Skip to main content
sharethis

14 ก.ค. 2559 เวลา 9.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) นำโดย อนุสรณ์ อุณโณ เข้าหารือกับ สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ในประเด็นเรื่องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ และประชามติที่เสรีและเป็นธรรม

อนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา กล่าวว่า ขณะที่รัฐธรรมนูญนั้นมีความสำคัญในฐานะกติกาที่กำหนดอนาคตของสังคมไทย และเนื้อหารัฐธรรมนูญมีความสลับซับซ้อน จึงจำเป็นต้องมีการถกเถียงแลกเปลี่ยนกัน เพื่อให้การประชามติบรรลุเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม การกระทำเช่นว่าทำได้จำกัด เนื่องจาก หนึ่ง พ.ร.บ.ประชามติถูกตีความบังคับใช้อย่างไม่สม่ำเสมอและลักลั่น บางกรณี กกต. บอกว่าไม่ผิด เช่น กรณีที่นักศึกษา ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน แต่บางกรณีกลับถูกมองว่าผิด เช่น กรณีที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นอกจากนี้ยังไม่บังคับใช้กับเจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มทางสังคมและนักการเมืองที่รณรงค์ให้รับร่าง ส่งผลให้ขาดความเข้าใจร่วมกันว่า ที่สุดแล้วการรณรงค์ทำได้แค่ไหน

อนุสรณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สถิติของคนที่ถูกจับกุมดำเนินคดีภายใต้ พ.ร.บ.ประชามติ มี 113 คดี โดย 94 คดีเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง หัวหน้า คสช.ที่ 3/2258 ทำให้เกิดคำถามว่า การรณรงค์แบบไหนที่ทำได้ กกต.อาจต้องชี้ว่ากลุ่มที่อยากรณรงค์ ชี้แจงต้องทำอย่างไร

เครือข่ายฯ เรียกร้องต่อ กกต.ให้ส่งเสริมให้ทุกฝ่ายรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญอย่างเสรี สนับสนุนให้แต่ละฝ่ายแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญในพื้นที่สาธารณะอย่างเปิดเผย และปกป้องบุคคล กลุ่ม และองค์กรที่รณรงค์เผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญจากการบังคับใช้กฎหมายที่บิดเบี้ยว

ด้าน สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวถึงกรณีที่บ้านโป่งว่า ได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โทรมาสอบถามในวันดังกล่าวแล้วว่าเอกสารความเห็นแย้งไม่ผิด ส่วนเอกสารแผ่นพับ NDM (7 เหตุผลไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ) นั้น เขามองว่าผิด เพราะมีหลายข้อความเท็จ อย่างไรก็ตาม จะหารือกับ กรธ.บ่ายนี้ ถึงเอกสารต่างๆ โดยเอกสารที่จะหารือ เช่น เอกสารความเห็นแย้ง ใบปลิว NDM สติ๊กเกอร์ NDM จดหมายกรณีลำปาง โดยเมื่อได้ข้อสรุปจะทำหนังสือแจ้งความเห็นต่อหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี กกต.ในพื้นที่ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ กกต.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวเลย ไม่ว่าชี้หรือเป็นพยาน

ส่วนกรณีที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่รัฐรณรงค์ให้รับนั้น สมชัยยืนยันว่าทำไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่รัฐต้องมีความเป็นกลาง หากพบเห็นการกระทำให้แจ้ง กกต. พร้อมชี้ด้วยว่า แม้ในมาตรา 62 พ.ร.บ.ประชามติ จะเปิดช่องให้หน่วยงานรัฐสามารถหายานพาหนะเพื่อพาคนไปใช้สิทธิได้ แต่ กกต.ได้กำหนดแนวทางให้การอำนวยความสะดวกทำได้เฉพาะในสองกรณี คือ ในพื้นที่ยากลำบากในการเดินทางไปใช้สิทธิ และคนพิการหรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางได้ด้วยตนเองเท่านั้น โดยต้องขออนุมัติจาก กกต.เขตด้วย จึงจะทำได้

สำหรับกรณีสถิติคดี สมชัยตอบว่า อยากให้แยกข้อเท็จจริง เพราะมีเพียง 19 คดีเท่านั้นที่เกี่ยวกับกฎหมายประชามติ อีก 94 คดีเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่งผิดตามประกาศ คสช.เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมือง ไม่ว่าจะเกิดก่อน ขณะ หรือหลังประชามติก็ถูกจับทั้งนั้น พร้อมชี้ว่า กกต.ดูแลในขอบเขตของตัวเองคือ พ.ร.บ.ประชามติ ไม่มีสิทธิไปยุ่งกับส่วนอื่น

สมชัยกล่าวถึงกรณีที่เครือข่ายฯ เสนอให้เปิดพื้นที่ถกเถียงนั้น นอกจากรายการ 7 สิงหา ประชามติร่วมใจ ซึ่งพยายามบาลานซ์ให้ฝ่ายต่างๆ มาแสดงความเห็นแล้ว ขณะนี้ได้ทาบทามสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งเพื่อขอช่วงเวลาทำรายการ ความยาว 50 นาที 10 ตอน เกี่ยวกับเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ อาทิ กรณี 30 บาทรักษาทุกโรค เรียนฟรี 12 ปี เบี้ยสูงอายุ ทรัพยากรธรรมชาติ สนธิสัญญาระหว่างประเทศ โดยจะเปิดพื้นที่ให้กับกลุ่มนักวิชาการด้วย 40%  ส่วนที่เหลือจะเชิญกลุ่มในสังคมอื่นๆ เข้าร่วม

ทั้งนี้ เอกสารรณรงค์ของกลุ่ม NDM ที่สมชัยระบุว่าผิดนั้น เป็นแผ่นพับที่กางออกมาจะเป็นกระดาษขนาดใหญ่ ด้านหน้าแผ่นพับเขียนว่า 7 เหตุผล ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 7 สิงหา 59 ประชามติเพื่ออนาคต และมีข้อความอีกว่า “รัฐธรรมนูญเป็นรากฐานอันสำคัญที่นำประชาชนไปสู่อนาคตที่ดีกว่า จึงควรถูกเขียนเพื่อประชาชนทั้งในวันนี้และวันหน้า ไม่ใช่เพื่อสนองความต้องการของคนเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่วันหนึ่งก็จะต้องตายจากไป ซึ่งที่จะเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชนได้นั้นคงจะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากประชาชนเอง” ข้างใต้แผ่นพับด้านหน้า มีสัญลักษณ์วงกลมสีม่วงอันใหญ่ เขียนว่า “VOTE NO ไม่รับ กับอนาคตที่ไม่ได้เลือก” ขณะที่เมื่อพลิกไปอีกด้าน จะเป็นรูปการ์ตูนประกอบข้อความ ตรงกลางเป็นภาพใหญ่ รูปคล้ายทหารกำลังกินพานรัฐธรรมนูญ และมีรูปภาพเล็กอื่นๆ ประกอบข้อความ ซึ่งมีดังนี้ เลือกคนที่ชอบ แต่ได้พรรคที่เกลียด, ส.ว.ทหารตั้งโดยทหาร, นายกฯ คนนอก, สถาปนาข้าราชการเป็นใหญ่, คสช.ยังเป็นใหญ่ในแผ่นดิน, องค์กรแต่งตั้งอยู่เหนือประชาชน, ทำหลายหลักประกันสิทธิเสรีภาพ

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net