Skip to main content
sharethis
'บัญญัติ บรรทัดฐาน' อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มอง 4 ปี คสช.ไม่สามารถปราบคอร์รัปชั่น ล้มเหลวเรื่องความปรองดอง ยอมรับ 'สุเทพ' ตั้งพรรค กระทบฐานเสียงในภาคใต้
 
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย)
 
26 พ.ค. 2561 นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการครบรอบ 4 ปี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า หลายคนได้พูดเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ความรู้สึกส่วนตัวมองว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลที่ทำงานหนักพอสมควร โดยหลายเรื่องเป็นมรรคเป็นผล แต่เรื่องที่เป็นจุดประสงค์หรือเป็นความหวังของประชาชน เช่น การปราบคอร์รัปชั่น การปฏิรูป และการปรองดอง ต้องพูดตรง ๆ ว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องการปรองดองที่ดูไปดูมาจะขัดแย้งมากขึ้น ซึ่งถือว่าน่าเป็นห่วง
 
นอกจากนี้นายบัญญัติยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ทนายความของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย เดินทางไปจดแจ้งชื่อพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยจะมีนายสุเทพ เป็นที่ปรึกษาพรรคว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่ชัดเจน ซึ่งนายสุเทพก็ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง ขณะนี้มีพรรคเกิดใหม่ถือเป็นเรื่องธรรมดาเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเปรียบเทียบ และเชื่อว่าประชาชนรับรู้อะไรมากขึ้น รวมถึงจะสนับสนุบพรรคไหนหรือไม่ ย่อมมีเหตุมีผลอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าอาจจะกระทบต่อฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้อยู่บ้าง แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็เคยชินกับเรื่องนี้ เพราะทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงการเมืองก็จะมีการแย่งคะแนนเสียงจึงไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่
 
ส่วนที่มองว่าที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปนั้นนายบัญญัติ กล่าวว่าในช่วงแรกมีท่าทีที่ชัดเจนแต่ช่วงหลังนายสุเทพพูดเรื่องนี้น้อยลงอาจเป็นเพราะหนักอกหนักใจที่ผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เข้าตา
 
“รัฐบาลควรจะจัดการเลือกตั้งให้เกิดขึ้น หากไม่เลือกตั้งคราวนี้จะลำบาก เพราะเลื่อนการเลือกตั้งมา 3-4 ครั้งแล้ว และยังไปบอกกับนานาชาติไว้แล้ว เมื่อไม่เป็นไปตามนั้นก็เสียรางวัดมามากแล้ว ถ้าเลื่อนอีกก็ไปกันใหญ่ หากมีการเลื่อนออกไปอีกนิดหน่อยก็ต้องมีเหตุผล ซึ่งการเลื่อนหรือไม่เลื่อนไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ต้องพูดให้ชัดเจนว่าการเลือกตั้งจะเกิดในเดือนกุมภาพันธ์แน่นอน ไม่เปลี่ยนแปลง” นายบัญญัติ กล่าว
 
นายบัญญัติ กล่าวอีกว่า การที่มีคนออกมาเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ก็ไม่ควรไปตำหนิ เพราะมีการเลื่อนมาหลายครั้ง ขณะเดียวกันแม้กระบวนการทางกฎหมายมีอุปสรรคจนอาจกระทบต่อการเลือกตั้ง แต่รัฐบาลมีคำสั่ง คสช. มาตรา 44 อยู่ในมือ จึงควรยืนยันด้วยว่าหากมีปัญหาทางเทคนิคทางกฎหมายก็พร้อมใช้คำสั่ง คสช.มาตรา 44 จัดการเลือกตั้ง เชื่อสังคมจะรับได้ และการเมืองจะนิ่ง
 
“เมื่อจะมีการเลือกตั้ง การปลดล็อคต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยต้องตั้งอยู่พื้นฐานความเข้าใจ จึงควรเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ที่อยากเห็นประเทศเดินไปทางนี้ จะเดินไปทางอื่นไม่ได้แล้ว เพราะเพื่อนบ้านจะไม่คบ” นายบัญญัติกล่าว
 
ส่วนกรณีที่รัฐบาล คสช.เตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองนั้น นายบัญญัติกล่าวว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้ารัฐบาล คสช.จะลงเลือกตั้ง การเปิดกว้างให้พรรคการเมืองต้องมีอย่างเท่าเทียมกันเป็นเรื่องจำเป็นมาก และตนคิดว่าสังคมไทยต้องพูดกันตรงๆ จะพูดง่าย แต่ถ้าเอารัดเอาเปรียบกัน บางทีเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ การปรองดองที่เป็นวัตถุประสงค์สำคัญจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย นอกจากนี้มองว่าผู้มีอำนาจเริ่มดูด ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ ก็อาจจะกระทบบ้าง ก็ต้องแก้ไขกันไป ไม่มีอะไรที่ราบเรียบไปหมดถ้าราบเรียบก็ไม่ใช่การเมือง
 
 
ที่มาเรียบเรียงจากสำนักข่าวไทย [1] [2]
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net