Skip to main content
sharethis

ประชาไท—14 มิ.ย. 2549


 


วันที่ 13 มิ.ย. นายปกครอง สุนทรสุทธิ์ รองเลขาธิการด้านกิจการพรรคการเมือง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเชิญตัวแทนพรรคการเมืองหารือในวันที่ 14 มิ.ย.ว่า การเชิญพรรคการเมืองมาหารือก็เพื่อผลประโยชน์ของพรรคการเมืองเอง ดังนั้นถ้าต้องการปกป้องผลประโยชน์ของพรรคก็ควรส่งตัวแทนมา เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามีปัญหามาก ทั้งเรื่องสมาชิกซ้ำซ้อน และสังกัดไม่ครบ 90 วัน


 


ถ้า กกต.ตรวจสอบพบว่ามีรายชื่อสมาชิกซ้ำซ้อนแล้วลงสมัครรับเลือกตั้ง แม้ได้รับเลือกเข้ามาเป็นอันดับหนึ่งก็ต้องถูกตัดออกไป แต่ กกต.ก็จะถูกต่อว่าจากพรรคการเมืองอีก ดังนั้นเพื่อความชัดเจนจึงอยากให้มาช่วยกันหาแนวทางและทางออก หากตรวจพบว่าเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน


 


สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค กล่าวถึงกรณีที่ กกต. เชิญพรรคการเมืองไปหารือถึงปัญหาสมาชิกพรรคซ้ำซ้อนว่า พรรคมอบหมายให้นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช นายทะเบียนพรรค ไปร่วมประชุม ถือเป็นเรื่องดีที่จะได้สะสางปัญหาการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อน เพราะบางคนเคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหลายพรรค ทำให้มักมีปัญหาเวลาลงสมัคร ส.ส. ซึ่งกรณีดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกันหลายเรื่อง เช่น การให้เงินอุดหนุนพรรคการเมืองของ กกต. จะนำตัวเลขสมาชิกพรรคมาเป็นส่วนหนึ่งในการคำนวณ ดังนั้น กกต.ต้องตัดส่วนนี้ออกไป


 


ส่วนพรรคไทยรักไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ไปเองพร้อมกับนายสมาน เลิศวงศ์รัตน์ นายทะเบียนพรรคไทยรักไทยเพื่อเข้าร่วมประชุมตามคำเชิญของ กกต.


 


สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าพรรคการเมืองต่าง ๆ มีสมาชิกซ้ำซ้อนจำนวนมากนั้น ในส่วนของพรรคไทยรักไทยก่อนการรับสมาชิกพรรคเราได้ตรวจสอบทุกอย่างตามข้องบังคับแล้ว แต่บังเอิญว่ากฎหมายพรรคการเมืองฉบับปัจจุบันไม่ได้เขียนห้ามว่าบุคคลต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเดียวเท่านั้น ดังนั้นทางพรรคจึงไม่อาจทราบได้ว่าสมาชิกพรรคไทยรักไทยไปซ้ำซ้อนกับพรรคอื่นหรือไม่ ในการประชุมคงมีการเรียกถามจากจากนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่คิดว่า กกต. คงให้ความสนใจสมาชิกที่คาดว่าจะเป็นผู้สมัคร ส.ส.มากเป็นพิเศษ


 


ส่วน กกต. เองหลังจากเผชิญวิกฤติศรัทธาจากทุกสารทิศ มีรายงานข่าวแจ้งว่า กกต. มีมติเห็นชอบให้มีการปรับโครงสร้างการบริหารงานองค์กรใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เชื่อมั่นของสังคมที่มีต่อ กกต. โดยขณะนี้ให้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการปรับโครงสร้าง มีเลขาธิการ กกต. เป็นประธาน โดยไปร่วมหารือและรับฟังความคิดเห็นจากเลขานุการประธานศาลฎีกา เนื่องจากต้องการขอความร่วมมือและขอรับการสนับสนุนบุคลากรมาร่วมปฏิบัติงาน


 


ทั้งนี้ แนวคิดการปรับโครงสร้างองค์กรดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ที่ประชุมประมุข 3 ศาลเห็นว่าการจัดการและควบคุมการเลือกตั้งเมื่อ 2 เม.ย. ที่ผ่านมาไม่สุจริตเที่ยงธรรมและเรียกร้องให้กกต.เสียสละด้วยการลาออก นายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต. จึงได้เสนอแนวคิดการปรับโครงสร้างองค์กรโดยจะให้ศาลฎีกาได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานของกกต. ต่อที่ประชุมหารือร่วมกับพรรคการเมืองเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งที่เหมาะสมหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยสั่งเพิกถอนการเลือกตั้ง 2 เม.ย. ด้วยหวังว่าจะสามารถลดกระแสกดดันให้กกต.ลาออกได้


 


อย่างไรก็ตามในขณะนั้นยังไม่ได้มีการเสนอรูปแบบของการปรับโครงสร้างที่ชัดเจน จึงมีการมอบหมายให้ฝ่ายวิชาการสำนักงาน กกต.ไปพิจารณารูปแบบที่เหมาะสมและเสนอที่ประชุม กกต.พิจารณา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net