พรรคไทยรักษาชาติปราศรัยใหญ่หน้าศาลาว่าการ กทม. 'ระเบียบรัตน์' รุดให้กำลังใจแกนนำพรรค ด้าน 'จาตุรนต์ ฉายแสง' ไม่พูดเรื่องคดียุบพรรค โดยเน้นปราศรัยเรื่องนโยบายและแก้เศรษฐกิจ พร้อมย้ำ ทษช. จะยืนหยัดร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตยสร้างรัฐบาลประชาธิปไตยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สร้างประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย

ด้านณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ชี้รัฐบาลตั้ง พล.อ.ประวิตร เป็นประธานคัดเลือก ส.ว. นับว่าเลือกคนที่เป็นกลางที่สุดในแผ่นดิน คืออยู่กลางใจ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมย้ำ ทษช. ตั้งขึ้นมาเพื่อพาคนกลับบ้าน คือพา พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร และบรรดา คสช. กลับไปเลี้ยงหลานที่บ้านให้ได้

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ตั้งแต่เวลา 17.30 น. พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จัดปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ กทม. ซึ่งพรรคส่งผู้สมัคร ส.ส. 8 เขต จากทั้งหมด 30 เขต โดยกำหนดหัวข้อปราศรัยว่า "ร่วมกำหนดอนาคตประเทศไทย" นำทีมโดยจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง  รวมถึงคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งวิม รุ่งวัฒนจินดา, คณาพจน์ โจมฤทธิ์ นอกจากนี้ยังมีแกนนำพรรคที่เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่ออาทิ ขัตติยา สวัสดิผล และอุเมสนัส ปานเดย์ รวมทั้งแกนนำ นปช. ที่เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่ออย่าง นพ.เหวง โตจิราการ และวีระกานต์ มุสิกพงศ์ มาร่วมฟังการปราศรัยด้วย

ทั้งนี้แม้ว่า ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคจะไม่ได้มาร่วมฟังปราศรัย แต่ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช มารดาของ ร.ท.ปรีชาพล ก็เดินทางมาให้กำลังใจแกนนำด้วย

ทั้งนี้นับเป็นความเคลื่อนไหวใหญ่ของพรรคไทยรักษาชาติ ก่อนศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรค ฐานเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92 (2) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ในวันที่ 7 มีนาคมนี้ โดยก่อนเริ่มเวทีปราศรัยจาตุรนต์ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระบุว่าจะเน้นนโยบาย และหยุดการสืบทอดอำนาจ คสช. จะไม่ปราศรัยเกี่ยวกับคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ หากมีใครถามมาก็จะตอบเพียงว่า ไม่มีความเห็น

ในเวลา 19.30 น.จาตุรนต์ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ ปราศรัยตอนหนึ่งถึงการสำรวจความนิยมหรือโพลว่า การเลือกตั้งระยะหลังๆ โพลสำนักต่างๆ มักจะทายผิดหมดว่ารัฐบาลจะได้เป็นรัฐบาลต่อ แต่ที่แพ้ไม่เป็นท่าก็มี ขณะที่ 2-3 วันนี้ โพลหลายสำนักก็บอกว่าพรรคไทยรักษาชาติจะไม่ได้สักเขต ใน กทม. แต่ตัวเขากลับมั่นใจว่าพรรคไทยรักษาชาติจะชนะทั้ง 8 เขต

เราจะถือโอกาสนี้ปราศรัยกับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศที่ 5 ปีมานี้ อยู่ในสภาพที่เสนอความเห็นอะไรก็ไม่ได้ เลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน อบจ. อบต. ก็ไม่ได้ กำหนดอะไรไม่ได้สักอย่าง วันนี้ปราศรัย กทม. เพื่อสื่อสารทั่วประเทศให้มาร่วมกันกำหนดอนาคตของประเทศไทย หลังกำหนดอะไรไม่ได้มา 5 ปี

เขากล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาไปพบประชาชนและฟังปัญหามาเยอะทั้งใน กทม. และ ต่างจังหวัด พบว่า ชาวสวนยางภาคใต้ก็บอกราคายางตกต่ำนานเหลือเกิน ชาวประมงทำมาหากินไม่ได้ ชาวนาก่อนหน้านี้ซื้อรถ ทีวี มีเงินใช้ มีความสุข แต่ 5 ปีมานี้ ชาวนาขายทรัพย์สิน ที่ดิน เป็นหนี้เป็นสินเต็มไปหมด พี่น้องใน กทม. ในเมืองก็เดือดร้อนด้วยกันทั้งนั้น เศรษฐกิจไทยโตช้าสุดในอาเซียน ยกเว้นบรูไน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อเศรษฐกิจโตช้่า รายได้พี่น้องก็น้อย สมัยผมอยู่ไทยรักไทยเศรษฐกิจโตดี แต่ตอนนี้เดือนล่าสุดส่งออกติดลบแล้ว ท่องเที่ยวทำท่าจะดี เมื่อประสบเหตุเรือล่มที่ภูเก็ต รองนายกฯ กลับออกมาพูดทีเดียวนักท่องเที่ยวหายไปเป็นล้าน ไปขอโทษเขาดีๆ ก็ไม่มี กลับคิดอะไรไม่ออกก็เลี้ยงข้าวเหนียวมะม่วง

ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ จาตุรนต์กล่าวว่าเราเป็นอันดับ 2 ของโลก และปีล่าสุดนี้ความเหลื่อมล้ำเราแย่เป็นอันดับหนึ่งของทั้งโลก

เขาเสนอว่าพรรคไทยรักษาชาติ มีมาตรการพลิกเศรษฐกิจ 8 ข้อ รวยกระจุกจนกระจาย เราจะเพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เสริมให้เข้าถึงแหล่งทุน โอกาสให้มีธุรกิจใหม่ๆ ดูแลเกษตรกรครบวงจร ต่อยอดนโยไทยรักไทย 30 บาท โอท็อป SMEs กองทุนหมู่บ้านให้ดีขึ้น ฯลฯ

ส่วนโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค นั้น จาตุรนต์ กล่าวว่า เห็นแต่นายกรัฐมนตรีบ่นว่าทำแบบนี้จะเอาเงินจากไหน ส่งสัญญาณให้คนเกี่ยวข้องบอกว่าไม่อยากทำ จะไม่ให้แย่อย่างไร เพราะงบประมาณไปลงกระทรวงกลาโหม งบประมาณการศึกษาลดลงทุกปี พอจะบอกให้ลดงบฯกลาโหม กลับให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน ดังนั้นหากพรรคไทยรักษาชาติเป็นรัฐบาลแล้ว งบประมาณ ต้องให้ รมว.กลาโหม เซ็นเข้าคณะรัฐมนตรี ถ้าไม่ลดงบประมาณ คณะรัฐมนตรีก็ไม่เซ็นรับรอง แต่ถ้า ผบ.ทบ. มีปัญหา รมว.กลาโหมก็จะสั่งสอบ ผบ.ทบ. ประเทศอื่นก็เป็นแบบนี้ เมื่อพูดถึงเรื่องเพิ่มลดงบประมาณ เขาไม่มีข้าราชการประจำบอกว่าให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน

ว่าเราจะเป็นตัวชี้ขาดพลังประชาธิปไตย ชี้ขาดชัยชนะฝ่ายประชาธิปไตย ใน 2-3 เดือนมานี้ ในช่วงที่สามารถพบกับประชาชนได้ พูดจากกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ผ่านสื่อต่างๆ และพูดจากกับประชาชนตรงๆ แบบนี้ เราพบว่าพลังที่สนับสนุนพรรคไทยรักษาชาติ พลังที่สนับสนุนประชาธิปไตยนั้นเติบโตมากขึ้นทุกที พลังนี้ไม่ไปไหน จะอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตย พลังนี้จะร่วมกันหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ พลังฝ่ายประชาธิปไตย  พลังที่ต้องการรัฐบาลประชาธิปไตยที่ร่วมกับไทยรักษาชาติ จะยืนหยัดร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตยทั้งประเทศ จะร่วมกันสร้างรัฐบาลประชาธิปไตยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สร้างประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย จาตุรนต์กล่าวจบการปราศรัยพร้อมเสียงปรบมือของผู้สนับสนุน

ด้านณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวถึงกรณี กกต.อนุญาตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ช่วยพรรคพลังประชารัฐหาเสียงได้ ว่ายิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาช่วยหาเสียง ก็จะยิ่งเป็นงานง่ายของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยในการหาเสียง โดยพรรคการเมืองต่างๆ ย่อมวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ได้หน่วยข่าวต้องยุติการประกบติดพรรคการเมืองต่างๆ และเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นบุคคลสาธารณะ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ก็เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ติดตาม พล.อ.ประยุทธ์อย่างใกล้ชิด เพราะผู้ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐไปนั่งในทำเนียบรัฐบาลจะเป็นปัญหา และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นสะท้อนความเหลวแหลกประเทศ เมื่ออำนาจเผด็จการต้องการสืบทอดอำนาจ และคำอธิบายของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับประเด็นการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้เรียกว่าหลักกฎหมาย หรืออภินิหารทางกฎหมาย แต่ถือเป็นการเล่นขี้ต่อหน้าประชาชนและวิษณุก็กำลังจะส่งต่อให้ กกต. ไปเล่นบ้าง

ณัฐวุฒิยังวิจารณ์การที่รัฐบาลตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ว่า เป็นการเลือกคนที่เป็นกลางที่สุดในแผ่นดินมาทำหน้าที่ หากลางกว่านี้ไม่ได้แล้ว อันนี้โคตรกลางเลยคืออยู่กลางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ณัฐวุฒิยังตอบโต้ที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ตั้งมาเพื่อพาใครกลับบ้าน โดยณัฐวุฒิกล่าวติดตลกว่า ขอให้อภิสิทธิ์ฟังให้ดี วันนี้เขาจะยอมรับอย่างเปิดเผยหน้าชื่นตาบานว่าไทยรักษาชาติเป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเอาคนกลับบ้าน คนที่จะเอากลับบ้านคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ คสช. เราจะส่งคนพวกนี้กลับบ้านไปเลี้ยงหลาน เราจะส่งคนชื่ออภิสิทธิ์กลับบ้านไปเลี้ยงหลานด้วย ซึ่งทุกคนช่วยกันได้ทำให้สำเร็จได้ โดยหลังณัฐวุฒิได้เรียกเสียงปรบมือเฮจากผู้สนับสนุน

ในช่วงท้ายเขากล่าวว่า 24 มีนาคมนี้จะไม่ใช่การเข้าคูหาเลือกพรรคการเมืองเท่านั้น แต่คือการทำลายพิธีกรรมรวมร่างปีศาจสืบทอดอำนาจ แม้กติกาฝ่ายประชาธิปไตยเสียเปรียบทุกประตู แต่พวกผมขอยืนสู้ ประชาชนก็ยืนสู้ เพราะการต่อสู้กับเผด็จการโดยสันติ ไม่มีความรุนแรงและการสูญเสียคือสู้ผ่านการเลือกตั้ง เที่ยวนี้จะชนะเผด็จการได้ต้องมีปาฏิหาริย์ แต่เขาเชื่อในปาฏิหาริย์ เพราะไม่มีอะไรที่อำนาจอธิปไตยของประชาชนสร้างปาฏิหาริย์ไม่ได้ ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ในระบอบประชาธิปไตย ด้วยอำนาจอธิปไตยของประชาชน ประกาศให้คนไทยทั้งรู้ว่าเราต้องการพาประเทศไทยไปข้างหน้า เราไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจเผด็จการอีกต่อไป

ณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่าต่อจากนี้จะลงพบปะพี่น้องประชาชน ทำเหมือนทุกพรรคการเมือง ทำตามกรอบกฎหมาย โดยไม่มีเรื่องอื่นใด และขอให้พี่น้องสบายใจ พร้อมทั้งประกาศเชิญชวนประชาชนเลือกพรรคไทยรักษาชาติ เขตไหนไม่มีพรรคไทยรักษาชาติก็ให้เลือกพรรคที่หน้าตาคล้ายๆ กัน ทั้งนี้พรรคไทยรักษาชาติปราศรัยถึงเวลาประมาณ 21.10 น. จึงเลิกการปราศรัย