Skip to main content
sharethis

สมาชิกกลุ่มรักษ์ อ.วานรนิวาส กลุ่มคัดค้านการทำเหมืองแร่โปแตชใน จ.สกลนคร ถูกบริษัท ฯ ทำเหมืองกล่าวหาข่มขืนจิตใจ ใช้กำลังประทุษร้าย รายที่ 3 กรณีชุมนุมปิดเส้นทางไม่ให้รถขนอุปกรณ์ขุดเจาะเหมืองเข้าพื้นที่เมื่อ กลาง พ.ค. ที่ผ่านมา

สัมฤทธิ์ โบราณมูล (ภาพจาก : กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส)

24 พ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า สัมฤทธิ์ โบราณมูล อายุ 48 ปี ชาวบ้านหินกอง หมู่ที่ 17 ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร อาชีพเกษตรกร หนึ่งในสมาชิกกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส กลุ่มที่เคลื่อนไหวคัดค้านการสำรวจและทำเหมืองแร่โปแตชในพื้นที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน สภ.วานรนิวาส ข้อหากระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 309 ฐานร่วมกันข่มขืนจิตใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดๆ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ซึ่งผู้อื่นในที่นี่คือตัวแทนบริษัทไชน่า หมิงต๋า โปแตช คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่กระทรวงอุตสาหกรรมออกอาชญาบัตรพิเศษให้สิทธิสำรวจแร่โปแตช พื้นที่ประมาณ 120,000 ไร่ กินพื้นที่ 6 ตำบล ในเขต อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร

จากกรณีที่ประชาชนชาววานรนิวาสชุมนุมคัดค้านการขนอุปกรณ์ขุดเจาะสำรวจแร่โปแตชใต้หลุมที่ 4 ของบริษัทไชน่า หมิงต๋า โปแตช คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 9-15 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวนได้ระบุวันรับทราบข้อกล่าวในหมายเรียกคือในวันที่ 25 พ.ค. 2561 (วันพรุ่งนี้) ที่ สภ.วานรนิวาส จ.สกลนคร

ภาพ ประชาชนชาววานรนิวาสปักหลักชุมนุมคัดค้านการขนอุปกรณ์ขุดเจาะสำรวจแร่โปแตชใต้หลุมที่ 4 ของบริษัทไชน่า หมิงต๋า โปแตชฯ เมื่อวันที่ 9-15 พ.ค. ที่ผ่านมา กว่า 6 คืน 7 วัน (ภาพจาก : กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส)

สัมฤทธิ์ ถือว่าเป็นรายที่ 3 ที่ได้รับหมายเรียกในข้อกล่าวหานี้ ก่อนหน้านี้มีสมาชิกกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาสที่ไปร่วมคัดค้านการขนอุปกรณ์สำรวจเหมืองแร่ได้รับหมายเรียกในข้อกล่าวหานี้ 2 รายแล้ว

สัมฤทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ขณะที่ตนไปถวายอาหารพระที่วัดบ้านหินกองตามปกติเหมือนทุกวัน เวลาประมาณ 13.00 น. เพื่อนบ้านที่มีบ้านติดกันได้นำเอาเอกสารฉบับหนึ่งมาให้ตน ทราบภายหลังคือหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน สภ.วานรนิวาสดังกล่าว โดยเพื่อนบ้านคนนั้นได้เล่าให้ตนฟังอีกว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหนึ่งนายจาก สภ.วานรนิวาส มาหาตน (นางสัมฤทธิ์) ที่บ้าน แต่ไม่พบ จึงได้ฝากให้ ตน (เพื่อนบ้าน) นำมาให้ที่วัด

“ไม่รู้สึกตกใจอะไร เพราะรู้มาก่อนแล้วว่า ตนอาจถูกบริษัท ฯ ฟ้องร้อง ดำเนินคดี คิดว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ฟ้องร้องให้เราหยุดเคลื่อนไหวต่อต้านการทำเหมืองแร่’’ สัมฤทธิ์ กล่าว

สัมฤทธิ์กล่าวอีก วันที่มีการชุมนุมปิดเส้นทางไม่ให้รถขนอุปกรณ์ขุดเจาะของบริษัท ฯ เข้ามาสำรวจแร่ กว่า 6 คืน 7 วันนั้น ตนทำหน้าที่บันทึกภาพ บันทึกวีดีโอสิ่งที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังทำช่วยประสานงาน ทำอาหารดูแลพี่น้องที่มาร่วมชุมนุมตลอดการชุมนุมเท่านั้น ไม่ได้ไปบังคับข่มขืนใจหรือทำร้ายใครตามที่ถูกกล่าวหา

“เบื้องต้น พรุ่งนี้ไปรับทราบข้อกล่าวหากับทนายความและจะขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เพราะไม่ได้กระทำผิด ฉันคิดว่าเป็นสิทธิของฉันเช่นกันที่จะต่อสู้คัดค้านไม่ให้เหมืองแร่มาทำลายชีวิตควาเป็นอยู่ของฉัน ฉันไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเองและครอบครัวเพียงอย่างเดียว แต่ต่อสู้เพื่อชุมชน เพื่อลูกหลาน คนอื่น ๆ ด้วย” สัมฤทธิ์กล่าว

สัมฤทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นแกนนำที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการทำเหมืองแร่ดังกล่าว แต่ตนเป็นเพียงประชาชนคนธรรมดา ที่ทำอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่ ทำนา ซึ่งที่ดินทำกินของตนและครอบครัวนั้นก็อยู่ใกล้กับพื้นที่ที่ได้รับสิทธิในการสำรวจเพื่อทำเหมืองแร่โปแตซอีกด้วย จึงทำให้ตนต้องออกมาคัดค้านการทำเหมือง เพราะกังวลว่าเหมืองจะทำให้ตนสูญเสียที่ดินทำกิน หรือผลผลิตทางการเกษตรของตนจะได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ เช่น ปัญหาดินเค็ม น้ำเค็ม ดินถล่ม เป็นต้น

“ฉันและพี่น้องชาว อ.วานรนิวาส จะยืนยัน ต่อสู้คัดค้านการทำเหมืองแร่โปแตซเหมือนเดิม เพื่อปกป้องวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของชุมชน ปกป้องสิ่งแวดล้อม ที่ดินทำกิน แหล่งอาหารของชุมชนต่อไป” สัมฤทธิ์ กล่าว

สักกพล ไชยแสงราช ทนายความกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาสกล่าวว่า ข้อกล่าวหานี้ ถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือ ผู้เสียหายก็คือบริษัท ฯ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่อนุญาตให้รถขนอุปกรณ์ขุดเจาะสำรวจแร่ สามารถเข้าไปสำรวจขุดเจาะได้นั้น ได้กล่าวหาประชาชนกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาสที่ไปชุมนุมบริเวณทางเข้าพื้นที่ขุดเจาะนั้น ทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวว่าจะได้รับอันตราย และกังวลว่าทรัพย์สินจะเสียหายจากการกระทำของประชาชนที่ชุมนุมคัดค้าน

“พรุ่งนี้เราจะไปรับทราบข้อกล่าวหาและจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เพราะพี่น้องไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สินของผู้เสียหายก็คือบริษัท ฯ เลย” สักกพล กล่าว

 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net