ดัน "ทักษิณ" ตั้งกก.เฉพาะกิจฯ ร่าง "พ.ร.บ.ดับไฟใต้"

วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2006 14:16น.


ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

 

 

กอส.ในพื้นที่เสนอรัฐบาลรักษาการดึงภาคประชาชนร่วมตั้งกก.เฉพาะกิจ ร่างกม.ดับไฟใต้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเพื่อร่างกม.ที่เป็นประโยชน์กับคนในพื้นที่ ก่อนนำเสนอต่อสังคมและรัฐบาลให้ความเห็นชอบอีกชั้นหนึ่ง รับหวั่นใจรัฐดองเรื่องไม่สานต่องาน กอส. แต่ยืนยันยังเดินหน้าทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่องแม้ว่า จะไม่มีองค์กรมารองรับเคลื่อนข้อเสนอ

 

"สิ่งที่รัฐบาลต้องทำต่อไปคือ การตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อร่างพ.ร.บ.ดับไฟใต้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่เป็นอันดับต้น ก่อนจะรับฟังความเห็นจากประชาชนทั่วประเทศในช่วงท้าย" นายโสภณ สุภาพงษ์ รักษาการสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพฯ อดีตคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.)กล่าว

 

ทั้งนี้มาตรการเมืองสมานฉันท์ซึ่งเสนอให้มีการตราพระราชบัญญัติสันติสมานฉันท์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (พ.ร.บ.ดับไฟใต้)นั้น เป็นหนึ่งในข้อเสนอ "เอาชนะความรุนแรงด้วยพลังสมานฉันท์" ซึ่งคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) นำเสนอต่อรัฐบาลเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเสนอให้ตั้งองค์กรเพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 องค์กรคือ ศูนย์อำนวยการยุทธศาสตร์สันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศยส.), สภาพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และกองทุนสนับสนุนการเยียวยาและสมานฉันท์

 

เขาเห็นว่า คณะกรรมการชุดกล่าว ไม่ควรเป็นคนพื้นที่เพื่อป้องกันการถูกคุกคามจากอำนาจต่างๆ แต่ควรเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ มีความจริงใจในการแก้ปัญหาจังหวัดชายภาคใต้

 

นายโสภณเห็นว่า ภายใน 15 วัน รัฐบาลน่าจะพิจารณาตอบรับข้อเสนอของกอส.ว่า จะดำเนินการหรือไม่อย่างไร ซึ่งหากไม่มีความคืบหน้าภาคประชาชนจำเป็นต้องคิดต่อว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป

 

เขายังเห็นว่า แม้รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ประชาชนสามารถรวมชื่อ 50,000 รายชื่อ เพื่อเสนอกฎหมายได้ แต่เสียเวลามากอีกทั้งขั้นตอนยุ่งยากพอสมควร ดังนั้นการเสนอกฎหมายควรเป็นหน้าที่ของรัฐบาล หรือพรรคการเมือง

 

"โดยส่วนใหญ่ของข้อเสนอกว่า 70% ของกอส. อาทิ หน่วยสันติเสนา สามารถดำเนินการได้ แต่เฉพาะการร่าง พ.ร.บ.ดับไฟใต้ โดยใช้อำนาจรัฐบาลรักษาการนั้น ผมไม่เห็นด้วยเพราะถือเป็นการใช้อำนาจจากข้างบน ต้องไปฟังคนในพื้นที่แล้วฟังคนทั้งประเทศว่าคิดอย่างไร เพื่อที่จะได้กฎหมายที่ช่วยเหลือคนได้จริง"

 

อดีตกรรมการกอส.กล่าวว่า ในส่วนของกอส.ซึ่งยุติบทบาทไปแล้วนั้น ยังเหลือส่วนของกองทุนเยียวยาซึ่งแยกส่วนจากกอส.อย่างชัดเจน และดำเนินการต่อเนื่องอยู่ ส่วนการขับเคลื่อนในลักษณะเครือข่ายเดิมของกรรมการกอส.ในพื้นที่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้หารือกัน

 

นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ อดีตประธานสหพันธ์ครูจังหวัดยะลาและอดีตคณะอนุกรรมการส่งเสริมพลังความหลากหลายทางวัฒนธรรมในสังคมไทย กอส.ให้ความเห็นสอดคล้องว่า ควรจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรม การเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลการร่าง พ.ร.บ.ดับไฟใต้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่และต้องการความรอบด้านมากที่สุด

 

อย่างไรก็ดี เขายอมรับว่า หากรัฐบาลไม่สนใจ และงานการเมืองไม่ก้าวหน้าเพียงพอ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวก็แทบไม่มีประโยชน์ในทางปฏิบัติ

 

"มีทิศทางที่ดี แต่ไม่แน่ใจว่าฝ่ายการเมืองจะนำไปใช้จริง หรือนำไปใช้แค่ไหน ที่ผ่านมาผมมองว่า งานการเมืองไม่ก้าวไปข้างหน้าเลย เช่น ยุทธการ การทหาร การต่างประเทศ ในส่วนของต่างประเทศยอมรับว่ารัฐบาลทำได้ดีส่วนหนึ่ง แต่ในส่วนของการทหารแทบจะไม่คืบหน้าเลย ส่วนที่ กอส.เคยนำ เสนอไม่พบว่าเคยนำไปใช้ ผมมองว่า นี่แหละคือปัญหาสำคัญในระยะแรกรัฐบาลค่อนข้างเน้น แต่ปัจจุบันแทบจะไม่เขยื้อน"

 

ทั้งอดีตประธานสหพันธ์ครูยะลามองว่า เหตุการณ์ความไม่สงบจะจบหรือไม่ ปัจจัยชี้ขาดอยู่ที่งานการเมืองเท่านั้น ซึ่งข้อเสนอกอส. ฉบับปัจจุบันจะเน้นแนวทางการแก้ปัญหาแนวสันติวิธีและการสร้างความสมานฉันท์ ถือเป็นเอกสารที่ค่อนข้างสมบูรณ์และเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง เพียงแต่ฝ่ายความมั่นคงต้องเป็นฝ่ายนำไปใช้เท่านั้น จึงจะประสบความสำเร็จ

 

 "พ.ร.บ.ดับไฟใต้ เปรียบเหมือนกับการวินิจฉัยโรคของหมอและแนวทางและยาที่จะใช้รักษา เมื่อวินิจฉัยได้แล้ว และรู้วิธีรักษาแล้ว ต้องรีบดำเนินการรักษา หาไม่นำมาใช้ เมื่อปัญหาลุกลามไปมากกว่านี้ ศึกษาเพิ่มเติมและหาแนวทางแก้ปัญหา ใน พ.ร.บ.ดับไฟใต้ มีการแก้ไขปัญหาระยะสั้นและระยะยาว สามารถนำมาใช้ได้ เป็นแนวทางที่ได้ศึกษาปัญหามาอย่างละเอียดและเป็นที่ยอมรับของหลายๆฝ่าย เพราะการศึกษาปัญหาของ กอส.กว่าจะออกมาเป็น พ.ร.บ.ดับไฟใต้ เน้นไม่ให้กระทบกระเทือนต่อสังคมส่วนรวม"น.พ.อนันตชัย ไทยประธาน อดีตคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ในพื้นที่ กล่าว

 

อย่างไรก็ดี น.พ.อนันตชัยไม่แน่ใจว่า รัฐบาลจะเห็นด้วยและนำข้อเสนอทั้งหมดของกอส.มาใช้จริงในการแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นหรือไม่

 

เขากล่าวต่อไปว่า หากรัฐบาลจะนำ พ.ร.บ.ดับไฟใต้มาใช้ ก็ต้องเป็นรัฐบาลเองที่ต้องกำกับดูแล กล่าวคือ หลังจาก กอส.หมดวาระไป จะต้องมีองค์กรที่เข้ามาดูแลขับเคลื่อนต่อจาก กอส. เพราะเมื่อดำเนินการเสร็จแล้วไม่นำมาใช้ก็จะสูญเปล่า

 

"หากต้องการที่จะให้ พ.ร.บ.ดับไฟใต้ ได้รับการพิจารณาจากรัฐบาล หลายๆฝ่ายต้องช่วยกันสร้างกระแสสังคม ทำให้ประชาชนเห็นด้วยกับการนำมาใช้ ส่วนองค์กรอิสระต่างๆ ร่วมถึงสื่อ ก็ต้องช่วยกันผลักดันให้ทางรัฐบาลนำ พ.ร.บ.ดับไฟใต้มาบังคับใช้ เพื่อทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนตัวผมเอง เมื่อหมดวาระจาก กอส. งานในด้านเดิมก็ยังมีอยู่กับองค์กรอิสระอื่นในพื้นที่ อย่างงานด้านสิทธิมนุษยชน เป็นงานที่ผมทำมาอยู่ตลอด" อดีตกก.กอส.ในพื้นที่กล่าว

 

นายอัฮหมัดสมบูรณ์ บัวหลวง นายก อบต.ปูยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี อดีต กอส. ในพื้นที่กล่าว ถึงข้อเสนอของ กอส. ซึ่งเสนอต่อรัฐบาลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า มีอยู่ 2 ส่วนสำคัญคือ หนึ่ง บทบาทของกอส. ชัดเจนว่า เป็นเพียงแค่หาแนวทางเสนอให้รัฐบาลพิจารณาว่าจะดำเนินการหรือไม่ตามแนวที่กอส.ได้เสนอ

 

สอง กอส.มีภารกิจหน้าที่ต่างกันทั้งระดับประเทศและพื้นที่ ซึ่งแต่ละคนที่เห็นว่า แนวทางของ กอส.ที่ถูกนำเสนอ สามารถปรับทำงานเป็นนโยบายแผนงานที่ตนเองทำอยู่แล้ว ก็สามารถดำเนินการได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องรอว่า รัฐบาลจะเห็นชอบหรือไม่เห็นด้วย เช่นบทบาทของตนซึ่งเป็น อบต.หรือเอ็นจีโอ หรือองค์กรที่ไม่ได้อยู่ในภาครัฐก็สามารถดำเนินการได้เลย โดยนำข้อเสนอของ กอส.เป็นแนวทางการทำงาน แต่ถ้าถามว่า รัฐบาลทำหรือไม่ทำในอนาคต เป็นเรื่องของรัฐบาล

 

"ขณะนี้ สื่อสาธารณะได้รับรู้แล้วว่า สิ่งต่างๆที่ กอส.ได้เสนอไม่ใช่นั่งเทียนเขียน แต่เป็นการสรุปจากข้อมูลประสบการณ์ การทำงานที่ได้มีการศึกษา วิจัยซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและประชาชนโดยตรงสำคัญอยู่ที่ว่า รัฐบาลจะนำไปใช้โดยตรงเป็นนโยบายเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยเต็มความสามารถหรือไม่"

 

ต่อข้อถามถึงมีการพูดคุยกันหรือไม่ว่าจะเดินหน้าอย่างไร นายอัฮหมัดสมบูรณ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน เพราะต่างคนต่างทำงานในบทบาทของตนเอง เช่น บทบาทของอาจารย์ในมหาวิทยาลัยก็นำเอาสันติวิธีไปแทรกในกระบวนการศึกษาไปพูดคุยกับประชาชนในเวทีต่างๆ ซึ่งในระดับพื้นที่คุยกันครั้งเดียวเห็นว่าจะต้องมีการดำเนินการต่อถ้าสถานการณ์ยังอึมครึมแบบนี้ รัฐบาลยังเป็นแบบนี้ คงจะต้องมานั่งคุยกันว่าจะทำอย่างไรการที่

 

ส่วนกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ขานรับกับข้อเสนอของ กอส.นั้น นายอัฮหมัดสมบูรณ์ กล่าวว่า ในคณะทำงานกอส.มีนายทหารอยู่หลายคน อย่างน้อยมีอยู่ 3 คน ทั้งระดับแม่ทัพ ปลัดกระทรวง ผู้บัญชาการ แล้วทุกคนก็เห็นด้วย ยิ่งท่าน ผบ.ทบ.มีความเห็นด้วยก็สามารถสั่งการได้เลย

 

"แต่สำคัญที่สุดมันยังไม่เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ชัดเจน เมื่อไม่เป็นนโยบายของรัฐบาลเป็นเพียงนโยบายของผู้บังคับบัญชาซึ่งบางทีในกลไกของรัฐที่อ่อนแอมาตั้งแต่ต้นไม่สามารถเอาไปปฏิบัติได้หรือไม่ได้ทำเลยเอาแต่พูด"

 

"ในสถานการณ์แบบนี้อย่าให้ชาวบ้านต้องออกมาแสดงมากนักแต่สำคัญที่สุดกลไกที่เข้าทำงานในพื้นที่ต้องสร้างความมั่นใจกับประชาชนอย่างไรว่าแนวทางที่ กอส.ได้ดำเนินการนำเสนอเป็นแนวทางเลือกหนึ่งที่จะแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้และสร้างความมั่นใจว่าเรากำลังจะเดินหน้าเพื่อแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี"

 

ทางด้าน ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู ผอ.สถาบันสมุทรรัฐเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มอ.ปัตตานี กล่าวว่า เป็นเรื่องของภาคราชการที่จะต้องไปดำเนินการโดยตรง บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องคงไปทำอะไรไม่ได้เพราะข้อเสนอส่วนใหญ่เป็นของรัฐบาล กอส.ในพื้นที่ไม่มีอำนาจอะไร

 

"ขนาดพูดในฐานะที่เป็น กอส. ยังมีท่าทีที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งถ้าพูดในฐานะอื่นจะเกิดแรงปะทะมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นนักวิการในพื้นที่คงทำได้ในบทบาทการให้ความเห็นโดยผ่านสื่อหรือเวทีให้คำปรึกษาต่างๆ เพื่อกระตุ้นรัฐบาล ส่วนที่จะเอาไปดำเนินการเองคงลำบาก เพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่องนโยบายที่รัฐบาลต้องไปทำ อย่างหน่วยสันติเสนา การใช้ภาษามลายู การใช้ศาลชารีอะห์"

 

อดีตกก.กอส.ในพื้นที่กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อรัฐบาลไม่ทำภาคประชาชน หรือ เอ็นจีโอ จะต้องกดดันให้เกิดสันติสุขให้ได้ ซึ่งตนก็เป็นห่วงว่า ถ้าฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยและมีการแปลความหมายเป็นเรื่องอื่น ก็จะเกิดการปะทะซึ่งจะกลายเป็นอีกปัญหาหนึ่งในอนาคต

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท