‘เก็ท’ โมกหลวงริมน้ำ ถูกจับเหตุพกป้าย “เราพร้อมจะอยู่ร่วมกับสถาบันกษัตริย์ ที่พูดถึงได้ ถามถึงได้ วิจารณ์ได้ ทรงพระเจริญ” ‘พิมชนก’ ถูก สภ. แม่โจ้ ออกหมายจับข้อหา ม.112 จนท. พาตัวจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ ‘ตะวัน’ ถูกตำรวจติดตาม ขณะเดินทางทำกิจกรรม เป็นต้น

18 มี.ค.2565 วันนี้ (18 มี.ค.) ช่วงหัวค่ำ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) และพระราชินี มีกำหนดการเสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้ว เพื่อเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร สำหรับฤดูร้อน

ขณะที่ กลุ่ม 'มังกรปฏิวัติ Draconis Revolution' มีกำหนดจัดกิจกรรม ถวายความจงรักภักดี ถวายตัวเป็นข้าฝ่าละอองธุลีพระบาททุกชาติไป แม้ไม่อาจเทียบหนึ่งในล้าน ลูกขอตั้งปณิธาน สานสิ่งที่พ่อสร้างไว้ ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 18 มี.ค. เวลา 17.00 น. โดยเปิดให้รับเสด็จตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป

ทำให้วันนี้เจ้าหน้าที่รัฐติดตามและควบคุมตัวนักกิจกรรมหลายคน ดังนี้

‘เก็ท’ โมกหลวงริมน้ำ ถูกจับเหตุพกป้าย “เราพร้อมจะอยู่ร่วมกับสถาบันกษัตริย์ ที่พูดถึงได้ ถามถึงได้ วิจารณ์ได้ ทรงพระเจริญ”

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ทางศูนย์ทนายฯ ได้รับแจ้งว่า ‘เก็ท’ โสภณ สุรฤทธิ์ธํารง วัย 23 ปี สมาชิกกลุ่ม โมกหลวงริมน้ำ ถูกตำรวจในและนอกเครื่องแบบประมาณ 10 คน จับกุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ภายหลังเดินทางไปรอรับเสด็จบริเวณดังกล่าว ก่อนถูกนำตัวไปควบคุมตัวยังกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) และไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อเพื่อนหรือญาติ

‘เก็ท’ โสภณ สุรฤทธิ์ธํารง (ภาพโดย แมวส้ม)

เวลา 17.20 น. เมื่อทนายความเดินทางไปถึง บช.ปส. ตำรวจยังไม่ให้เข้าพบผู้ถูกจับกุม โดยอ้างว่าต้องให้รอพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม มาถึงก่อน จนเวลา 17.45 น. ทนายความจึงได้เข้าพบผู้ถูกจับและเข้าร่วมกระบวนการทำบันทึกจับกุม

บันทึกจับกุมของตำรวจ ระบุเมื่อเวลาประมาณ 15.40 น. ขณะที่เจ้าพนักงานตํารวจชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่ตามแผนปฏิบัติการ ถวายความปลอดภัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประกอบพระราชกรณียกิจที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้พบกับ โสภณ สุรฤทธิ์ธํารง ซึ่งเป็นบุคคลที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองและมีความเห็นต่างต่อสถาบัน ยืนถือแผ่นกระดาษมีข้อความว่า “เราพร้อมจะอยู่ร่วมกับสถาบันกษัตริย์ ที่พูดถึงได้ ถามถึงได้ วิจารณ์ได้ ทรงพระเจริญ”

ตำรวจชุดจับกุมอ้างว่า ข้อความดังกล่าวเป็นความเห็นต่างต่อสถาบัน และเพื่อไม่ให้มาก่อความวุ่นวายหรือก่อความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมเห็นว่าการกระทํา ดังกล่าวเป็นการกระทําที่ไม่สมควรและอาจเกิดผลกระทบต่อการถวายความปลอดภัยและการถวายพระเกียรติ

พ.ต.ท.เอกภณ พุทธิกุล รอง ผกก.ป.สน.ชนะสงคราม ผู้ควบคุมการปฏิบัติถวายความปลอดภัยในเส้นทางเสด็จ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย มีอํานาจและหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามแผนปฏิบัติดังกล่าว ได้สั่งให้ผู้ถูกจับกุมหยุดการกระทําดังกล่าว และให้ผู้ถูกจับ ออกไปให้พ้นเส้นทางพระราชดําเนิน แต่ผู้ถูกจับกุม ไม่ปฏิบัติตามคําสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบทันทีในที่เกิดเหตุ และจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน

เก็ทถูกแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 “ทราบคําสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอํานาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคําสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ ตัวอันสมควร” ซึ่งเป็นข้อหามีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสิบวัน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท และเขาถูกริบป้ายที่นำมาทำกิจกรรม นอกจากนั้นยังถูกตำรวจแจ้งว่าจะตรวจปัสสาวะ เนื่องจากตำรวจอ้างว่า “คนปกติไม่น่าจะคิดทำอะไรแบบนี้ได้” แต่เก็ทปฎิเสธ

เบื้องต้นเก็ทได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ถึงแม้ว่าตำรวจจะแจ้งว่าหากรับสารภาพจะเสียค่าปรับเพียง 500 บาท เนื่องจากต้องการต่อสู้เพื่อยืนยันว่าตนไม่ได้กระทำความผิดแต่อย่างใด และได้ให้การเพิ่มเติมในชั้นสอบสวนว่า ขณะถูกจับกุมตนมีแผ่นป้ายอยู่ในกระเป๋า และยังไม่ทันได้หยิบขึ้นมาทำกิจกรรมแต่อย่างใด แต่ตำรวจได้เข้ามาทักตนก่อนจะขอตรวจค้นกระเป๋า ซึ่งตนได้ให้ความร่วมมือแต่โดยดี และเมื่อตำรวจพบแผ่นป้าย จึงพยายามให้ตนออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว แม้ตนจะยืนยันว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะสามารถเข้ารับเสด็จได้ เมื่อตนไม่ยินยอมที่จะออกจากพื้นที่ ตำรวจจึงทำการยึดและขยำแผ่นป้ายของตน และหิ้วตนขึ้นรถมายัง บช.ปส. โดยไม่ได้ติดต่อทนายความทันทีที่ถูกจับกุม ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจึงไม่ตรงกับบันทึกจับกุมที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้าง

ภายหลังเสร็จสิ้นการทำบันทึกจับกุมในเวลา 19.00 น. ตำรวจได้อนุญาตให้เก็ทประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยตีหลักทรัพย์มูลค่า 5,000 บาท อย่างไรก็ตามในชั้นนี้สามารถใช้ตำแหน่งทนายความประกันตัวได้ เขาจึงได้รับการปล่อยตัวจาก บช.ปส. ในเวลาประมาณ 21.23 น. โดยตำรวจนัดให้ไปส่งสำนวนให้กับอัยการในวันที่ 8 เม.ย. 2565 ต่อไป

‘พิมชนก’ ถูก สภ. แม่โจ้ ออกหมายจับข้อหา ม.112 จนท. พาตัวจากกรุงเทพไปเชียงใหม่

วันเดียวกัน ศูนย์ทนายฯ รายงานด้วยว่า พิมชนก ใจหงส์ นักกิจกรรมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กว่า 15 นายได้ไปดักจับพิมชนกที่บริเวณหน้าบ้านพักในกรุงเทพมหานคร พร้อมแสดงหมายจับ และพาตัวมาที่สถานีตำรวจนครบาลแสมดำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 11 มี.ค. 2565 ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยมีพนักงานสอบสวน สภ.แม่โจ้ เป็นผู้ร้องขอให้ออกหมาย

ภาพ พิมชนก ใจหงส์  (ภาพโดยแมวส้ม)

เวลา 19.05 น. หลังจัดทำบันทึกจับกุมที่สถานีตำรวจนครบาลแสมดำเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวพิมชนกเดินทางไปยัง สภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ เจ้าของคดี เพื่อสอบสวนต่อไป โดยมีผู้ไว้วางใจของตัวพิมชนกติดตามไปด้วย 1 คน คาดว่าถึงเชียงใหม่ในเวลา 04.00 น.

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://prachatai.com/journal/2022/03/97746

‘ตะวัน’ ถูกตำรวจติดตาม ขณะเดินทางทำกิจกรรม 

ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมกลุ่มมังกรปฏิวัติ ขณะกำลังเดินทางไปทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถจักรยานยนต์ติดตาม แม้ทานตะวันยังไม่ได้ทำกิจกรรมใด ๆ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการขับรถเข้าประชิดและส่องดูในรถ รวมถึงขับตามขึ้นบนทางด่วน ก่อนจะเลิกติดตามในที่สุด

ทานตะวันให้ความเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามอาจต้องการเจรจาเกี่ยวกับกิจกรรมที่กำลังจะมีขึ้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก พิมชนก ถูกจับกุมตัวไปที่ สน.แสมดำ ด้วยข้อหาม.112 ตามหมายจับของศาลเชียงใหม่ ทานตะวันจึงยกเลิกกิจกรรมดังกล่าว และเดินทางไปกับพิมชนกในฐานะผู้ไว้วางใจไปที่ สภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ร้องขอออกหมาย

เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration' โพสต์ว่า นายประกันของ “ทานตะวัน” กลุ่มมังกรปฏิวัติแจ้งว่าพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการประกันตัวที่ศาลอาญารัชดาคดี ม.112 จากกรณีการไลฟ์สดก่อนมีขบวนเสด็จเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2565 โดยศาลมีคำสั่งไต่สวนการถอนประกันในวันที่ 5 เม.ย. 2565 เวลา 10.00 น.

แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ยังรายงานด้วยว่ายังมีกรณีอื่น เช่น พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องถอนประกันตัว “ใบปอ” และ “เนติพร” ผู้ทำกิจกรรมโพลเกี่ยวกับขบวนเสด็จ โดยศาลนัดไต่สวนคำร้องถอนประกันวันที่ 19 เม.ย. 2565 เวลา 9.00 น. และ นายประกันของ “ลูกเกด ชลธิชา” ได้รับแจ้งจากศาลอาญาว่าวันที่ 23 มี.ค. 2565 เวลา 13.30 น. ศาลจะมีการนัดไต่สวนข้อเท็จจริง สืบเนื่องจากการโพสต์เฟซบุ๊กของลูกเกดเกี่ยวกับการเข้าพบผู้ข่วย รมต. กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา