วยแและชี้แจงวิธีนับคำนวณที่นั่ง ส.ส.พึงมี โดยมี นิยม เพ็ชรโกมล ผอ.กกต.จังหวัดสุรินทร์ ได้มารับหนังสือ นิยม ได้ชี้แจงว่า “หนังสือที่ทางเครือข่ายได้นำส่งมายังทางเรา ซึ่งเป็นข้อเสนอดังกล่าวนี้ อยู่เหนืออำนาจหน้าที่การตัดสินใจของ กกต.จังหวัด ทั้งนี้เราจะทำหนังสือส่งเรื่องไปยังกกต.สำนักงานใหญ่ให้พิจารณา ภายในวันอังคารนี้”

เวลาประมาณ 17.00 ทางเครือข่ายได้แยกย้ายเดินทางกลับ สำหรับบรรยากาศการทำกิจกรรมได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างดี และได้มีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบจากหลายหน่วยงานสนใจเข้าร่วมกิจกรรมด้วย

 

ภาพอ่านแถลงการณ์ Save38 ล้านเสียง ที่ จ.อุบลราชธานี ยโสธรและชัยภูมิ

จดหมายเปิดผนึก  ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.

จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2562 และวันที่ 24 มีนาคม 2562 ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เป็นตามเจตนารมณ์ของประชาชน 38 ล้านเสียงที่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตยโดยกระบวนเลือกตั้งของ กกต. ได้เกิดปัญหา เช่น การส่งบัตรผิด การไม่นับคะแนนบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร การประกาศผลที่ล่าช้า หรือแม้กระทั่งการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อที่ยังไม่มีสูตรการนับที่ชัดเจนจึงนำมาซึ่งกระแสการประท้วง กกต. อย่างแพร่หลาย จนทำให้ ผบ.เหล่าทัพ ได้ออกมาแสดงท่าทีให้ความคุ้มครอง กกต. หรือแม้กระทั่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมก็ยังออกมายืนยันว่า กกต. ทำถูกแล้วก็ตามแต่กระแสการถอดถอน กกต. ก็ยังขยายแพร่หลายกว่าเดิมและ กกต. ก็ยังให้คำตอบกับสังคมไทยและนานาอารยประเทศไม่ได้

เหตุการณ์กลับแย่ลงไปกว่าเดิม กล่าวคือ การออกมาแถลงของ ผบ.ทบ. ว่ากลุ่มคนเหล่านี้สร้างปัญหาไม่อยากเห็นประเทศสงบ ก่อความวุ่นวาย และยังเลยไปถึงการกล่าวหาบิดเบือนโดยนำสถาบันมาเกี่ยวข้องยัดเยียดคดีความทำให้เกิดเหตุการณ์ส่อเค้าที่จะเกิดความรุนแรง สังคมแตกแยก สุดท้ายอาจนำมาสู่การล้มการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำลายเจตนารมณ์ประชาธิปไตยของผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 38 ล้านเสียงทั่วประเทศ ดังนั้นถ้านายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเจตนารมณ์ประชาธิปไตยไม่ต้องการสืบทอดอำนาจจริงตามที่ได้พูดไว้กับประชาชนชาวไทย ในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ต้องออกมากำหราบทหารนอกแถวที่ออกมาแสดงอำนาจที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง ข่มขู่ประชาชน คุกคามนักการเมือง ที่ต้องการเห็นการเลือกตั้งเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม ให้ กกต. ทำหน้าที่ตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ เครือข่าย Save 38 ล้านเสียง จึงเรียกร้องดังนี้

1. ให้ กกต. เร่งรัด การประกาศผลคะแนนรายหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศให้ประชาชนรับทราบ และประกาศจำนวน ส.ส. ที่พึงมีของแต่ละพรรคการเมืองให้แล้วเสร็จตามสูตรคำนวณในกฎหมายโดยเคร่งคัด เพื่อให้ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเต็มจำนวนอย่างถูกต้อง

2. ให้มีคำสั่งให้ ผบ. สูงสุด ผบ.ทบ. ผบ.ทอ. ผบ.ทร. ผบ.ตร. ยุติการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอันนำไปสู่ความขัดแย้ง แตกแยกแบ่งฝ่ายให้ร้ายป้ายสี ปลุกระดมด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ข่มขู่ คุกคามประชาชน และพรรคการเมือง 

3. ให้ยุติการให้ร้ายป้ายสี ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยการตั้งข้อหา ออกหมายเรียก ข่มขู่ คุกคาม อันจะนำไปสู่การสร้างความสับสนในหมู่ประชาชนต่อสถานการณ์ทางการเมือง

4. ให้ กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (รัฐพิธี) เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลผ่านสภาผู้แทนราษฎร ต่อไป

ทั้งนี้หากข้อเรียกร้องของเครือข่าย Save 38 ล้านเสียง ไม่ได้รับการตอบสนอง ทางเครือข่ายจะมีมาตรการในลำดับต่อไป 

เจตนารมณ์ประชาธิปไตยของประชาชนต้องศักดิ์สิทธิ์ 

เครือข่าย Save 38 ล้านเสียง

วันที่ 5 เมษายน 2562

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net