นายจำรัส ศรีประสม ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคใต้ เปิดเผยว่า ช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม 2548 สำนักงานส่งเสริมการลงทุนได้ให้การสนับสนุนการลงทุนในภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด 13 โครงการ เงินลงทุน 5,244 ล้านบาท มีการจ้างงานคนไทย 1,907 คน เมื่อเปรียบเทียบจำนวนโครงการที่ได้รับการสนับสนุนในช่วงเดียวกันของปี 2547 ปรากฎว่าจำนวนโครงการลดลง 7 โครงการคิดเป็นร้อยละ 35 แต่จำนวนเงินลงทุนเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 19

นายจำรัส เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดในไตรมาสแรกนี้ เป็นของบริษัท ภูเก็ตแคปปิตอล รีสอร์ท จำกัด ซึ่งลงทุนสร้างรีสอร์ทระดับ 5 ดาว ขนาด 150 ห้อง ที่จังหวัดภูเก็ต เงินลงทุน 3,822 ล้านบาท มีนักลงทุนต่างชาติจากเคย์แมนเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด รองลงมาเป็นการลงทุนของนายเพิ่มเกียรติ บุญอำนวย ผลิตน้ำมันปาล์มดิบ เงินลงทุน 436 ล้านบาท ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายจำรัส กล่าวอีกว่า อุตสาหกรรมเกี่ยวกับเกษตรกรรมและผลผลิตทางการเกษตร ยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่โดดเด่นของภาคใต้ มีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 8 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 61.5 เช่น การผลิตน้ำมันปาล์มดิบ การผลิตน้ำยางข้น การผลิตยางแท่ง การผลิตถุงมือยางธรรมชาติ การบริการแช่แข็ง และการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในอุตสาหกรรมเบา 1 โครงการ คือ ผลิตชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ กระดาษ พลาสติก กิจการบริการและสาธารณูปโภค

"จังหวัดสงขลา ยังคงเป็นจังหวัดที่มีจำนวนโครงการลงทุนมากที่สุด 5 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 38.46 ล้านบาท ได้แก่บริการแช่แข็ง การผลิตชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ การผลิตถุงมือยางธรรมชาติ การผลิตแกนพลาสติก และการผลิตยางแท่ง รองลงมาเป็นจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีทั้งหมด 3 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 23 เงินลงทุน 737 ล้านบาท และจังหวัดภูเก็ตมี 2 โครงการ เงินลงทุน 3,824 ล้านบาท" นายจำรัส กล่าว

นายจำรัส กล่าวว่า สำหรับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนและขอรับการลงทุนน้อยมาก จากสถิติได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในไตรมาสแรก มีเพียงจังหวัดยะลา โดยนักลงทุนขอรับส่งเสริมการลงทุนเพียง 1 ราย คือ บริษัท ยูนิเท็กซ์ รับเบอร์ จำกัด ผลิตน้ำยางข้น เงินลงทุน 90 ล้านบาท