Skip to main content
sharethis

เจ้าคิดส่วย ชาวกะเหรี่ยงซึ่งเข้าร่วมต่อสู้กับขบวนการเพื่ออิสรภาพของรัฐฉานหลายยุคหลายสมัย ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคประจำตัว ระหว่างเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยวัย 74 ปี

เจ้าคิดส่วย ชาวกะเหรี่ยงซึ่งเป็นผู้นำอาวุโสในขบวนการต่อสู้เพื่ออิสรภาพรัฐฉานหลายยุค เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 74 ปี (ที่มาของภาพ: S.H.A.N.)

เจ้าคิดส่วย ผู้เป็นที่กล่าวขานกันในกลุ่มอดีตสหายร่วมอุดมการณ์ในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพรัฐฉาน ว่าเป็นผู้มีความกล้าหาญและซื่อสัตย์ ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจตีบเมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญเก่าแก่อีกคนในแวดวงนักต่อสู้กู้ชาติของไทใหญ่ เพราะถึงแม้เจ้าคิดส่วย จะไม่ได้มีเชื้อสายชาวไทใหญ่ แต่เขามีหัวใจรักชาติรักแผ่นดินไทใหญ่อย่างแรงกล้า อุทิศชีวิตร่วมเป็นนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพรัฐฉานมานานกว่า 50 ปี เริ่มจากเข้าร่วมเป็นสมาชิกกองกำลังปะโอ กองกำลังไทใหญ่ภายใต้การนำเจ้ากอนเจิง กระทั่งหลายกลุ่มรวมกันตั้งเป็นกองทัพเมืองไต MTA ภายใต้การนำของขุนส่า 

เจ้าคิดส่วย เกิดเมื่อปี 2481 ที่หมู่บ้านกะหยิ่นเลเซก อ.สะทง รัฐกะเหรี่ยง จบการศึกษาระดับมัธยมปลาย และมีโอกาสเข้าศึกษาหลักสูตรการศึกษามวลชน (Mass Education Course) จากนั้นถูกส่งเข้าไปอยู่ในรัฐฉาน ที่เมืองปางโหลง เพื่อศึกษาต่อ และในปี 2503 เขาได้เข้าร่วมเป็นทหารในกองกำลังปลดปล่อยประชาชนชาติรัฐฉาน (Shan State National People Liberation Organization - SSNPLO) ซึ่งเป็นกองกำลังปะโอ หลังจากกองกำลัง SSNPLO และกองกำลังของไทใหญ่หลายกลุ่มรวมเป็นกลุ่มเดียวกัน เจ้าคิดส่วย ได้ทำหน้าที่อยู่ในสำนักงานกองบัญชาการที่มีเจ้ากอนเจิง เป็นผู้บังคับบัญชา

ปี 2511 กองกำลังที่รวมตัวกันเกิดความแตกแยกกัน เนื่องจากผู้นำมีอุดมการณ์แตกต่างกัน บางกลุ่มไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์พม่า (Communist Party of Burma-CPB) โดยเจ้าคิดส่วย ซึ่งเป็นผู้มีอุดมการณ์ต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ได้เข้าร่วมอยู่ในกองกำลังเจ้ากอนเจิง ที่แยกตัวและตั้งเป็นกองทัพสหปฏิวัติรัฐฉาน (SURA) ร่วมกับเจ้าน้อยซอหยั่นต๊ะ ผู้ก่อตั้งกองกำลังหนุ่มศึกหาญ ซึ่งเป็นกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่กลุ่มแรก โดยเจ้าคิดส่วยได้อยู่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเจ้ากอนเจิง มาโดยที่ไม่เคยแยกตัวไปร่วมกับกองกำลังกลุ่มใด 

โดยระหว่างอยู่ในกองกำลังไทใหญ่ภายใต้การนำเจ้ากอนเจิง เขาได้รับความไว้วางใจเป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยอารักขากองบัญชาการ และมีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลการเงิน กระทั่งกองกำลังไทใหญ่ SURA ของเจ้ากอนเจิง และกองกำลัง SUA ของขุนส่าเข้าร่วมกันตั้งเป็นกองทัพเมืองไตย MTA เจ้าคิดส่วย ก็ยังเป็นนายทหารไทใหญ่ร่วมต่อสู้กู้ชาติกู้แผ่นดินรัฐฉานอย่างซื่อสัตย์ จวบจนกระทั่งขุนส่านำกองทัพเมืองไตย MTA เข้าสวามิภักดิ์ต่อรัฐบาลทหารพม่าเมื่อต้นปี 2539 

กระนั้น เจ้าคิดส่วย ไม่คิดหนีจากวงการการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของไทใหญ่ ซึ่งเขาได้นำครอบครัวไปตั้งหลักแหล่งอยู่ที่บ้านเปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นชุมชนไทใหญ่และเป็นอดีตที่ตั้งกองบัญชาการกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ โดยได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน RCSS และกองทัพรัฐฉาน SSA ภายใต้การนำของเจ้ายอดศึก จนกระทั่งถึงแก่กรรมจากไป โดยระหว่างที่เขาเข้าพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนั้นยังได้พูดถึงอนาคตของรัฐฉานอย่างเป็นห่วง ซึ่งเขาได้พูดคุยถึงสถานการณ์การหยุดยิงระหว่างกองกำลังไทใหญ่และรัฐบาลพม่า กับเจ้าคืนใส บรรณาธิการสำนักข่าวฉาน ที่เข้าเยี่ยมดูอาการเขาว่า “สันติภาพจะเกิดขึ้นได้หรือ การหยุดยิงจะเป็นยังไงต่อไป เพราะแม้จะหยุดยิงแต่ยังมีการสู้รบกันอยู่อย่างนี้” 

ขณะนี้ศพของเจ้าคิดส่วย ถูกนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพัก บ้านเปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ มีกำหนดฌาปนกิจในวันพฤหัสบดี ที่ 18 ตุลาคม 2555 นี้ ที่สุสานแขก ทางไปบ้านหลักแต่ง ชายแดนไทย – พม่า (รัฐฉาน) โดยทางครอบครัวได้ฝากคำเชิญถึงอดีตผู้ร่วมขบวนการเดียวกัน ตลอดมิตรสหายและผู้เคยเคารพนับถือกันไปร่วมงานศพเจ้าคิดส่วยได้ตามวันดังกล่าว

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net