Skip to main content
sharethis
กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพยันเดินหน้าร่วมกับเครือข่าย People GO Network ทำกิจกรรมเดินรณรงค์จาก กทม.-ขอนแก่น ต่อไปแม้ถูกตำรวจสกัดไว้ก็ตาม ชี้อัดอัดกับ 4 ปีของรัฐบาลทหาร แก้กฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติโดยไม่ฟังเสียงประชาชน พยายามบิดเบือนเจตนารมณ์บัตรทองให้เป็นแค่เรื่องการสงเคราะห์ หลังจากทั้งวันโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัด ล่าสุดช่วงบ่ายกิจกรรม ‘เดินมิตรภาพ’ ก็ได้เริ่มเดินจากธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แล้ว
 
 
 
 
 
20 ม.ค. 2561 น.ส.แสงศิริ ตรีมรรคา ผู้ประสานงานกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวถึงการรณรงค์ร่วมกับเครือข่าย People GO Network ด้วยการเดินเท้าจากกรุงเทพฯ ถึงขอนแก่น ระยะทาง 450 กม. ระหว่างวันที่ 20 ม.ค. – 17 ก.พ. 2561 ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังกว่า 200 นายมาสกัดไว้ที่ประตูทางออกของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตว่า การเดินรณรงค์ในครั้งนี้เป็นการเดินร่วมกันของประชาชน 4 เครือข่าย แต่ละเครือข่ายก็มีประเด็นของตัวเอง ซึ่งในส่วนของกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพและเครือข่ายประชาชนคนรักสวัสดิการได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้เพราะรู้สึกอึดอัดกับท่าทีของรัฐบาลทหารในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ที่มีความพยายามบ่อนแซะทำลายระบบหลักประกันสุขภาพมาโดยตลอด
 
น.ส.แสงศิริ กล่าวว่าระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าที่ถือว่าดีที่สุด ณ เวลานี้ของประเทศ เป็นบัตรทองของประชาชนกว่า 49 ล้านคน แต่ 4 ปีที่รัฐบาลเข้ามาบริหาร ได้ใช้อำนาจมากมายและฟังแต่ข้าราชการ ไม่สนใจเสียงประชาชน เช่น การแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่มุบมิบอยากทำก็ทำ และแม้บอกว่าให้ประชาชนเข้ามามีส่วนในการร่างกฎหมายด้วย แต่ก็เปิดโอกาสแบบเสียมิได้ ให้มีตัวแทนภาคประชาชนเข้าไปเพียง 2 คนซึ่งไม่สามารถทัดทานอะไรได้อยู่แล้วและทุกเรื่องที่ภาคประชาชนเสนอก็ถูกตีตกเสมอไป
 
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาถึงรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ก็จะเห็นชัดเจนว่ารัฐบาลได้ร่างรัฐธรรมนูญ โดยระบุเรื่องการเข้าถึงบริการสุขภาพว่าอาจจะเป็นการให้เฉพาะผู้ยากไร้เท่านั้น สอดคล้องกับความพยายามแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพ
 
“ที่สำคัญเราก็ไม่ได้ค้านแบบไม่รู้เรื่อง เราติดตามการแก้ไขกฎหมายมาโดยตลอดและเห็นชัดเจนว่าการแก้กฎหมายฉบับนี้ส่งผลไปลดทอนเจตนารมณ์ของการเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนด้านสุขภาพ รัฐบาลยังพยายามตีตราคนจนโดยการลงทะเบียนคนจน และนายกรัฐมนตรีก็เคยพูดทำนองว่า “เงินไม่พอ จะเอาอะไรมากมาย” “เราจะให้เฉพาะคนจนเท่านั้น คนไม่จนก็อย่าเอา” สะท้อนให้เห็นเจตนาของรัฐบาลชัดเจนว่ากำลังริดรอนบิดเบือนเรื่องหลักประกันด้านสุขภาพและการมีสวัสดิการที่ดีไปในลักษณะของการสงเคราะห์”น.ส.แสงศิริ กล่าว
 
น.ส.แสงศิริ กล่าวต่อไปว่าการเดินรณรงค์รอบนี้เลือกพื้นที่ขอนแก่น 450 กม.เพราะเชื่อว่าคนอีสานคือคนกลุ่มใหญ่ที่ใช้บัตรทองและคนกลุ่มนี้ก็กังวลต่อกระบวนการของรัฐที่พยายามแก้ไขกฎหมาย ซึ่งกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพและเครือข่ายประชาชนคนรักสวัสดิการก็ต้องการใช้เวลาระหว่างการเดินรณรงค์ครั้งนี้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนในระหว่างทางว่ามีความกังวลอะไร อยากบอกอะไรรัฐบาล อยากจะปรับปรุงระบบหลักประกันสุขภาพอย่างไรบ้าง แต่ขณะนี้ยังไม่มีโอกาสได้เดินเพราะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดอยู่หน้าประตูธรรมศาสตร์แม้จะทำหนังสือแจ้งตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ แล้วก็ตาม
 
อย่างไรก็ดี ขอยืนยันว่าจะยังจัดกิจกรรมเดินรณรงค์ต่อไป แม้จะถูกสกัดไว้ก็จะอยู่ตรงนี้ต่อไปเรื่อย ๆ
 
ประมวลสถานการณ์กิจกรรม We Walk วันที่ 20 ม.ค. 2561 
 
เว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่าจากกรณีเครือข่ายประชาชน People Go Network ได้จัดกิจกรรม “We Walk  เดินมิตรภาพ” โดยเป็นกิจกรรมเดินเท้าระยะทาง 450 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ ถึงจังหวัดขอนแก่น เพื่อยืนยันสิทธิของประชาชนใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ หลักประกันสุขภาพที่จะสามารถดูแลทุกคนในประเทศ, นโยบายที่ไม่ทำลายความมั่นคงทางอาหาร, กฎหมายที่จะไม่ลดทอนสิทธิมนุษยชน-สิทธิชุมชน และรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมและรับฟังอย่างรอบด้าน
 
กิจกรรมเริ่มจัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 19 ม.ค. 2561 ที่วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมีการจัดเสวนาเรื่องสิทธิด้านสุขภาพของประชาชน กิจกรรมละคร ดนตรี และฉายภาพยนตร์ รวมทั้งจัดตลาดอาหารปลอดภัย ส่วนในช่วงเช้าวันที 20 ม.ค. จะเริ่มออกเดินเท้าจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อมุ่งสู่จังหวัดขอนแก่น โดยวางกำหนดการเดินถึงวันที่ 17 ก.พ. 2561
 
การแจ้งจัดการชุมนุมสาธารณะตามพ.ร.บ.ชุมนุม
 
 
ก่อนหน้าการจัดงาน ผู้จัดกิจกรรมได้ทำหนังสือแจ้งการจัดการชุมนุมและเดินเท้าต่อสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ซึ่งเป็นขั้นตอนตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558  โดยระบุถึงความประสงค์จะจัดการชุมนุมและเดินทางไกล เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาการคุกคามต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ภายใต้ชื่อ ‘We Walk เดินมิตรภาพ’ โดยจะเริ่มเดินขบวนในวันที่ 20 ม.ค. 2561 จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปจนถึงจังหวัดขอนแก่น และจะมีการพักตามโรงเรียน วัด สถานที่สาธารณะ ฯลฯ ตลอด 30 วัน
 
ต่อมาวันที่ 19 ม.ค. 2561 ผู้จัดกิจกรรมได้รับหนังสือตอบกลับจากสภ.คลองหลวงว่า การชุมนุมดังกล่าวต้องขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง ให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 และแนะนำให้ผู้จัดการชุมนุมใช้ยานพาหนะในการเดินทางแทนการเดินเท้า รวมถึงให้ผู้จัดการชุมนุมพึงระมัดระวังและควบคุมผู้ร่วมการชุมนุมมิให้ปฏิบัติในลักษณะขัดขวางหรือต่อต้านการปฏิบัติหน้าที่ หรือแสดงป้ายและสัญลักษณ์ต่อต้านการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลและคสช. มิเช่นนั้นจะเข้าลักษณะการกระทำที่ขัดต่อคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2558
 
ทางผู้จัดกิจกรรมได้ชี้แจงกลับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าการให้ขออนุญาตใช้เครื่องเสียงตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.การชุมนุมฯ อีกทั้งการใช้เครื่องขยายเสียงตามที่ได้ระบุไว้ในหนังสือแจ้งการชุมนุมนั้น ก็มิได้มีขนาดกำลังของเครื่องขยายเสียงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้
 
นอกจากนี้ กิจกรรมยังเป็นการเดินเท้าบริเวณไหล่ทางริมถนนพหลโยธินต่อเนื่องถนนมิตรภาพ มิได้เป็นการกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานที่ และมิได้ก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชน พร้อมทั้งระบุอีกว่า การชุมนุมสาธารณะดังกล่าวเป็นการใช้เสรีภาพการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ที่ได้บัญญัติรับรองไว้
 
ทางผู้กำกับสภ.คลองหลวงยังได้ทำหนังสือตอบกลับอีกว่าการจัดกิจกรรมเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2561 มีการจำหน่ายเสื้อยืดที่มีข้อความสื่อความหมายเกี่ยวข้องทางการเมือง และมีการชักชวนประชาชนทั่วไปให้ร่วมกันมาลงลายมือชื่อยกเลิกกฎหมาย ซึ่งไม่ใช่การชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ แต่มีลักษณะเป็นการชุมนุมทางการเมือง ตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ข้อ 12 พร้อมทั้งให้ผู้จัดการชุมนุมยื่นคำร้องขออนุญาตการชุมนุมต่อหัวหน้าคสช.หรือผู้ได้รับมอบหมาย
 
ทางผู้จัดกิจกรรมยังคงยืนยันจะทำกิจกรรมการเดินเท้าต่อไป พร้อมกับระบุว่ากรณีการลงลายมือชื่อเพื่อเสนอกฎหมายยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช. เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 133 อีกทั้ง ยังเป็นกิจกรรมที่ พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เคยกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ทำได้และ คสช. ไม่ได้ห้ามจัดกิจกรรรมดังกล่าว
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 นาย สกัดขบวนเดินไว้หน้าประตูทางออก มธ.
 
เช้าวันที่ 20 ม.ค. 61 เวลาประมาณ 7.00 น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เริ่มรวมตัวที่วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคอยติดตามถ่ายภาพและวิดีโออย่างใกล้ชิด อีกทั้งภายนอกมหาวิทยาลัยยังมีรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบอีกกว่า 100 นาย ตั้งแถวจัดเตรียมกำลัง และมีการตั้งด่านตรวจบริเวณถนนพหลโยธินหน้ามหาวิทยาลัยอีกด้วย
 
จากนั้น เวลา 8.10 น. ประชาชนจากเครือข่ายต่างๆ กว่า 100 คน ได้เริ่มตั้งขบวน โดยมีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมการเดิน เวลาประมาณ 8.30 น. มีรายงายว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กักตัว ผศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ ตัวแทนจากเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) ไว้ด้านนอกไม่ให้เข้าไปภายในจุดที่มีการตั้งขบวนราว 10 นาทีด้วย โดยระบุด้วยว่ากิจกรรมที่กำลังจะไปร่วมจะเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ก่อนเจ้าหน้าที่จะยอมให้เข้ามาร่วมอ่านแถลงการณ์ในกิจกรรม

ต่อมาเวลา 9.00 น.  ตัวแทนประชาชนเครือข่ายต่างๆ  ได้ร่วมกันอ่าน “คำประกาศ People Go เดิน…มิตรภาพ 2561” ก่อนจะเริ่มออกเดิน จนเวลา 9.30 น. ขบวนได้เดินมาถึงประตูทางออกจากมหาวิทยาลัยด้านถนนพหลโยธิน พบเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 200 นาย ตั้งรั้วกั้นและตั้งแถวเป็นจุดสกัดไม่ให้ขบวนสามารถเดินออกไปจากมหาวิทยาลัยได้


ภาพจากเพจ People Go Network

อ้างกิจกรรมเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง 3/58 ต้องรอฝ่ายทหารมาเจรจา

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประกาศด้วยเครื่องขยายเสียง ระบุให้ผู้ทำกิจกรรมทำการเจรจากับผู้บังคับบัญชาก่อน ทั้งระบุด้วยว่ากิจกรรม “We Walk เดินมิตรภาพ” เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 เรื่องการชุมนุมทางการเมือง ขอให้อย่ามีการชุมนุมออกนอกสถานศึกษาหรือนอกพื้นที่ เพราะบ้านเมืองกำลังดำเนินไปได้ดี จึงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน

เวลา 9.40 น. พ.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมมิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เป็นผู้เข้าเจรจากับผู้จัดกิจกรรม โดยอ้างถึงความปลอดภัยของผู้ชุมนุม เกรงว่าจะมีมือที่ 3 หรือมีการเอากิจกรรมไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โดยอยากให้รอพูดคุยเจรจากับ “ฝ่ายความมั่นคง” หรือเจ้าหน้าที่ทหารก่อน

ขณะที่ผศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ ได้ระบุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าในเรื่องความปลอดภัย ทางผู้จัดก็มีการดูแลอยู่ จึงขอให้เจ้าหน้าที่สบายใจได้ ส่วนในเรื่องภาพลักษณ์ของประเทศที่เจ้าหน้าที่กังวลถึง การทำกิจกรรมเหล่านี้กลับจะเป็นส่วนสะท้อนถึงสุขภาพของประชาธิปไตย ถึงการเป็นสังคมที่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งต่างประเทศถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม

จากนั้นทางขบวน “We Walk เดินมิตรภาพ” ได้หยุดนั่งรอการเจรจาบริเวณทางเท้าด้านหน้ามหาวิทยาลัย โดยมีการกล่าวปราศรัยจากตัวแทนเครือข่ายประชาชนในประเด็นต่างๆ สลับกับการร้องเพลง ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงตั้งแถวปิดทางเข้าออกของมหาวิทยาลัยเอาไว้ พร้อมกับมีการแจกน้ำ และเปิดเพลงคืนความสุขให้กับผู้ร่วมเดินขบวนฟังด้วย

จนถึงเวลา 13.30 น. กลุ่มผู้ขบวน “We Walk เดินมิตรภาพ” ยังคงนั่งปักรออยู่บริเวณทางเท้า โดยยืนยันว่าจะปักหลักอยู่จนกว่าจะเจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้เดิน ขณะที่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายความมั่นคงเข้ามาเจรจาแต่อย่างใด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจ

ในระหว่างรอการเจรจา ทางตัวแทนชาวบ้าน 4 คน ยังได้เข้าไปขอร้องและก้มกราบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้สามารถเดินทำกิจกรรมได้ โดยขอเดินเพียงแค่ 4 คน เพื่อไม่ให้ขัดต่อคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่อนุญาต

ขณะเดียวกัน ทางทนายความเครือข่ายที่ร่วมติดตามสถานการณ์ของกิจกรรม ได้จัดทำคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในการชุมนุมและทำกิจกรรม We Walk ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 เพื่อไปยื่นต่อศาล แต่เมื่อได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดปทุมธานีแล้ว พบว่าศาลไม่รับคำร้อง โดยเจ้าหน้าที่ศาลระบุว่าศาลรับเฉพาะคำร้องขอฝากขังในช่วงครึ่งเช้าวันเสาร์เท่านั้น และให้สามารถมายื่นเรื่องขอไต่สวนฉุกเฉินได้ในวันจันทร์แทน

เริ่มออกเดิน 'We Walk เดินมิตรภาพ' 
 
 
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. เฟสบุ๊คแฟนเพจ People GO network รายงานว่าทีมเดินมิตรภาพชุดแรกลอดแนวสกัดตำรวจออกเดินจากหน้าประตูธรรมศาสตร์ฝั่งพหลโยธิน เพื่อเริ่มออกเดินตามกิจกรรม 'We Walk เดินมิตรภาพ' เป้าหมายการเดินทาง 800,000 ก้าว 450 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ ถึงขอนแก่น เพื่อเชื่อมร้อยประชาชนที่มีความคิดเห็นแตกต่าง ร่วมกันแสดงความคิดเห็นสะท้อนปัญหา สร้างความเข้าใจกัน ยืนยันสิทธิของประชาชนทุกด้านในการมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ
 
 
ต่อมาเฟสบุ๊คแฟนเพจ People GO network รายงานว่าเวลาประมาณ 20.00 ทีมเดิน #wewalkเดินมิตรภาพ ชุดวันแรกหลังออกเดินจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตได้ในช่วงบ่าย โดยแยกกันเดินเป็นชุดๆ ก็เดินมาจนถึงเวลา 18.00 น. และหยุดการเดินเท้า และเข้ามาแวะพักกินข้าวเย็นกันที่วัดลาดยาว อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มีตำรวจนอกเครื่องแบบตามมาช่วยรักษาความปลอดภัยอยู่ไม่กี่คน โดยตำรวจไม่ได้ห้ามการเดินเท้าต่อ และให้ทีมเดินพักผ่อนในวัดคืนนี้ได้ตามสบาย
 
เฟสบุ๊คแฟนเพจ People GO network ยังระบุว่า "เนื่องจากเช้านี้ออกเดินช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย เพราะมัวคุยกับพี่ ๆ ตำรวจอยู่หลายจังหวะ คืนนี้ทุกคนคงต้องพูดคุยปรับแผนการกันเล็กน้อย ก่อนออกเดินต่อแต่เช้าพรุ่งนี้เพื่อหามิตรภาพร่วมทางต่อไปในทุกก้าว"
 
สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net