กสท.จ่อโหวตลงโทษช่องข่าว 'สปริงนิวส์-วอยซ์ทีวี' ขัด ม.37-ประกาศ คสช.

1 ส.ค. นี้ กสท. พิจารณาเรื่องร้องเรียนรายการ Face Time ตอน “ดราม่า... “เนติวิทย์ เด็กเกรียนหรือหัวก้าวหน้า ไม่หมอบกราบ พิธีถวายสัตย์” สปริงนิวส์ และ Tonight Thailand ว่าขัด ม.37 และประกาศ คสช. หรือไม่ ด้าน 'สุภิญญา' ชี้ยิ่งเซ็นเซอร์ทีวีดิจิตอลยิ่งย่ำแย่
 
30 ก.ค. 2559 นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ครั้งที่ 25/2559 วันจันทร์ที่ 1สิงหาคม นี้ มีวาระการประชุมน่าจับตา ได้แก่ การพิจารณาเรื่องร้องเรียน การตรวจสอบพบการออกอากาศรายการเผชิญหน้า Face Time ทางโทรทัศน์ช่องสปริงนิวส์ เมื่อวันพุธที่ 20 ก.ค. 59 เวลา 20.13 – 20.53 น. มีเนื้อหาไม่เหมาะสมอาจขัดต่อมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 โดยในรายการได้มีการสัมภาษณ์นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หัวข้อ “ดราม่า... “เนติวิทย์ เด็กเกรียนหรือหัวก้าวหน้า ไม่หมอบกราบ พิธีถวายสัตย์” ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ ได้เชิญตัวแทนช่องสปริงนิวส์มาชี้แจงข้อเท็จจริงในที่ประชุม ซึ่งเหตุผลการนำเสนอประเด็นนี้เนื่องจากมีความเกี่ยวพันกับสังคมวงกว้าง โดยเมื่อหลังจากออกอากาศแล้วทางช่องได้ตัดสินใจดำเนินการหยุดออกอากาศทางสื่อออนไลน์ รวมทั้งหยุดรายการและยกเลิกการออกอากาศรายการ และต่อมาออกอากศอีกครั้งโดยเปลี่ยนตัวผู้ดำเนินรายการและสัมภาษณ์เรื่องทั่วไป รวมทั้งมีการตั้งกรรมการเพื่อตรวจสอบต่อไป ซึ่งอนุกรรมการเสนอลงโทษปรับทางปกครอง อัตรา 50,000 บาท พร้อมทั้งระงับการออกอากาศรายการดังกล่าว เป็นเวลา 3 วัน
 
นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า ทางช่องเองได้มีการเซ็นเซอร์ตัวเองก่อนที่ กสท.จะพิจารณาก็สะท้อนว่าสื่อไทยตกอยู่ภายใต้บรรยากาศแห่งความกลัวอย่างลึกซึ้ง ถ้า กสท.ลงมติว่ากรณีนี้ผิดกฎหมายอีก ยิ่งทำให้ กสทช. กลายเป็นองค์กรเซ็นเซอร์ ย้อนยุคสมัย ส่วนตัวเห็นว่า แม้การสัมภาษณ์อาจารย์สุลักษณ์ ศิวลักษณ์ ในประเด็นดังกล่าวจะมีความหวือหวา แต่เป็นการแสดงทรรศนะของปัญญาชนที่ต้องการสร้างวัฒนธรรมการวิพากษ์ มากกว่าการเชื่อตามๆกันไป  ซึ่งในสื่ออินเทอร์เน็ตก็มีการถกเถียงกันกว้างขวาง  แม้ดิฉันอาจจะไม่เห็นด้วยกับความเห็นของอาจารย์สุลักษณ์ทั้งหมด แต่ยังไม่เห็นว่าล้ำเส้นกฎหมายแต่อย่างใด ทั้งในเรื่องการแสดงออกของนิสิต จุฬาฯ หรือการวิจารณ์บทบาทของทหารในเรื่องการเมือง และ สามจังหวัดชายแดนใต้ 
 
“ถ้าเห็นว่ารายการนำเสนอมุมมองด้านเดียวก็ควรเสนอแนะให้เชิญมุมมองอีกด้านมาออก  แต่ไม่จำเป็นต้องใช้การลงโทษตามมาตรา 37 เพราะจะเป็นการตอกย้ำบรรยากาศการเซ็นเซอร์สื่อให้ตกอยู่ในภาวะความกลัวย้อนยุคไปสมัยทีวีขาวดำยุคแอนะล็อก ทั้งที่งานของ กสทช.คือการส่งเสริมสื่อในยุคดิจิตอลให้เป็นตลาดเสรีทางความคิดของคนในสังคม  การควบคุมความคิดเห็นผ่านสื่อเท่ากับการทำให้สถานภาพทีวีดิจิตอลช่องข่าวสารสาระย่ำแย่ลงไปอีก” สุภิญญากล่าว
 
นอกจากนี้ที่ประชุม กสท. เตรียมถก กรณีช่องวอยซ์ทีวีออกอากาศเนื้อหารายการ Tonight Thailand เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 59 อาจมีลักษณะต้องห้ามมิให้ออกอากาศ ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 93/2557 และฉบับที่ 103/2557 และขัดต่อข้อกำหนดในบันทึกข้อตกลงที่ทำร่วมกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งมีข้อเสนอให้ มีคำสั่งเตือนทางปกครองไปยังช่องรายการ
 
วาระอื่นๆ น่าจับตา ได้แก่ วาระการพิจารณาให้ระงับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคของสถานีวิทยุกระจายเสียง วทท.วาปีปทุม FM.92.75 MHz สถานีวิทยุกระจายเสียง กรมการพลังงานทหารเชียงใหม่ AM.711 KHz  วาระพิจารณาขอให้ระงับการออกอากาศโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือสินค้าเป็นการชั่วคราวของช่องรายการออนซอนเอชดีทีวี วาระพิจารณาขยายระยะเวลาของคณะทำงานเพื่อติดตามและประเมินผลการปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกอบกิจการโทรทัศน์ ของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 วาระเพื่อทราบผลการประชุมชี้แจงและทำความเข้าใจกรณีการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31 และวาระการออกประกาศเพื่อแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เพิ่มเติม รวมทั้งติดตามความคืบหน้าวาระต่างๆ ในการประชุมวันที่ 1 ส.ค.นี้
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท