รวมกรณีการคุกคามนักกิจกรรม นักวิชาการก่อนวันครบรอบ 85 ปีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หลายรายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม บางรายเข้ากดดันครอบครัว บางรายถูกเจ้าหน้าที่ไปหาแม่ที่ที่ทำงานเพื่อเก็บข้อมูลส่วนตัว เจ้าหน้าที่เผยรู้จักบ้านนักกิจกรรมบางรายเพราะมหาวิทยาลัยให้ข้อมูล
23 มิ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า วันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารได้พยายามเข้าไปติดตาม และขอความรวมมือ กับทั้งนักกิจกรรม และนักวิชาการ โดยห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง และห้ามใช้พื้นที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นบริเวณที่เคยมีหมุดของคณะราษฎรฝั่งอยู่ ก่อนจะถูกถอนไป และแทนที่ด้วยหมุดหน้าใส จัดกิจกรรมรำลึกวันครบรอบ 85 ปีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ 24 มิ.ย.
เบื้องต้นศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เผยแพร่ข้อมูลว่า ในวันที่ 22 มิ.ย. นักศึกษา 2 คน ของกลุ่มที่เคยจัดกิจกรรมประชามติ และถูกจับกุมตัวเมื่อปี 2559 ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางเขน เพื่อสอบถามว่านักศึกษาคนดังกล่าวจะทำการเข้าร่วมในงาน “ทำบุญกรวดน้ำคว่ำขัน วัน (ไม่มี) ประชาธิปไตย” ที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขนหรือไม่ และภายในงานจะมีกิจกรรมอย่างไรบ้าง มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนเท่าไร ซึ่งนักศึกษาคนดังกล่าวได้ตอบกล่าวไปว่าตนไม่ทราบรายละเอียด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุว่าไม่อยากให้มีประเด็นทางการเมือง เนื่องมาจาก “นาย” เป็นห่วง และทางมหาวิทยาลัยก็ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย ซึ่งในตอนท้ายของการพูดคุยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่าภายในวันงานจะมีทั้งทหารและตำรวจหลายหน่วยเข้าไปบริเวณที่จัดงาน
เช่นด้วยกันกับ สุวรรณา ตาลเหล็ก นักสหภาพแรงงาน และสมาชิกกลุ่ม 24 มิถุนาฯ ประชาธิปไตย ระบุว่า ขณะที่สุวรรณาเดินทางไปจังหวัดอุทัยธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้โทรศัพท์ติดตามขอพบตัว เพื่อคุยเรื่องกิจกรรมในวันที่ 24 มิ.ย.อีกครั้ง หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ติดตามถึง 2-3 ครั้ง สุวรรณาจึงยืนยันว่าทางกลุ่มไม่มีการจัดกิจกรรมอะไรในวันดังกล่าว แต่ทางเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าผู้บังคับบัญชาไม่เชื่อว่าได้มีการพูดคุยกันแล้ว จึงขอพบระหว่างที่สุวรรณากำลังเดินทางกลับ โดยขอนัดพบกันที่จังหวัดสิงห์บุรี
เมื่อพบกันตำรวจนายนี้มาในชุดนอกเครื่องแบบพร้อมผู้หญิงอีกหนึ่งคน โดยไม่ทราบว่าเป็นใครรวม 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดคุยย้ำถึงเรื่องกิจกรรมวันที่ 24 มิ.ย. อีกครั้ง แต่สุวรรณาก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่มีการจัดกิจกรรมในนามของกลุ่ม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้สอบถามถึงกิจกรรมของเพจ “หมุดคณะราษฎร” ที่ในกำหนดการจะมีการนัดรวมตัวที่หมุดคณะราษฎร เธอก็ยืนยันกับตำรวจว่าไม่ใช่กิจกรรมของกลุ่ม 24 มิถุนาฯ ถ้าเป็นของทางกลุ่ม ก็จะระบุชัดเจนว่าเป็นของทางกลุ่มจัดเอง หลังการพูดคุยเจ้าหน้าที่ตำรวจขอถ่ายภาพเพื่อรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนแยกย้ายกันกลับ วันเดียวกันญาติของสุวรรณาโทรศัพท์บอกอีกว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่บ้านเก่าของเธอที่จังหวัดชัยนาทด้วย แม้ว่าบ้านหลังดังกล่าวจะเป็นบ้านร้างที่ประกาศขายไปแล้วก็ตาม
คล้ายกันกับกรณีที่เกิดขึ้นกับ ชลิตา บัณฑุวงศ์ รองหัวหน้าภาควิชา ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะ
อนุสรณ์จึงออกไปดู ก่อนเข้าไปทำการเคาะรถและเรียกให้ลงมาคุย ปรากฎว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบฯ 3 นาย ซึ่งแต่ละคนแต่งกายกันคนละบุคลิก คนหนึ่งแต่งตัวเหมือนช่างรับเหมา คนหนึ่งใส่ชุดกีฬา คนหนึ่งดูภูมิฐานเป็นผู้ใหญ่ มาสอบถามเรื่องงาน 24 มิ.ย. พยายามถามว่าพรุ่งนี้อาจารย์จะไปร่วมงานไหนบ้าง เนื่องจากทางตำรวจถูก คสช. สั่งให้มาหาข่าว และต้องติดต่ออนุสรณ์ ให้ได้ก่อนเที่ยงวันนี้
ด้าน อานนท์ นำภา ทนายความ ยังได้เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ก่อน ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล โทรศัพท์ติดต่อมาสอบถามว่าวันที่ 24 มิ.ย. นี้ จะมีการจัดกิจกรรมอะไรหรือไม่ เจ้าหน้าตำรวจได้รับแจ้งมาจากทหารว่าไม่อยากให้จัดกิจกรรมใดๆ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า จุดที่เคยมีหมุดคณะราษฏร ทางทนายอานนท์ได้ตอบกลับไปว่า ไม่มีการจัดกิจกรรมใด เนื่องจากช่วงนั้นตนเองจะเดินทางออกต่างจังหวัด จนล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ได้มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายสายสืบ โทรศัพท์ติดต่อมายังทนายอานนท์ โดยระบุว่า ทราบข่าวว่าวันที่ 24 มิ.ย. ทนายอานนท์จะทำการเดินทางไปต่างจังหวัด ไม่ได้ไปจัดกิจกรรมใดๆที่หมุดคณะราษฏร จึงอยากให้ทนายอานนท์ทำการส่ง Location ไปให้ตนหน่อย เพื่อที่จะได้รายงาน “นาย”
นอกจากกรณีข้างต้น ศูนย์ทนายความฯ ยังได้รับทราบข้อมูลอีกว่า ยังมีนักกิจกรรมที่ถูกตำรวจโทรศัพท์ติดตามโดยระบุถึงเรื่องกิจกรรมในวันที่ 24 มิ.ย. อีกอย่างน้อย 4 ราย ได้แก่ ณัฐพัช อัคฮาด ธนพล พันธ์งาม และนักกิจกรรมที่ไม่ประสงค์ออกนามอีก 2 คน โดย 1 ใน 2 เพียงแค่กดเข้าร่วมกิจกรรมในเฟซบุ๊กของเพจ “หมุดคณะราษฎร” แต่ก็มีบางรายที่ถูกตำรวจไปหาที่บ้านของครอบครัวด้วย เช่น กันต์ แสงทอง และชลธิชา แจ้งเร็ว แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่พบไม่ได้พบตัวโดยตรง และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้บอกเหตุผลที่มากับคนในครอบครัว
ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานเพิ่มเติ่มด้วยว่า ได้รับแจ้งจาก อภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ ว่า ค่ำวันนี้(23 มิ.ย.) เขาเดินทางกลับมาถึงหอพัก ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหอพักว่า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ได้มีชาย 2 คน แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาหาเขาที่หอพัก แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่อนุญาตให้เขาไปในหอพัก ชายทั้งสองคนจึงบอกว่า ช่วงกลางคืนจะมาอีกครั้ง และต่อมาเมื่อ 19.00 น. ทั้งสองคนกลับมาอีกครั้งโดยจะขอขึ้นหอพักเพื่อไปพบกับเขาที่ แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่อนุญาต เนื่องจากเจ้าของห้องไม่ได้เป็นคนพาขึ้นไปด้วย
ขณะที่ ธนพล พันธ์งาม นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์สเตตัสเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงกรณีการถูกคุมคามว่า วันนี้เวลา 14.00 น.ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครืองแบบ 4 นาย เข้าไปหาเขาที่บ้านระหว่างตนเองไม่ได้อยู่ที่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้พบกับยาย และพยายามถามข้อมูลส่วนตัวของเขาเช่น อยู่กับใครบ้าง เวลากลับบ้านคือกี่โมง แม่ทำงานที่ไหน จากนั้นขอถ่ายรูปกับยาย ก่อนจะออกไป
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบ แม่ของเขาที่สถานที่ทำงาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้หัวหน้างานเรียกแม่ของเข้ามาพบ แล้วถามว่า ลูกเป็นคนอย่างไร ชอบคุยเรื่องอะไรบ้าง เคยเล่าเรื่องที่ไปชุมนุมทางการเมืองให้ฟังไหม จากนั้นแม่ของเขาได้ถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบได้อย่างไรว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหน และเขาทำงานที่ไหน คำตอบของเจ้าหน้าที่คือ “ได้ข้อมูลมาจากที่มหาวิทยาลัยน้องเขาให้มา”
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)