KNU ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทหารพม่าถอนกำลังจากเลเกก่อ รัฐกะเหรี่ยง ขอนานาชาติช่วยเหลือเหยื่อสงคราม กำหนดเขต No Fly Zone พร้อมย้ำหนทางเดียวที่จะยุติความขัดแย้ง คือกองทัพพม่าต้องถอนตัวจากการเมือง และสร้างระบอบสหพันธรัฐประชาธิปไตย
สืบเนื่องจากกรณีกองทัพพม่าปะทะกับกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) กองกำลังปกป้องพลเรือน และฝ่ายต่อต้านกองทัพพม่ากลุ่มอื่นๆ ที่บ้านเลเกก่อ เขตกอกะเลก ทางใต้ของ จ.เมียวดี ประเทศพม่า ตั้งแต่เมื่อ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนส่งผลให้ผู้หนีภัยสงครามเดินทางข้ามมาฝั่งไทยแล้วนับพันคน
21 ธ.ค. 64 KNU ออกแถลงการณ์วานนี้ (20 ธ.ค.) ต่อกรณีกองทัพพม่าใช้กำลังในเขตเลเกก่อ ทางใต้ จ.เมียวดี มีใจความสำคัญว่า 1) ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ในหมู่บ้านเลเกก่อ เขตกอกะเลก จึงให้แหล่งหลบภัยและการคุ้มครองแก่นักการเมือง นักกิจกรรม และผู้ประท้วงอย่างสันติ ซึ่งต้องหลบหนีจากการประหัตประหารและการจับกุมทรมานของสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ซึ่งนำโดยกองทัพพม่า เพียงเพราะพวกเขาเหล่านั้นมีความเห็นต่างทางการเมือง
2) การปะทะด้วยอาวุธสงครามครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นการดำเนินมาตรการป้องกันตนเองของกองทัพ KNU เพื่อตอบโต้กองทัพพม่า ซึ่งบุกเข้ามาจับกุมนักกิจกรรมที่กำลังหลบภัยอยู่ในเลเกก่อ ทำลายบ้านเรือนของราษฎร และใช้กำลังทหารต่อกองกำลัง KNU
3) ทาง KNU ขอขอบคุณรัฐบาลไทย และชาวไทย สำหรับการจัดเตรียมที่หลบภัยให้แก่ผู้พลัดถิ่นจำนวน 3,000 คน ตามหลักมนุษยธรรม และทาง KNU ยังขอบคุณรัฐบาลไทยที่อนุญาตให้ผู้พลัดถิ่นราว 2,000 คน ซึ่งหลบหนีการปะทะด้วยอาวุธสงครามเมื่อ 19 ธ.ค. 64 ข้ามมาฝั่งไทย และหวังว่า ทางการไทยจะจัดการความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมแก่คนเหล่านี้
4) เราเรียกร้องให้ชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่นอกประเทศเมียนมา ชาวเมียนมา องค์กรทั้งในและต่างประเทศ ให้ความช่วยเหลือทางด้านอาหาร ยารักษาโรค ตลอดจนแหล่งหลบภัยชั่วคราวแก่ผู้หนีภัยสงคราม
5) KNU ขอเรียกร้องไปยังนานาชาติให้มีการดำเนินมาตรการอย่างเร่งด่วน ดังต่อไปนี้
เราเรียกร้องให้รัฐบาลไทยอนุญาตให้องค์กรนานาชาติเข้าพบและช่วยเหลือเหยื่อภัยสงคราม
เราขอเรียกร้องให้สหประชาชาติ (UN) จัดการประชุมฉุกเฉินร่วมกันระหว่างสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และประชาคมโลก เพื่อกำหนด ‘เขตห้ามเครื่องบินบินผ่าน’ หรือ No Fly Zone ในพื้นที่บ้านเลเกก่อ เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงว่า กองทัพพม่าจะใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง และการสังหารพลเรือนที่ปราศจากอาวุธ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงอีกด้วย
ขอเรียกร้องต่อกองทัพพม่าให้ถอนกำลังทหารทั้งหมด เพื่อรักษาชื่อเสียงของตนเองที่เสียหายไปแล้ว
ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่และผู้บัญชาการแห่งกองทัพพม่าเข้าร่วมกับประชาชน เพื่อรักษาประเทศพม่า จากการเป็น ‘รัฐล้มเหลว’
สุดท้าย KNU ขอประกาศให้กองทัพพม่าถอนตัวออกจากการเมือง และสร้างระบอบการปกครองสหพันธรัฐประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นหนทางเดียวที่จะยุติสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมาอย่างยาวนานกว่า 70 ปี นับตั้งแต่พม่าได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)