Skip to main content
sharethis


รายงานโดย ศูนย์ข่าวประชาสังคม อุบลฯ

 


 


สืบเนื่องจากสำนักทางหลวงชนบทจังหวัดอุบลราชธานี ได้ออกประกาศแจ้งประชาชนถึงการเวนคืนที่ดินในเขตชุมชนท่าวังหิน เพื่อรองรับการขยายถนนรอบเมืองเชื่อมต่อถึงชุมชนท่ากกแห่บริเวณติดลำน้ำมูล เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในเรื่องของการจราจรและรองรับการขยายตัวของชุมชนเมืองในอนาคต


 


นายบรรพต มั่นจิตร ตัวแทนคณะทำงานในชุมชนท่าวังหิน กล่าวว่า ชุมชนท่าวังหินเป็นชุมชนที่เก่าแก่มีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 100 ปี ที่ดินที่อยู่อาศัยในปัจจุบันได้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ โดยมีหลักฐานเป็นเอกสารสิทธิ์ครอบครองที่ดิน หรือ สค. 1 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 รวมระยะเวลากว่า 50 ปี โดยในปี พ.ศ. 2546 ทางรัฐบาลได้มีนโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมที่ดินได้ตอบสนองนโยบาย โดยการจัดทำแผนปฏิบัติการโครงการเร่งรัดการออกฉโนดที่ดินทั่วประเทศให้แก่ผู้ที่มีหนังสือ สค. 1 ให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี ( 2547 - 2548 ) ซึ่งชุมชนท่าวังหินยังไม่มีบทสรุปในเรื่องดังกล่าว ต่อมาในวันที่ 14 กรกฎาคม 2546 จังหวัดมีหนังสือแจ้งให้ประชาชนติดต่อขอเช่าที่อยู่อาศัยกับทางราชพัสดุ ซึ่งชาวบ้านได้ร่วมกันตั้งคำถามต่อเรื่องนี้ว่า ที่ที่ตนเองอาศัยอยู่ในปัจจุบัน


 


ในขณะที่ปี 2549 ได้มีประกาศแจ้งจากกรมทางหลวงชนบท ถึงการเวนคืนที่ดินชุมชนท่าวังหินและชุมชนใกล้เคียง โดยการติดป้ายประกาศ เพื่อรองรับการสร้างถนนหลวงรอบเมืองเนื้อที่ตั้งแต่ถนนชลประทาน - ท่าบ่อ ลัดเลาะตามเส้นทางบริเวณห้วยม่วง ถึงสำนักงานประปาจังหวัดอุบลราชธานี เชื่อมต่อชุมชนท่าวังหินครอบคุม 45 ครัวเรือน ถึงถนนชวาลาใน


 


 สำหรับการสร้างถนนตามเส้นทางดังกล่าวนั้นทางกรมทางหลวงแจ้งว่า จะมีการขยายถนนเดิมออกด้านข้าง ๆ ละประมาณ 9 เมตร ตั้งแต่ถนนสรรพสิทธิ์ ซอยสรรพสิทธิ์ 11 ( สี่แยกประปา) ถึงสำนักงานประกันสังคม รวมขนาดระยะถนนทั้งข้าง 18 เมตร


 


ต่อเรื่องนี้ชาวบ้านได้มีการหารือและตั้งคณะทำงานเพื่อเรียกร้องสิทธิ์อันชอบธรรม ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยได้ทำหนังสือร้องเรียนไปที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา สำนักงานศาลปกครองกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เพื่อเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งเรื่องดังกล่าวขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิสูจน์สิทธิ์ครอบครองที่ดิน โดยมีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเข้ามาดูแล และได้ร้องขอให้ทางจังหวัดระงับการเวนคืนไว้ชั่วคราวเพื่อพิสูจน์สิทธิ์


 


ขณะที่นายสมร (นามสมมุติ) อาชีพค้าขายชุมชนท่าวังหิน กล่าวในเรื่องนี้ว่า หากมีการเวนคืนที่ดินจริงตนก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน เพราะเกิดและเติบโตที่นี่ หากมีการเวนคืนรัฐน่าจะมีที่ดินจัดสรรที่อยู่อาศัยให้ แต่ก็คิดว่าคนในชุมชนส่วนใหญ่คงรักที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ซึ่งอยากให้ทางราชการเห็นใจและให้ความช่วยเหลือประชาชนในเรื่องดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net