Skip to main content
sharethis

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. เผยผ่านไลฟ์สด เตรียมจัดคาร์ปาร์กทั่วประเทศ วันที่ 15 ส.ค.นี้ ยึดแนวทางสันติวิธี ยกระดับการชุมนุมไล่ประยุทธ์ ส่วนรายละเอียดจะค่อยๆ เผยตามมา ด้านกระแสดราม่าม็อบ 7สิงหา ณัฐวุฒิ เผยไม่มีขบวนการต่อสู้ทางการเมืองไหนสมบูรณ์แบบ วิจารณ์ได้ แต่อย่าถึงขั้นไม่เผาผี เสนอถอดบทเรียนม็อบที่ผ่านมา-หาจุดร่วมด้วยกัน

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ขณะร่วมคาร์ม็อบที่ราชประสงค์ กทม. เมื่อ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา (ถ่ายโดยเจ, jjthikamporn) 

8 ส.ค. 64 ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์กลุ่มสาธารณะ ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ จัดคาร์ปาร์ก ต่อยอดคาร์ม็อบ เพื่อยกระดับการแสดงพลังขับไล่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมกันทั่วไทยในวันที่ 15 ส.ค. 64 นัดรวมตัวเวลา 14.00 น. และเคลื่อนขบวน 15.00 น. 

ณัฐวุฒิ ระบุถึงแนวคิดการจัดชุมนุมแบบคาร์ปาร์กว่า ต้องการต่อยอดจากรูปแบบคาร์ม็อบที่สมบัติ บุญงามอนงค์ เคยจัด เนื่องจากเห็นว่าเหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยลักษณะการทำกิจกรรมจะมีการเคลื่อนขบวนรถ พร้อมกับการพูดจาโอภาปราศรัยในประเด็นต่างๆ ด้านเส้นทางเคลื่อนขบวนรถจะแตกต่างจากคาร์ม็อบ ครั้งที่ 3 ‘ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม’ โดยจะไม่มีแค่ในถนนเส้นวิภาวดี-รังสิต แต่จะมีทุกเขตทุกถนนทั่วเมือง กทม. โดยณัฐวุฒิ ย้ำด้วยว่า การเคลื่อนขบวนคราวนี้ “สีสันฉูดฉาด สาระบาดใจ เชื่อมประสานพลังไปกับคนรุ่นใหม่ ใช้หลักสันติวิธีในการต่อสู้แน่นอน”  

สำหรับการเลือกสันติวิธีเป็นแนวทางหลักในการต่อสู้นั้น แกนนำ นปช. มองว่าขณะนี้ประชาชนอาจยังไม่มีขีดพลังอำนาจมากพอที่จะสู้กับรัฐบาล ตนจึงเลือกวิธีนี้เป็นแนวทางหลักไปก่อน 

นอกจากนี้ ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ขบวนรถครั้งนี้ตนอยากจะเชิญชวนคนหนุ่ม คนสาว มาร่วมกิจกรรมทางการเมืองนี้ด้วยกัน พร้อมกล่าวด้วยว่า หลังจากวันที่ 15 ส.ค. ตนจะมีการจัดชุมนุมอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน 

"พี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงที่เราเคยสู้ด้วยกัน เคยเคียงไหล่ใกล้บ่ากัน ที่เราเคยเจ็บปวดมาด้วยกัน ที่เราเคยลำบากมาด้วยกัน ถูกดูถูกเหยียดหยาม ไล่ยิง ไล่จับ ไล่ฆ่าไปด้วยกัน ผมขอส่งเสียงนี้เป็นรหัสสัญญาณ ขอเชิญเราออกมาสู้ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง สู้เพื่อเอาประชาธิปไตย กลับคืนสู่ประเทศไทย สู้เพื่อขับไล่อำนาจอันไม่ถูกต้องให้พ้นไปเสียที ….ถึงเวลาที่จะแสดงพลังของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุด ในการปกครองประเทศแล้ว" ณัฐวุฒิ ทิ้งท้ายโดยการเชิญชวนประชาชนออกมาร่วมแสดงพลังขับไล่ประยุทธ์ วันที่ 15 ส.ค.นี้ 

การวิจารณ์ในขบวนการต่อสู้ เป็นเรื่องธรรมดา ชวนถอดบทเรียนจากม็อบที่ผ่านมา

ในไลฟ์สด อีกประเด็นที่ณัฐวุฒิ หยิบยกมากล่าวถึงคือ ปรากฏการณ์ #แบนฟรียูธ บนสื่อทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา 

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนตัวตนคงไม่วิจารณ์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะเข้าใจวิถีการต่อสู้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ต้องเรียนรู้ ต่อสู้ และปรับแก้กันไปตลอดทาง แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมา อย่าให้ต้องถึงขั้นแตกแยก ‘ไม่เผาผี’ อยากให้มองเป็นเรื่องปกติธรรมดา และอยากให้หาจุดลงตัว ทำความเข้าใจกันได้ 

บรรยากาศการปะทะระหว่างประชาชนกับ คฝ. ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง กทม. #ม็อบ7สิงหา
 

“บางกรณีที่ตามๆ ดู ไปถึงขั้นมีอารมณ์กันแล้ว ก็อยากจะให้ตั้งหลักกันดีๆ ถ้าเป็นคนรักประชาธิปไตยด้วยกัน คนที่เชื่อมั่นในประชาชนที่ออกมาต่อสู้ด้วยกัน คิดว่ามันต้องหาจุดลงตัว จุดที่ทำความเข้าใจกันได้ และไม่มีทางที่ขบวนการต่อสู้ที่จะเห็นด้วยกันไปตลอดทาง ทุกคน ทุกผู้นำ ไม่มี ทุกขบวนการต่อสู้มันก็วิพากษ์วิจารณ์กันไป

“บนเส้นทางต่อสู้ นักต่อสู้ทุกคนต้องหัวใจหนักแน่นเข้มแข็ง ทั้งแกนนำ ฝ่ายมวลชน ฝ่ายสนับสนุน ทุกฝ่าย ต้องหนักแน่นไปด้วยกัน และต้องถนอมรักกันไว้ วิจารณ์กันได้ นี่คือธรรมดาของวิถี 

“ไม่เอามันมาเครียด มาแบกเอาไว้ เราก็จะบริหารจัดการวิธีคิดง่ายๆ แล้วเรารู้เรายืนตรงไหน เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ ตราบใดก็ตามที่เรากำลังมองหน้าตัวเอง และสบตาตัวเองในกระจกได้โดยไม่ต้องหลบสายตา เรายังสบตาพี่น้องเวลาพูดเรื่องจิตวิญญาณ พูดเรื่องอุดมการณ์ ก็เดินหน้าต่อไป” ณัฐวุฒิ กล่าว 

ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ในประสบการณ์บนเส้นทางขบวนการต่อสู้ทางการเมือง จนได้ฉายาว่า ‘คนช้ำประจำซอย’ ตัวเขาเองก็ประสบการวิจารณ์ทั้งคนที่ไม่เห็นด้วย และฝั่งเดียวกัน แต่ก็สามารถเดินบนทางเดียวกันได้ สิ่งเหล่านี้คือเรื่องธรรมดาของการทำงานการเมือง ไม่อยากให้เก็บไปคิดและบั่นทอนกำลังใจ หรือหัวใจต่อสู้

แกนนำ นปช. ทิ้งท้ายว่า อย่างไรก็ตาม ผู้จัดงานก็ต้องพึงสรุปบทเรียนจากม็อบที่ผ่านๆ มา และต้องแสดงให้ได้ว่ามีข้อสรุปที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์รูปแบบความเป็นจริง ลดผลกระทบในทางลบที่เกิดขึ้นในการเคลื่อนไหว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net