Skip to main content
sharethis
  • ‘แพทองธาร’ Kick Off ‘30 บาทรักษาทุกที่’ เชื่อนโยบายที่ดี เปลี่ยนชีวิตประชาชนได้ ขอบคุณ ‘อดีตนายกฯ ทักษิณ - หมอสงวน – หมอสุรพงษ์’ ร่วมผลักดัน 30 บาทรักษาทุกโรค มั่นใจ ‘รัฐบาลเศรษฐา’ สานต่อนโยบายยกระดับชีวิตคนไทย 
  • เปิดนำร่อง 4 จังหวัด 30 บาทโปร พร้อมขั้นตอนใช้บริการ ระบุมี.ค.ขยายเพิ่ม 8 จังหวัด

 

7 ม.ค. 2567 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (7 ม.ค.) แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ร่วมพิธีเปิดกิจกรรม Kick Off โครงการ ‘บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่’ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการดำเนินนโยบาย ‘30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว’ อย่างเป็นทางการครั้งแรกที่จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมกับอีก 3 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพร่ เพชรบุรี และนราธิวาส ณ ลานสาเกตนคร อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง และนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและ สส.น่าน พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข , สส.พรรคเพื่อไทยและพี่น้องประชาชน 10,101 คนเข้าร่วมKick Off โครงการนี้  

แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้จะเป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เพราะระบบสาธารณสุขไทยได้รับการยกระดับให้ทันสมัย ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาจัดการข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทำให้ระบบสาธารณสุขไทยดียิ่งขึ้น และพี่น้องประชาชนจะได้รับบริการที่ดีมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเข้าถึงง่ายมากขึ้น ซึ่งนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค มีมากว่า 22 ปีแล้วโดยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่นำโดยอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ และถึงเวลาแล้วที่เราจะพัฒนานโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ให้เป็น ‘30 บาทรักษาทุกที่’ สร้างระบบสาธารณสุขของไทยให้ดียิ่งขึ้น มีบริการที่ดี ทั่วถึง รวดเร็วและทันสมัยมากยิ่งขึ้น 

แพทองธาร กล่าวว่า ในอดีตรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ภายใต้การนำของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เริ่มต้นโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคที่จังหวัดนำร่อง ภายหลังจัดตั้งรัฐบาลได้เพียง 2 ปี หลังจากนั้นก็ทยอยทำจนครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ และในวันนี้รัฐบาลภายใต้การนำของเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เริ่มต้นนโยบาย ‘30 บาทรักษาทุกที่’ นำร่อง 4 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด แพร่ เพชรบุรีและนราธิวาสและหลังจากนี้จะมีการดำเนินนโยบายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งพี่น้องประชาชนจะไม่ต้องเสียเวลาไปรักษาที่โรงพยาบาลตามทะเบียนบ้าน ไม่ต้องรอรับยานานเกินไป การตรวจเลือด ซักประวัติ วัดความดันก่อนพบแพทย์ก็สามารถทำได้เลยที่สถานีอนามัยหรือคลินิกใกล้บ้านเครือข่ายของ สปสช. และบางกรณีก็ไม่จำเป็นต้องมาที่โรงพยาบาลเพราะสามารถพบแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ เมื่อรับยาไปแล้วก็สามารถปรึกษากับเภสัชกรผ่านออนไลน์ได้เช่นเดียวกัน รวมไปถึงการนัดออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม 

“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่านโยบายนี้จะสามารถเปลี่ยนชีวิตของพี่น้องประชาชนได้ตลอดกาลเหมือนที่เคยทำได้มาแล้วจากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคเคยทำมาแล้ว ซึ่งเมื่อ 22 ปีที่แล้วเราเริ่มนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคในวันที่ 8 เมษายน ในวันนี้ 7 มกราคม 2567 ซึ่งผ่านมาแล้ว 22 ปีแล้ว เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปจะช่วยให้นโยบายของเราพัฒนาและแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาสานต่อโครงการที่ดีมากๆ อยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์พี่น้องประชาชนตามยุคสมัยมากขึ้น” รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ กล่าว 

แพทองธาร กล่าวว่า ขอขอบพระคุณผู้ที่ผลักดันและสร้าง 30 บาทรักษาทุกโรคในอดีต คือนายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ อดีตเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และที่สำคัญคือการผลักดันอย่างเต็มที่ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่ทำให้ประเทศไทยมีโครสร้างหลักประกันสุขภาพที่ดี ซึ่งขณะนั้นเมื่อได้มีการเสนอนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคไป ก็มีหลายวาทกรรมและหลายข้อครหาซึ่งไม่เข้าใจความตั้งใจของเรา แต่วันนี้ทุกท่านได้เห็นแล้วว่า 30 บาทรักษาทุกโรคได้เปลี่ยนชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นได้จริงๆ นั่นแปลว่านโยบายที่ดีสามารถเปลี่ยนชีวิตเราทุกคนได้จริงๆ วันนี้รัฐบาลชุดนี้เข้ามารับไม้ต่อทำให้ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็น 30 บาทรักษาทุกที่ และเราจะไม่หยุดพัฒนานโยบายที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

เปิดนำร่อง 4 จังหวัด 30 บาทโปร พร้อมขั้นตอนใช้บริการ ระบุมี.ค.ขยายเพิ่ม 8 จังหวัด

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ต่อมา แพทองธาร โพสต์ย้ำ 30 บาทโปร นำร่อง 4 จังหวัด แจงขั้นตอนใช้บริการ
มี.ค.ขยายเพิ่ม 8 จังหวัด

โดยมีรายละเอียดดังนี้ : 

หลังจากลุยงานกันมา 3 เดือน 30 บาท รักษาทุกที่พร้อมแล้ว ในจังหวัดนำร่อง 4 จังหวัดแล้วค่ะ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และ นราธิวาส 

‘30 บาท Pro’ 30 บาทรักษาทุกที่ คือการยกระดับมาตรฐานการรักษาและบริการด้วยเทคโนโลยี เชื่อมโยงฐานข้อมูลของทุกสถานพยาบาลในเครือข่ายเข้าด้วยกันในรูปแบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐ สถานีอนามัย ห้องแล็บ โรงพยาบาลเอกชนและคลีเอกชนบางแห่ง เข้าด้วยกัน ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงการรักษาได้ง่ายสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 

พี่น้องประชาชนที่ใช้สิทธิบัตรทอง สามารถถือบัตรใบเดียวทดลองใช้บริการตามนี้ได้เลย 

นัดคิวแพทย์ออนไลน์ 

เลือกเวลาพบแพทย์ล่วงหน้าได้ ผ่านแอปหรือไลน์ ‘หมอพร้อม’ ไม่ต้องเสียเวลารอที่โรงพยาบาลทั้งวันอีกต่อไป 

ตรวจเลือดใกล้บ้าน 

หากต้องมีการตรวจเลือด สามารถตรวจก่อนได้ที่คลินิกหรือแล็บในเครือข่ายใกล้บ้าน ข้อมูุูลจะเชื่อมโยงกับหน่วยบริการสุขภาพอื่น โดยโรงพยาบาลที่ท่านรักษาสามารถออก ‘ใบสั่งแล็บดิจิทัล’ (e-Lab order) ได้ จึงช่วยให้เดินทางสะดวก ลดเวลาการรอได้

รักษาได้ทุกโรงพยาบาล

ด้วยระบบ HealthID เชื่อมโยงข้อมูลการรักษาของท่านให้ทุกหน่วยสุขภาพ ทำให้สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาลรัฐและสถานพยาบาลเอกชนในเครือข่าย  รวมถึงส่งต่อได้ทันที โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัวอีกต่อไป พร้อมมีใบรับรองแพทย์ดิจิทัลด้วย

ประชาชนสามารถลงทะเบียนใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่ผ่านแอปหมอพร้อมได้ ณ โรงพยาบาลรัฐ หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้าน หรือจะใช้บัตรประชาชนใบเดียว Walk-in เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลก่อนก็ได้เช่นกัน 

ตรวจรักษากับแพทย์บนโทรศัพท์มือถือ (Telemedicine)

สำหรับผู้ป่วยที่มีประวัติการรักษาที่โรงพยาบาลอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลอีกต่อไป เพราะสามารถเลือกรับการตรวจรักษาผ่านโทรศัพท์มือถือ (Telemedicine) ผ่านแอปหมอพร้อมได้ 

รับยาใกล้บ้าน 

ระบบมีใบสั่งยาดิจิทัล (e-prescription) เชื่อมโยงข้อมูลถึงร้านขายยาใกล้บ้าน 
เมื่อผู้ป่วยตรวจเสร็จแล้วที่โรงพยาบาล สามารถกลับบ้านได้เลย หรือหากผู้ป่วยรับการตรวจผ่าน Telemedicine แล้ว สามารถรับยาได้ที่ร้านขายยาใกล้บ้าน หรือรอรับทางไปรษณีย์ได้ 

ในเดือนมีนาคม 2567 จะมีการขยายจังหวัดนำร่อง 30 บาทรักษาทุกที่ อีก 8 จังหวัด เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ หนองบัวลําภู อํานาจเจริญ นครราชสีมา สิงห์บุรี สระแก้ว พังงา และเราจะขยายไปทั่วประเทศให้สำเร็จให้ได้ 

พรรคเพื่อไทยเรามุ่งมั่นที่จะยกระดับนโยบายที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น 

เมื่อ 22 ปีที่แล้ว 30 บาทรักษาทุกโรคทำให้พี่น้องประชาชนทุกคนเข้าถึงการรักษา มาถึงวันนี้ เรายกระดับเป็น 30 บาท Pro เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงการรักษาให้ได้รับบริการที่ดี ที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net