ศาลไต่สวนคำร้องคดีสิบโทกิตติกร ถูกทำร้ายจนตายระหว่างถูกควบคุมตัวในเรือนจำค่ายวีรวัฒน์โยธิน แพทย์ประจำโรงพยาบาล แม่ และพนักงานสอบสวน เข้าเบิกความ นัดสืบพยานต่อ 23 พ.ค.นี้
26 เม.ย. 2559 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่า เมื่อ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดสุรินทร์ได้ออกนั่งพิจารณาเป็นครั้งแรก ตามที่อัยการจังหวัดสุรินทร์ได้ยื่นคำร้องขอไต่สวนการเสียชีวิตของ สิบโทกิตติกร สุธีรพันธ์ อายุ 25 ปี ทหารสังกัด กรมทหารที่ 23 กองพันทหารราบที่ 3 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน มณฑลทหารบกที่ 25 ผู้ต้องหาในคดีช่วยนักโทษอื่นให้พ้นจากการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ และเสียชีวิตลงโดยผิดธรรมชาติ (ถูกทำร้ายถึงตาย) ในระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ที่ เรือนจำมณฑลทหารบก 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2559 โดย บุญเรือง สุธีรพันธ์ มารดาของสิบโทกิตติกร ได้แต่งตั้งทนายความจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ให้ยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อเข้ามาซักถามพยานที่อัยการนำมาสืบ และศาลอนุญาต
โดย พนักงานอัยการได้ระบุพยานไว้ 5 ปากแต่นำเข้าสืบได้เพียง 3 ปากคือ ประกอบด้วย
1. นายแพทย์นฤพล กิตติคุณากร นายแพทย์ประจำโรงพยาบาลสุรินทร์ผู้ร่วมชันสูตรพลิกศพผู้ตายในเรือนจำร่วมกับพนักงานสอบสวนและพนักงานฝ่ายปกครอง และเป็นนายแพทย์ที่ทำได้ผ่าพิสูจน์ศพผู้ตายในคดีนี้ด้วย โดยได้เบิกความถึงสภาพร่างกายของผู้ตายในครั้งแรกที่พบที่เรือนจำในค่ายวีรวัฒน์โยธินว่าพบว่ามีเครื่องพันธนาการที่ข้อเท้า การเสียชีวิตนั้นเกิดจากการถูกทำร้ายร่างกายโดยใช้ของแข็งไม่มีคมลักษณะเป็นท่อนยาว พื้นรองเท้า วัสดุแข็งไม่มีคม พื้นหยาบ เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะร่วมกับกระเพาะอาหารแตกเนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย
2. บุญเรือง สุธีรพันธ์ มารดาของผู้ตายเบิกความถึงความพยายามในการที่จะประกันตัวผู้ตายออกมาระหว่างต่อสู้คดีแต่ไม่สามารถทำได้ และระหว่างที่ถูกควบคุมตัวอยู่เรือนจำนั้นก็ได้พยานยามไปเยี่ยมหลายครั้งแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมโดยเจ้าหน้าที่เรือนจำอ้างมีระเบียบของทางราชการที่ไม่ให้เข้าเยี่ยม ทำให้ไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้ตายได้ แม้มีการส่งจดหมายถึงผู้ตายในช่วงที่ขอเยี่ยมจดหมายก็ไม่ได้ถูกส่งต่อไปถึงผู้ตาย ทำให้ไม่ทราบถึงสภาพการควบคุมตัวจนกระทั่งผู้ตายได้เสียชีวิตในเรือนจำ
3. พ.ต.ท.รัชพล เกลี้ยงอุทธา พนักงานสอบสวนที่ได้เข้าร่วมชันสูตรพลิกศพผู้ตายในเรือนจำร่วมกับนายแพทย์และพนักงานฝ่ายปกครองและเป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดีอาญาที่ดำเนินกับผู้ถูกล่าวหาว่าได้ทำร้ายผู้ตายในคดีนี้ด้วย พนักงานสอบสวนเบิกความถึงสภาพศพผู้ตายในครั้งแรกที่พบที่เรือนจำในค่าย และได้สอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์หลายปาก รวมทั้งการตั้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายกับผู้ต้องหา 4 คน ตามที่ทางฝ่ายทหารได้สรุปความเห็นจากการสอบข้อเท็จจริงภายในมาให้
ทั้งนี้ยังมีพยานอีกสองปากที่ไม่สามารถนำตัวมาศาลได้เพราะเป็นพยานที่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนค่ายวีรวัฒน์โยธิน ซึ่งเป็นพยานสำคัญเพราะได้รู้เห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอัยการยังติดใจที่จะสืบพยานปากนี้อยู่เพื่อให้เห็นพฤติการณ์ที่ทำให้ผู้ตายตายและทราบว่าใครเป็นผู้ทำให้ตาย จึงได้ขออนุญาตศาลเลื่อนคดีไปอีกหนึ่งนัด ประกอบกับทนายความของมารดาผู้ตายได้ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมและเรียกพยานฝ่ายทหารมาอีก 3 ปากจึงไม่สามารถพิจารณาคดีให้เสร็จภายในวันเดียวได้ ศาลพิจาณาแล้วให้เลื่อนการไต่สวนไปอีกครั้งหนึ่ง กำหนดนัดไต่สวนครั้งต่อไป วันที่ 23 พ.ค. นี้ เวลา 09.00 น.