Skip to main content
sharethis

ศาลทหารอนุญาตให้ปล่อยตัวชัวคราวอีก 1 จำเลยคดีปาระเบิดศาลอาญา หลังถูกขังระหว่างพิจารณาคดีราว 2 ปี 2 เดือน โดยครอบครัวยื่นหลักทรัพย์ที่ดินที่ประเมินราคาได้ 6 ล้านบาท ขณะที่กระบวนการสืบพยานโจทก์ทั้ง 7 ปากที่ผ่านมา ไม่มีพยานคนใดยันยืนได้ว่า สรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา

สรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน เปิดบาดแผลที่ได้รับระหว่างถูกควบคุมตัวโดยทหาร แฟ้มภาพประชาไท

หากยังคงจำกันได้ชื่อ ‘สรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน’ อาจจะยังเป็นชื่อที่ถูกจดจำสำหรับผู้ที่ตระหนักในประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในช่วงเวลาหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ชื่อของเขาปรากฎอยู่ในหน้าสื่อเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2558 โดยในวันนั้น พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และมียศ พล.ต.อ.) ได้แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีการปาระเบิดเข้าไปที่ศาลอาญารัชดาเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ปีเดียวกันว่า ได้มีการออกหมายจับ ผู้ต้องหาไปทั้งหมด 9 ราย ซึ่งเชื่อว่ามีพฤติการณ์ร่วมกันวางแผนเพื่อก่อเหตุวางระเบิดที่ศาลอาญา ควบคุมตัวไว้แล้ว 5 ราย ก่อนที่จะมีการขยายผลการจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มรวมทั้งสิ้น 16 คน โดยแยกเป็นชาย 11 คน และหญิง 5 คน โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อกล่าวหา

สรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน เป็นหนึ่งรายชื่อผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในวันนั้น แต่เขาได้เคยให้ข้อมูลกับประชาไทว่า เขาถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 9 มี.ค. 2558 และได้ถูกส่งตัวไปยังกรมสารวัตรทหารเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันเดียวกัน และจำได้รับทราบว่าเหตุแห่งการจับกุมเกิดจากการถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับคดีปาระเบิดศาลอาญา เขาเล่าด้วยว่า โดนใส่กุญแจมือไพล่หลัง ใช้ผ้าดำปิดตาพร้อมกับเอาถุงดำคลุมหัว และถูกบังคับให้สารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เขาอยู่ในความควบคุมของทหาร 7 วัน ก่อนเจ้าหน้าที่นำตัวไปฝากขังที่ศาลทหารและนำตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 16 มี.ค. 2558

ในจำนวนผู้ต้องหาทั้งหมด 9 ราย มี 4 รายที่ได้เปิดเผยข้อมูลกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า ถูกซ้อมทรมานขณะที่ถูกควบคุมตัวโดยทหารภายใต้อำนาจของกฎอัยการศึก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ต้องหา 4 รายที่ถูกจับกุมในคดีระเบิดศาลอาญา โดยได้รับแจ้งว่าถูกซ้อมทรมานจากการชกต่อย กระทืบบริเวณศีรษะ ทรวงอก หลัง และถูกข่มขู่ว่าทำร้ายเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล แถลงการณ์ระบุว่ามีผู้ต้องหาบางรายถูกช็อตด้วยไฟฟ้า โดยยังคงปรากฏร่องรอยบริเวณผิวหนัง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 ถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก ระหว่างวันที่ 9-15 มีนาคมที่ผ่านมา โดยสรรเสริญระบุว่า เขาโดนไฟฟ้าช็อตที่ต้นขาถึง 30-40 ครั้ง และปรากฏร่องรอยดังกล่าวบริเวณผิวหนัง (อ่าน: เบื้องหลัง ‘สรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน’ ไม่รับสารภาพ คดีระเบิดหน้าศาล) (อ่าน: ศูนย์ทนายสิทธิฯ เผยผู้ต้องหาคดีระเบิดศาลถูกซ้อม จี้ คสช.-ทหารหยุดใช้กฎอัยการศึกจับคน)

สำหรับคดีดังกล่าว ได้มีการขยายผลจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มรวมทั้งสิ้น 16 คน โดยแยกเป็นชาย 11 คน และหญิง 5 คน โดยทั้งหมดถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำระหว่างการพิจารณาคดี อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ศาลทหารกรุงเทพฯ ได้มีการให้ประกันตัวไปแล้ว 2 คน ได้แก่ นางธัชพรรณ ปกครอง อายุ 19 ปี ภรรยาของนายยุทธนา เย็นภิญโญ(หนึ่งในจำเลย) ซึ่งตั้งท้อง 7 เดือน และเป็นโรคธาลัสซีเมีย ในขณะนั้นได้รับการประกันตัวเป็นรายแรก โดยใช้หลักทรัพย์โฉนดที่ดินมูลค่า 1,008,000 บาท (อ่าน: ให้ประกันสาวท้อง 7 เดือน คดีปาระเบิดศาลอาญา) และ นายสมชัย อภินันท์ถาวร อายุ 53 ปี ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้โอนเงิน ได้ประกันเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2558 โดยใช้เงินสดจำนวน 800,000บาท (อ่าน: ได้ประกันรายที่ 2 ‘สมชัย’ ผู้ถูกกล่าวหารับจ้างโอนเงินคดีปาระเบิดศาลอาญา)

สรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน ขณะถูกควบคุมตัว แฟ้มภาพประชาไท

ล่าสุดวันที่ 18 พ.ค. 2560 เสาวลักษณ์ โพธิงาม ทนายความของ นายสรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน ได้แจ้งว่า ศาลทหารกรุงเทพ ได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายสรรเสริญ จำเลยคดีปาระเบิดหน้าศาลอาญารัชดา โดยจะมีการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพในช่วงเย็นวันนี้

โดยทนายความได้ยื่นคำร้องต่อศาลว่า จากกระบวนการพิจารณาคดีที่ผ่านมากว่า 2 ปี ได้มีการสืบพยานโจทก์ไปแล้วทั้งสิ้น 7 ปาก ซึ่งพยานโจทก์ทั้ง 7 ปากที่สืบมาไม่มีพยานคนใดเลยที่ยืนยันว่า สรรเสริญได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าว โดยในการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวดังกล่าว ทางครอบครัวของนายสรรเสริญได้ยื่นหลักทรัพย์ในการประกันตัวเป็นที่ดินประเมินราคาเป็นเงินสดกว่า 6 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เมื่อสรรเสริญ ได้รับการปล่อยตัวแล้ว คดีดังกล่าวยังมีผู้ต้องขังที่ถูกขังอยู่ในเรือนทั้งสิ้น 13 คน เป็นชาย 9 คน และหญิง 4 คน ซึ่งกระบวนการพิจารณาคดีในขณะนี้ได้ทำการสืบพยานโจทก์ไปแล้ว 7 ปาก โดยที่คดียังอยู่ในชั้นสอบพยานโจทก์ ซึ่งมีพยานโจทก์รวมอยู่ในบัญชีทั้งสิ้น 87 ปาก

สำหรับจำเลยที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างการพิจารณาคดีทั้ง 13 ราย ประกอบด้วย นายมหาหิน ขุนทอง , นายยุทธนา เย็นภิญโญ, นางสาวณัฎฐพัชร์ อ่อนมิ่ง, นายชาญวิทย์ จริยานุกูล, นายวิชัย อยู่สุข, นางสุภาพร มิตรอารักษ์, นางวาสนา บุษดี, ณัฏฐธิดา มีวังปลา, นายนรภัทร เหลือผล, นายเจษฎาพงษ์ วัฒนพร, นายวสุ เอี่ยมลออและนายสุรพล เอี่ยมสุวรรณ

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net