Skip to main content
sharethis

8 ธ.ค. 2559 จากกรณีเว็บไซต์และเฟซบุ๊กแฟนเพจบีบีซีไทย ได้รายงานพระราชประวัติรัชกาลที่ 10 จนได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางเนื่องจากเขียนเล่าเรื่องที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากสื่ออื่นๆ ในโลกของ “ภาษาไทย” ต่อมาได้เกิดโจมตีบีบีซีไทยและตัว บก.คนไทย ทั้งจากเซเลปและสำนักข่าว จากนั้น จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ 'ไผ่ ดาวดิน' นักกิจกรรมผู้มีบทบาทในการเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหาร ซึ่งแชร์รายงานดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมคัดลอกข้อความบางส่วนจากรายงานดังกล่าวมาโพสต์ประกอบด้วย ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ซึ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในวันต่อมา ด้วยหลักทรัพย์ประกันตัว 400,000 บาท (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ล่าสุดวันนี้ (8 ธ.ค.59) เว็บไซต์บีบีซี รายงานว่า โฆษกของบีบีซีชี้แจงข่าวนี้ว่า "การก่อตั้งบีบีซีไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข่าวสารอย่างไม่เลือกข้าง มีความเป็นอิสระ และถูกต้อง ในประเทศที่สื่อมวลชนต้องเผชิญกับข้อจำกัด และเรามั่นใจว่าบทความชิ้นนี้ไม่มีสิ่งใดที่ขัดต่อหลักปฏิบัติในการเสนอข่าวบีบีซี"

ที่มา เว็บไซต์บีบีซี 

สื่อทั่วโลกพร้อมใจเสนอข่าวรัฐบาลไทยเตรียมดำเนินคดีบีบีซี

นอกจากนี้ บีบีซี ยังรายงานด้วยว่า  สื่อทั่วโลกพร้อมใจเสนอข่าวรัฐบาลไทยเตรียมดำเนินคดีบีบีซี โดยระบุว่าสำนักข่าวหลักระดับโลก ได้แก่ รอยเตอร์ ของอังกฤษ เอพี ของอเมริกา และ เอเอฟพี ของฝรั่งเศส ต่างรายงานคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถึงความพยายามของทางการไทยในการดำเนินคดีกับเว็บไซต์ของบีบีซีไทย ในข้อหาเผยแพร่เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ผิดมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา ที่ว่าด้วยการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พระราชินี และองค์รัชทายาท 

'ประวิตร' แจงจะปิดบีบีซีต้องว่าไปตามกฎหมาย 

วันเดียวกัน กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานว่า พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการดำเนินการกับเว็ปไซดต์บีบีซีไทย ที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสถาบัน จะสามารถปิดได้หรือไม่ว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบดูก่อน ไม่ใช่จะไปบอกว่าให้ปิดหรือไม่ปิด ต้องว่าไปตามกฎหมาย 

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเท็จจริงกรณีมีการเผยแพร่ภาพสำนักงานบีบีซีไทยถูกถอดป้ายออกเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สื่อต้องไปดูว่าเป็นอย่างไรตนยังไม่เห็นอะไร ส่วนมีเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยกับ บีบีซีไทยหรือยังนั้นตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ อะไรที่ไม่ถูกกฎหมายต้องดำเนินการเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ไม่ทำไม่ได้ ตนสั่งไปหมดแล้วอะไร ทำให้เกิดความขัดแย้งและเป็นเรื่องผิดกฎหมายจะต้องดำเนินการในทุกเรื่องทุกคนไม่ละเว้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งความคืบหน้าเข้ามา 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานข่าวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงใต้ดิน กลับมาจัดรายการวิทยุผ่านทางประเทศลาวได้อีกครั้งจริงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีการจัดรายการวิทยุแบบเก่า ถ้ามีก็จะแจ้งไปทางประเทศลาวเพื่อจัดการอีก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตรวจสอบอยู่แล้ว แต่คงมีการเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊คเล็กน้อยซึ่งเราก็ประสานงานในการดำเนินการตลอด

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net