เครือข่ายประชาชนพิทักษ์เขาเตราะปลิง และพันธมิตร ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ปัตตานี ขอให้การรับรองเวทีรับฟังความเห็นชุมชน ขอประทานบัตรเหมืองแร่แกรนิต อ.สายบุรี เป็นโมฆะ เนื่องจากไม่โปร่งใส แจงข้อมูลไม่รอบด้าน และเชิญแต่ชาวบ้านที่เห็นด้วยกับโครงการเท่านั้น
15 มิ.ย. 2566 เพจเฟซบุ๊ก Green News (กรีนนิวส์) และเพจเฟซบุ๊ก "กลุ่มศึกษาชุมชนและทรัพยากรปาตานี" รายงานวันนี้ (15 มิ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี เครือข่ายประชาชนพิทักษ์เขาเตราะปลิง พร้อมเครือข่ายพันธมิตรมาร่วมสังเกตการณ์ อาทิ ชมรมอนุรักษ์ม.อ.ปัตตานี, เครือข่ายติดตามเฝ้าระวังแผนพัฒนาปาตานี, คณะพิทักษ์ฐานทรัพยากรและการพัฒนาที่ยั่งยืน (The Patani RESOURCE), คณะทำงานจังหวัดปัตตานี พรรคก้าวไกล ร่วมยื่นหนังสือถึงตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เพื่อขอให้เวทีรับฟังความเห็นการขอประทานบัตรเหมืองแร่แกรนิต เขาเตราะปลิง ซึ่งจัดขึ้นเมื่อ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นโมฆะ เนื่องจากกระบวนการในการดำเนินการไม่โปร่งใส ให้ข้อมูลไม่รอบด้าน รวมถึงมีการเชิญเฉพาะชาวบ้านที่เห็นด้วยกับการดำเนินการเข้าร่วมเวที
เครือข่ายประชาชนพิทักษ์เขาเตราะปลิง ยื่นหนังสือถึงตัวแทนผู้ว่าฯ ปัตตานี (ที่มา: เฟซบุ๊ก Patani Resources : กลุ่มศึกษาชุมชนและทรัพยากรปาตานี)
หลังจากนั้น ทางเครือข่ายฯ เดินทางไปยื่นหนังสือถึงสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี รวมถึงขอคัดสำเนาเอกสารการขอประทานบัตร
ต่อจากนั้นทางเครือข่ายฯ เดินทางไปยังสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี รวมถึงขอคัดสำเนาเอกสารการขอประทานบัตรด้วย
ทั้งนี้ โครงการทำเหมืองชนิดแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินแกรนิตเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ต.ทุ่งคล้า อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และหมู่ที่ 4 ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี มีเนื้อที่ราว 152 ไร่ ดำเนินการโดยบริษัท อิบนู อัฟฟาน แกรนิต กรุ๊ป จำกัด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ โดยเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานีมีการจัดรับฟังความคิดเห็นชุมชน เพื่อขอประทานบัตรทำเหมือง แต่ระหว่างรับฟังความเห็น มีกลุ่มประชาชนเข้าไปคัดค้าน ทำให้อุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี ประกาศยุติเวทีฯ ชั่วคราว และจะจัดเวทีรับฟังความเห็นชุมชนอีกครั้งภายใน 60 วัน หรือไม่เกินวันที่ 1 ส.ค. 2566
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นตัวแทนรับหนังสือ ยืนยันว่าจะดำเนินการให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ขณะที่ผู้อำนวยการสำนักอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี ให้ความเห็นว่า เวทีประชาคมดังกล่าวไม่ครบองค์ประชุม จึงไม่สามารถทำรายงานผลการประชุมได้ ถือว่าการประชุมเป็นโมฆะ และกำลังดำเนินการให้ฝ่ายกฎหมายตีความ เพื่อจะดำเนินการต่อตามขั้นตอนทางกฎหมาย
สำหรับการขอคัดสำเนาเอกสารการขอประทานบัตรทำเหมือง ผู้อำนวยการสำนักอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี จะส่งหนังสือตอบกลับพร้อมเอกสารโครงการภายใน 15 วัน
แถลงการณ์เครือข่ายฯ ระบุว่า "เวทีรับฟังความคิดเห็นที่จัดขึ้นในวันที่ 1 มิ.ย. 2566 ไม่โปร่งใส การประชาสัมพันธ์ที่กระจายข่าวและส่งหนังสือเชิญเข้าร่วมเวทีประชาพิจารณ์ไม่ทั่วถึง ระยะเวลาประชาสัมพันธ์กระชั้นชิดอีกทั้งกระบวนการดังกล่าวไม่มีการให้ข้อมูลที่รอบด้าน เพื่อให้ประชาชนประกอบการตัดสินใจ และผู้เข้าร่วมในเวทีรับฟังความคิดเห็นในวันดังกล่าว ปรากฎชัดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจงใจเชิญเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีความคิดเห็นสนับสนุนระเบิดภูเขา ทำเหมืองที่มาจากการจัดตั้งทางกลไกของบริษัทที่เป็นผู้ยื่นคำขอประทานบัตรเพื่อเท่านั้น และการจัดเวทีประชาคมในครั้งนี้ก็ไม่ครอบคลุมหมู่บ้านใกล้เคียงที่อาจได้รับผลกระทบจากการดำเนินกิจการนี้ด้วย
"เมื่อถึงกำหนดวันจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นมีชาวบ้านจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการดังกล่าว เข้าร่วมเวทีเพื่อแสดงความคิดเห็น แต่ปรากฎว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปิดกั้นไม่ให้ประชาชนกลุ่มนี้เข้าร่วมเวทีได้ โดยอ้างว่าประชาชนกลุ่มดังกล่าวไม่ได้รับหนังสือเชิญให้ร่วมงาน จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุน และมีปากเสียงกันระหว่างประชาชน และเจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จากอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี ประกาศยุติการประชุมรับฟังความคิดเห็นกลางคันทั้งที่ยังไม่เสร็จสิ้น และประกาศว่าจะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นขึ้นใหม่ภายใน 60 วัน"
เครือข่ายประชาชนอ่านแถลงการณ์ให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี (ที่มา: เฟซบุ๊ก Patani Resources : กลุ่มศึกษาชุมชนและทรัพยากรปาตานี)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)