ยกเลิกสร้างบ้านธนารักษ์ประชารัฐที่เชียงใหม่-หลังชุมชนค้านเพราะกระทบพื้นที่สีเขียว

หลัง 15 สถานศึกษา-องค์กรชุมชนย่าน ถ.เจริญประเทศ จ.เชียงใหม่ ค้านก่อสร้างคอนโดในโครงการ "บ้านธนารักษ์ประชารัฐ" หวั่นกระทบชุมชน เสนอเก็บไว้เป็นปอดของเมืองเชียงใหม่ พัฒนาเป็นสวนสาธารณะที่ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน ล่าสุด อธิบดีกรมธนารักษ์แถลงยกเลิกแล้ว โดยจะพัฒนาเฉพาะที่ดินในกรุงเทพฯ 2 แปลง และชะอำ 2 แปลง

(ซ้าย) จักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์  (ที่มา: แฟ้มภาพ/ไทยพับลิก้า) และ (ขวา) แผนที่แสดงที่ดินกรมธนารักษ์ (ที่มา: Google Maps) ที่วางแผนสร้างคอนโดมิเนียมของโครงการ "บ้านธนารักษ์ประชารัฐ" ล่าสุดอธิบดีแถลงยกเลิกแล้ว หลังชุมชนค้าน เพราะจะกระทบพื้นทีสีเขียวผืนใหญ่บน ถ.เจริญประเทศ

 

15 ส.ค. 2559  หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน ตัวแทนจาก 15 องค์กร ประกอบด้วย โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย โรงเรียนพระหฤทัยเชียงใหม่ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย (แผนกประถม) โรงเรียนสวนเด็กเชียงใหม่ ชุมชนย่านถนนเจริญประทศ ย่านช้างคลาน และชุมชนใกล้เคียง ร่วมกันลงนามความร่วมมือทำหนังสือคัดค้านและเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ของกรมธนารักษ์ เพราะจะกระทบการใช้พื้นที่ซึ่งมีปัญหาการจราจร โดยเสนอให้เก็บไว้ให้เป็นพื้นที่สีเขียว เป็นปอดของเมืองเชียงใหม่ และเสนอให้พัฒนาเป็นสวนสาธารณะ หรือแหล่งเรียนรู้ที่ประชาชนทั่วไปสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้นั้น

ล่าสุดในรายงานของ ไทยรัฐออนไลน์ นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ แถลงยกเลิกการก่อสร้างคอนโดมิเนียมขนาด 600-700 ยูนิต ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 พื้นที่นำร่องในโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ เนื่องจากชุมชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วย เพราะกลัวว่าจะมีปัญหาเรื่องการจราจรและพื้นที่สีเขียว ทำให้ในขณะนี้เหลือที่ดิน 4 แปลงที่ยังเดินหน้าต่อไปตามแผน คือ ที่กรุงเทพ 2 แปลง และชะอำ 2 แปลง ทั้งนี้ จะมีการเจรจากับบริษัทอารียาฯ ที่ชนะประกวดแบบในพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าเอกชนจะเข้าใจและไม่มีการฟ้องร้องค่าเสียหาย

จากข้อมูลใน เว็บไซต์รัฐบาลไทย สำหรับโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ มีกรอบการดำเนินโครงการในหลักการเดียวกับกรอบการดำเนินโครงการบ้านประชารัฐตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559 โดยมีวัตถุประสงค์ 1. ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองบนที่ดินราชพัสดุ ในระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท 2. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมีที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว 3. เพื่อให้ผู้ที่ต้องการซ่อมแซมและหรือต่อเติมที่อยู่อาศัยที่ปลูกสร้างบนที่ดินราชพัสดุในวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาท 4.เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศผ่านการพัฒนาโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์

โดยประเภทที่อยู่อาศัย ที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่ปลูกสร้างบนที่ดินราชพัสดุที่มีราคาไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อหน่วย รวมถึงการซ่อมแซมและหรือต่อเติมที่อยู่อาศัยที่ปลูกสร้างบนที่ดินราชพัสดุที่มีวงเงินไม่เกิน 500,000 บาทต่อหน่วย โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน รวมทั้งผู้ที่ต้องการซ่อมแซมและหรือต่อเติมที่อยู่อาศัยที่ปลูกสร้างบนที่ดินราชพัสดุ โดยจะให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสินทำหน้าที่คัดกรองคุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ

ทั้งนี้มีการกำหนดโครงการนำร่องปี พ.ศ. 2559 บนที่ดินราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองของกรมธนารักษ์ จำนวน 6 แปลง เนื้อที่ 105 ไร่ 86 ตารางวาง  ดังนี้

แปลงที่ 1 เลขทะเบียน กท. 5050 ที่ตั้ง แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ขนาด 3 ไร่ 10 ตารางวา
แปลงที่ 2 เลขทะเบียน กท. 2615 ที่ตั้ง แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ขนาด 2 ไร่ 1 งาน 48 ตารางวา
แปลงที่ 3 เลขทะเบียน ชม. 35 และ 1698 ที่ตั้ง ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขนาด 9 ไร่ 3 งาน 33 ตารางวา
แปลงที่ 4 เลขทะเบียน อ.ชร. 31 ที่ตั้ง ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ขนาด 30 ไร่
แปลงที่ 5 เลขทะเบียน พบ. 260 ที่ตั้ง ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ขนาด 29 ไร่ 3 งาน 95 ตารางวา
แปลงที่ 6 เลขทะเบียน พบ. 261 ที่ตั้ง ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ขนาด 30 ไร่

สำหรับโครงการบ้านประชารัฐธนารักษ์ เชียงใหม่ เบื้องต้นกำหนดจะทำการก่อสร้างเป็นอาคารชุด หรือคอนโดมิเนียม รวมจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 480-600 หน่วย แต่ละหน่วยมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 32 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละประมาณ 600,000 บาท และจะเปิดจอง 19 ส.ค.นี้ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้จะเป็นข้าราชการ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่มีรายได้น้อย เนื่องจากที่ดินแปลงนี้อยู่ในเขตสีน้ำเงินของผังเมือง ที่กำหนดการใช้ประโยชน์เพื่อสถาบันราชการ การศาสนา การศึกษาและการสาธารณูปโภค กระทั่งมี 5 โรงเรียน และชุมชน 3 แห่ง และประชาชนในพื้นที่ ร้องเรียนว่ามีผลต่อชุมชน และพื้นที่สีเขียว จนนำมาสู่การยกเลิกในที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท