อัยการมีคำสั่งฟ้อง “อาเล็ก” นักดนตรีนักแต่งเพลงรณรงค์อีกคดีด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ เหตุร้องเพลง “โชคดีที่มีคนไทย” ในกิจกรรมเดินไล่ประยุทธ์ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ศาลให้ประกันด้วยเงิน 1.8 แสนบาท

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าเมื่อวานนี้(26 มิ.ย. 2566) ที่ศาลอาญา รัชดา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “อาเล็ก” โชคดี ร่มพฤกษ์ กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร วัย 53 ปี ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 

รายงานระบุเพิ่มเติมว่าคดีนี้เป็นที่ 2 ที่โชคดีถูกดำเนินคดีในฐานะผู้เล่นกีตาร์ให้ร้องเพลงของวงไฟเย็น 2 เพลง บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท ในกิจกรรมเดินขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ครบ 8 ปี จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มายังทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2565 โดยมีผู้กล่าวหาคือ อัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือ “เต้ อาชีวะ” จากกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ กับพวก  

ส่วนในคดีแรกโชคดีถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 จากกิจกรรมครั้งเดียวกันและการกระทำลักษณะเดียวกันนี้ที่ สน.นางเลิ้งแล้ว โดยมีผู้กล่าวหาเป็นพ.ต.ท.บุญโปรด แสงทับทิม สารวัตรสืบสวน สน.นางเลิ้ง และเขารับทราบข้อกล่าวหาแล้วตั้งแต่ 11 ม.ค.2566 และอัยการก็มีคำสั่งฟ้องแล้วเมื่อ 5 เม.ย.2566 ทั้งนี้คดีในสน.นางเลิ้งเป็นการร้องเพลงที่หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลหลังกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เสร็จสิ้นแล้ว

ส่วนการฟ้องของอัยการในคดีที่สองระบุพฤติการณ์เอาไว้ว่า โชคดีกับวรัณยา แซ่ง้อจำเลยในอีกคดีของศาลนี้ได้ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ด้วยการร่วมกันร้องเพลง เล่นดนตรี และเต้นรําเพลง “โชคดีที่มีคนไทย” และเพลง “ใครฆ่า ร.8” นี้เป็นการทำให้รัชกาลที่ 10 และรัชกาลที่ 9 เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง โดยจําเลยกับพวกมีเจตนาทําลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนชาวไทย ทําให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้   

อย่างไรก็ตามหลังศาลรับฟ้อง โชคดีให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และทนายความยื่นประกันตัวโดยวางหลักทรัพย์เป็นเงินสด 180,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ โดยศาลอนุญาตให้ประกันและศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 11 พ.ย.2566 เวลา 13.30 น.