ประชาธิปัตย์กังวลกฎหมายลูก ส.ส.-ส.ว. อาจถูกคว่ำ วอน สนช. คำนึงถึงประเทศเป็นหลัก

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุเป็นกังวลว่าร่างกฎหมายลูก ส.ส.-ส.ว. อาจถูกคว่ำได้ วอนสนช.พิจารณาโดยคำนึงถึงประโยชน์ประเทศ  อภิสิทธ์ เชื่อ คสช. สั่งได้คว่ำหรือไม่คว่ำ

แฟ้มภาพประชาไท

16 ก.พ. 2561 องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายว่า เป็นเรื่องที่น่ากังวลว่าร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับอาจถูกคว่ำได้ เพราะมีความเห็นไม่ตรงกัน หากที่ประชุมร่วมหาข้อตกลงกันไม่ได้ และหากกฎหมายถูกคว่ำ จะทำให้ต้องยกร่างใหม่ และระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายทั้ง 2 ฉบับจะต้องเลื่อนออกไป เชื่อว่าจะมีผลต่อการกำหนดวันเลือกตั้งด้วย ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ สนช. พิจารณาร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก หากมีประเด็นใดที่เป็นข้อสงสัย ควรต้องทำให้กระจ่าง ไม่ควรต้องให้มีการส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความอีก เพราะจะทำให้ระยะเวลาการเลือกตั้งเลื่อนออกไป 

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการเปิดให้จัดมหรสพหาเสียงเลือกตั้งได้ เพราะมีโทษมากกว่าประโยชน์ ไม่ควรที่จะย้อนยุคกลับไปอีก แต่ยอมรับว่าประเด็นนี้ไม่ชัดเจนว่าไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องที่มาของส.ว. ที่กำหนดเปิดให้สมัครเพื่อเลือกกันเองโดยผ่านได้ 2 ช่องทาง คือสมัครส่วนบุคคล และส่งสมัครโดยองค์กรนั้น ยังมีความเห็นที่แตกต่างว่าเข้าข่ายไม่เป็นไปตามเจตนารณ์ของรัฐธรรมนูญ ดังนั้นควรต้องเขียนให้ชัด เพื่อจะได้ไม่ต้องมาตีความกันในภายหลัง เพราะจะทำให้เสียเวลา 

ส่วนที่พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  (สนช.)  ระบุว่าสนช.ต้องพิจารณากฎหมายอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งหลังการเลือกตั้งนั้น  นายองอาจ กล่าวว่า การพิจารณากฎหมายด้วยความรอบคอบถือเป็นเรื่องดี แต่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และไม่ควรเดาล่วงหน้า โดยทุกฝ่ายควรต้องช่วยกันไม่ทำให้เกิดเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง

ที่มาภาพประกอบ: เพจ Abhisit Vejjajiva/แฟ้มภาพ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงกรณีเดียวกันนี้ว่า บางประเด็นได้ตั้งข้อสังเกตไปแล้ว อย่างกรณีมหรสพ ไม่น่าจะย้อนกลับไปสร้างปัญหาหรือค่านิยมที่เราไม่ควรจะส่งเสริมในการปฏิรูปทางการเมือง ส่วนปัญหาเรื่องการจะเลื่อนการบังคับใช้ ขอยืนยันว่า พรรคการเมืองไม่ได้มีปัญหาในการปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมือง เพราะอุปสรรคจริง ๆ ที่ทำให้ทุกอย่างเดินไม่ได้นั้น ไม่ได้อยู่ที่ตัวพรรคการเมืองกับตัวกฎหมาย แต่อยู่ที่ คสช. ยังไม่อนุญาตให้ปฏิบัติตาม

ส่วนที่มีการมองกันว่าหากใน กมธ.ร่วม 3 ฝ่าย มีความเห็นแย้ง จนนำไปสู่การคว่ำร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หวังว่าคงไม่ไปถึงจุดนั้น และเชื่อว่าต้องหาข้อยุติร่วมกัน และถ้า คสช. มีความมุ่งมั่น ไม่ให้การคว่ำกฎหมายมาเป็นอุปสรรคอีก คสช. ก็ต้องเข้าไปดำเนินการไม่ให้มีการคว่ำกฎหมาย ก็ทำได้อยู่แล้ว 

“ผมว่า คสช. ก็ต้องมีความรับผิดชอบในการที่จะให้โรดแม็ปมีความชัดเจน มีความศักดิ์สิทธิ์ แล้วทุกคนก็ทราบอยู่แล้วว่าที่ผ่านมา สนช. หรือองค์กรเหล่านี้ก็ไม่เคยฝืนนโยบาย คสช. อยู่แล้ว ทั้งหมดอยู่ที่ คสช. สามารถจะกำหนดได้ทุกอย่าง ดังนั้นอยู่ที่ว่า คสช. จะให้ความเชื่อมั่นได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ไม่ว่าจะสอบถามคนในประเทศ หรือจากที่คนสอบถามมาจากต่างประเทศนั้นก็คือ เขามองว่าประเทศไทยขาดความชัดเจน เนื่องจากเหมือนกับมีเหตุที่เกิดขึ้นในลักษณะแบบนี้ โดยไม่ได้มีเหตุผลที่ชัดเจน  ขนาดตัวนายกฯ กับรองนายกฯ ยังพูดเองเลยบอกว่า ยังไม่รู้จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า เพราะฉะนั้นอันนี้ก็ต้องบอกว่ามันทำให้มันไม่มีใครมั่นใจได้ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีกับส่วนรวม” อภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าหากมีการขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง 90 วัน แล้ว คสช. ยังไม่ปลดล็อคพรรคการเมือง จะเกิดปัญหาอย่างไรตามมา อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาพื้นฐานทั้งหมดอยู่ที่การไม่ปลดล็อค และการไปเพิ่มขั้นตอนที่ไม่จำเป็นอย่างที่ว่า ถ้าอยากจะแก้ให้ตรงจุดก็ต้องไปแก้ที่ตรงนั้น

เรียบเรียงจาก: สำนักข่าวไทย 1 , 2

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท