Skip to main content
sharethis

ชูวิทย์ โต้ 'เนติวิทย์' เรียนหนังสือไม่ใช่รับใช้ชาติ แต่รับใช้ตัวเอง อัดหากจะไม่รับใช้ชาติ ก็อย่าไปชักชวนคนอื่นเลย มันเสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ด้าน 'ปวิน' ผิดหวังชูวิทย์ ชี้ทุกอาชีพก็รับใช้ชาติ ยันไม่เป็นทหารก็ฝึกวินัยตัวเองได้

ที่มาภาพ Voice TV 

4 เม.ย.2560 รายงานข่าวระบุว่า วันนี้ (4 เม.ย.60) เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล อายุ 21 ปี นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไทและเป็นหนึ่งเคลื่อนไหวคัดค้านการเกณฑ์ทหาร ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้เดินทางมาพร้อมเอกสารในการขอผ่อนผันในการคัดเลือกการเกณฑ์ทหาร ที่ศาลาอเนกประสงค์ สนามกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ ซอยวัดราษฎร์โพธิ์ทอง ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยได้นำเอกสารหนังสือรับรองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมายื่นขอผ่อนผัน ซึ่งครั้งนี้ขอผ่อนผันเป็นครั้งแรก

เนติวิทย์ ได้เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำเอกสารมาขอผ่อนผัน โดยสาเหตุที่ต้องมาผ่อนผันนั้นเนื่องจากว่าตนกำลังรับใช้ชาติด้วยการทำหน้าที่เรียนหนังสือ และยังเห็นว่าในการเข้ามารับการเกณฑ์ทหารมันไม่มีประโยชน์สำหรับตน เพราะคนอย่างตนควรไปรับใช้ชาติอย่างอื่นและไม่เคยเห็นด้วยกับการเกณฑ์ทหารตั้งแต่อายุ 16 ปีแล้ว และยังเสียใจว่าตนเองไม่ยอมเรียนหลักสูตรวิชาทหาร หรือ รด. แต่การเข้าเรียน รด.เองก็พบว่ายังมีการรับเงินเมื่อมีการสอบไม่ผ่านและคิดว่ามันเป็นระบบคอร์รัปชั่นขนาดใหญ่ ส่วนที่ตนเองใช้สิทธิการผ่อนผันหมดก็จะคิดต่อไปว่าจะทำอย่างไร

"ตอนนี้ผมกำลังรับใช้ชาติอยู่ก็เลยต้องผ่อนผัน เพราะว่าผมมีหน้าทีที่จะต้องเรียกหนังสือตอนนี้ และผมก็ยังเห็นว่าการที่ผมมาเกณฑ์ทหารนี่มันไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับผมอยู่แล้ว คนสำหรับผมควรจะไปรับใช้ชาติในสิ่งที่มันเหมาะสม เหมือนกับคนอื่นๆ ด้วย ซึ่งมีความสามารถหลากหลายแตกต่างกันไป" เนติวิทย์ กล่าว
 
“ถึงเวลาแล้วที่ประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้ การที่นำคนหลายแสนคนมาเกณฑ์ทหาร ตนว่าหมดยุคหมดสมัยไปนานแล้ว ซึ่งมันเป็นระบบที่เกิดขึ้นเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว และในยุคนี้ยังมีอะไรที่ต้องท้าทายโลกมากกว่านี้ที่จะต้องส่งคนไปเข้าใจโลกมากกว่านี้ การเกณฑ์ทหารเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์” เนติวิทย์ กล่าว พร้อมระบุด้วยว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือทบทวนว่า เอาคนแสนคนไปทำอะไร ตอนนี้สิ่งที่เราต้องการคือคนสร้างสันติภาพ เราลงทุนทางการศึกษา แต่กลับให้ลูกหลานของเรามาเป็นเกณฑ์ทหารอยู่ 2 ปี หรือ 6 เดือน
 
เนติวิทย์ กล่าวอีกว่า คิดว่าหากยกเลิกการเกณฑ์ทหารต้องศึกษาวิจัยมีและผลักดันให้มีการแก้กฎหมายแต่ต้องรอรัฐธรรมนูญประกาศใช้ก่อนถึงจะรู้ว่าประเทศไทยจะเดินหน้าไปอย่างไร เรื่องเกณฑ์ทหารเป็นเรื่องที่ใหญ่มากเพราะมันเกี่ยวพันกับผลประโยชน์และชีวิตคนจำนวนมาก และคนเป็นแสนคนเราจะควบคุมยังไงที่จะไม่ให้ความรุนแรงมันเกิดขึ้น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ และถ้าจะต่อสู้เรื่องนี้ เราต้องรณรงค์ให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารและทำให้กองทัพเราดีขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น หันมาใช้ระบบอาสาสมัครและจัดให้มีสวัสดิการคนที่เป็นทหารอย่างดี
 
ส่วนกรณีที่ที่พลทหารถูกซ้อมจนเสียชีวิตนั้น เนติวิทย์ กล่าว ตนขอขอบคุณที่ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมาขอโทษ ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงความจริงใจอย่างมาก แต่ว่าการขอโทษก็ยังไม่พอ ลูกหลานคนอื่นที่เข้าไปอาจจะโดนอีก ระบบต้องตรวจสอบได้และเข้าถึงได้ ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องทบทวนเลยว่าเอาคนแสนคนไปทำอะไร

ชูวิทย์ โต้รียนหนังสือไม่ใช่รับใช้ชาติ แต่รับใช้ตัวเอง 

ด้าน ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'ชูวิทย์ I'm Back' ว่า อย่าเข้าใจผิดไอ้หนู หากตัวเองไม่อยากรับใช้ชาติก็อย่าไปชวนคนอื่นเลย

ชูวิทย์ ระบุว่า การเกณฑ์ทหารเป็นวิถีชีวิตของลูกผู้ชาย ได้ฝึกวินัยและเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา ส่วนการเรียนหนังสือไม่ใช่การรับใช้ชาติ แต่เป็นการรับใช้ตัวเองและครอบครัว ประเทศที่ประสบความสำเร็จล้วนต้องมีวินัย ทั้งในครอบครัว การทำงาน สังคม และประเทศชาติ หากปราศจากวินัยแล้ว ไม่มีใครทำอะไรสำเร็จสักอย่าง

"อีกทั้งการเกณฑ์ทหารเป็นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง ถ้าสมัครก็เพียง 6 เดือน ถือว่าน้อยมากสำหรับวัยหนุ่มที่ต้องค้นหาตัวเอง หากจะไม่รับใช้ชาติ ก็อย่าไปชักชวนคนอื่นเลย มันเสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย" ชูวิทย์ ระบุ

ปวิน ผิดหวังชูวิทย์ ชี้ทุอาชีพก็รับใช้ชาติ

ขณะที่ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ได้แสดงความเห็นโต้ชูวิทย์ด้วยว่า การเกณฑ์ทหารเป็นวิถีลูกผู้ชาย ยังไงไม่ทราบ ฝึกวินัยและเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาหรือ ไม่เป็นทหารก็ฝึกวินัยตัวเองได้ อย่างลุงติดคุก ยังไปฝึกวินัยในคุกได้ ไปเกณฑ์ทหาร สุดท้ายก็ลงเอยที่ต้องไปเป็นคนรับใช้นายพล นี่หรือคือวิถีลูกผู้ชาย ส่วนการเรียนหนังสือทำไมถึงไม่ใช่การรับใช้ชาติ เพราะจบออกมาก็ต้องมาประกอบอาชีพ ทำความเจริญรุ่งเรืองให้ชาติ ลุง(ชูวิทย์)เคยเปิดอาบอบนวด แม้ลุงไม่ได้จบปริญญาอาบอบนวด แต่ธุรกิจลุงมันก็ช่วยการไหลเวียนของเศรษฐกิจท้องถิ่นหรือเปล่า อาชีพอะไรก็ช่วยชาติได้ ส่วนเรื่องหากไม่รับใช้ชาติ ก็อย่าไปชวนคนอื่น มันเสียศักดิ์ศรี แค่นี้ลุงยังไม่เข้าใจว่าเนติวิทย์ต้องการอะไร ลุงไม่เข้าใจจริงๆ แล้วอะไรคือศักดิ์ศรี ถูกกระทืบตายในค่ายเป็นการรักษาศักดิ์ศรีด้วยไหม ผิดหวังในตัวลุงมาก
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net