Skip to main content
sharethis

เปิดวงเสวนา หลังปิดม่านโรงละคร Deleted โลกละครที่ 'มัน' ถูกประดิษฐ์ขึ้นให้เป็นสิ่งเลวร้าย เสียจนต้องกำจัดทิ้ง หากแต่ไม่มีใครรู้ว่า 'มัน' คืออะไร ร่วมพิจารณามุมมองการตีความจากผู้ชมที่หลากหลาย พร้อมตั้งคำถามใหญ่ๆ เราจะอยู่อย่างไรเมื่อสังคมผสานความสุขเป็นหนึ่งเดียวกับความกลัว

“ทุกอย่างจริง....จริงมาก....จริงจนดูเหมือนเป็นของปลอม”

ในสังคมที่ความกลัวและความสุขผสานกันเป็นหนึ่งเดียว สังคมที่ปัจเจกชนดูแลและโอบอุ้มตัวเองในโลกที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวแต่สุขจนพูดไม่ออก....พวกเขาจะอยู่กันอย่างไร?

ละครเวที PPE วิทยาลัยสหวิทยาการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้พาพวกท่านมาหาคำตอบในวันที่ 21-22 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา พื้นที่ซึ่งความทรงจำซ้อนทับกันหลายชุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่

เนื้อเรื่อง

ในโลกที่การครอบงำของรัฐและทุนสมบูณ์แบบชีวิตจะเหลืออะไรที่เป็นของเรา Deleted ชื่อรายการโทรทัศน์ยอดนิยม มีพิธีกรชื่อ Hope ผู้ซึ่งปรากฏตัวพร้อมกับการรายงานข่าวการกำจัด “มัน” ไม่มีใครรู้ว่า “มัน”คืออะไร แต่การกำจัด “มัน” เป็นสิ่งที่จำเป็น การมี “มัน” อยู่ในสังคมเป็นสิ่งต้องห้ามผู้ที่มี “มัน” ต้องถูกนำไปทบทวน

การกำจัด “มัน”เกิดขึ้นผ่านอาวุธทำลายล้างที่รุนแรงและทันสมัย โดยบุคคลที่ถูกฝึกมาอย่างดีนั่นคือ “นักลบ-Deleter” โดย Freddy และ Hyde เป็นคู่หูนักลบที่ Hope บอกแก่คนดูว่าคือคู่หูที่ดีที่สุดที่จะกัน “มัน” ออกจากพวกเรา

ฉากแรก ในรายการ Deleted

เรื่องราวเริ่มต้นด้วยงานวันเกิดลูกคนแรกของ Freddy ซึ่งปรากฏตัวครั้งเดียวในรูปแบบของเช็คเงินดอกเบี้ย “ลูก”คือสิ่งที่จะทำให้ตัวละครในเรื่องปลอดภัย ทุกคนต้องเลี้ยงลูกให้โตพอ ที่จะเลี้ยงดูพวกเขาก่อนอายุ 60 มิฉะนั้นเราต้องถูกปล่อยให้ตาย “ลูก”กลายเป็นหลักประกันอันเลือนลางของชีวิตที่ทุกคนคาดหวังว่าลูกของพวกเขาจะโตไปเรื่อยๆ และจะทำให้พวกเขาปลอดภัย จุดเปลี่ยนของเรื่องเริ่มจากการที่ Hyde มาสารภาพกับ Freddy ว่าเขามี “มัน” และบอกความจริงของโลกกับ Freddy ว่าไม่มีใครได้เห็นลูกของพวกเขาโตหรอกทุกคนต้องฆ่าลูกตัวเองเพื่ออยู่รอดไปวันๆ เขาหวังว่า Freddy จะใช้ลูกของเขาเป็นหลักประกัน หลังจากเขาถูกจับไปทบทวน....Freddy บอกเรื่องนี้แก่ Hope และจับ Hyde ไปทบทวน

ในอพาร์ตเมนต์สีขาวที่ดูสมบูรณ์และบริสุทธิ์ของ Freddy ภรรยาของเขา Sofia ซึ่งมีหน้าที่ให้กำลังใจ ได้บอกแก่เขาว่า เขาทำได้ดีแล้ว และวันนี้เป็นวันที่ปกติ ไม่ดีขึ้นไม่แย่ลง เธอพยายามกระตุ้นเตือนให้ Freddy ทำงานตามหน้าที่ และให้คิดถึงลูกของเขาและเธอ Sofia คิดถึงวันอาทิตย์เสมอ เพราะการทำงานวันอาทิตย์จะทำให้ลูกของเธอโตเร็วขึ้น เธอมักจะสอน Freddy ถึงความอันตรายจากความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ มันสามารถทำให้เราไขว้เขวจากเป้าหมายของมนุษย์ (นั่นคือทำให้ลูกโต) หากมนุษย์ปฏิสัมพันธ์การเหมือนกับเครื่องกรองอากาศ ที่นึกถึงมันเมื่อมันสามารถทำงานได้และทิ้งมันเมื่อหมดประโยชน์จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น

Kasie เด็กน้อยข้างห้องของ Freddy และ Sofiaวัย 9 ขวบซึ่งมี Freddy เป็นตัวแบบ เธอใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งจะโตขึ้นเป็นนักลบ เธอมักจะถามถึงเคล็ดลับของ Freddy ในการที่จะเป็นนักลบ ซึ่งเขาจะอธิบายถึงขั้นตอนอันยุ่งยากสลับซับซ้อน และนั่นยิ่งทำให้เธอสงสัยว่า “มัน” คืออะไร ทำไมเราต้องกลัวมัน และทำไมต้อง “ลบมัน”

ที่โรงเรียนเธอมีหน้าที่รดน้ำแปลงดอกเคซี่ชื่อเดียวกับชื่อเธอ และนำมาให้ Freddy แต่นั่นก็นำสู่ปัญหา เพราะดอกไ้ที่เธอนำมาให้ Freddy ผิดแผกจากดอกไม้อื่นนั่นคือมันเหี่ยวเฉาได้ มันนำสู่ความกลัวและการตั้งคำถามกับตัวเองของ Freddy เช่นเดียวกับทุกครั้งที่เกิดสิ่ง “ผิดปกติขึ้นมา”...Sofia อธิบายแก่Freddy ว่ามันคือดอกไม้ปลอม ดอกไม้จริงต้องไม่มีวันเหี่ยว ในวันรุ่งขึ้นเกิดเหตุการณ์ประหลาดที่รายการโทรทัศน์ คุณนาย Kook ตะโกนขึ้นกลางสตูดิโอว่าทุกอย่างเป็นของปลอม เธอกระโดดลงไปในกองเพลิง เสียงระเบิดขณะที่ Freddy กำลังลบ “มัน” ในรายการ ทว่าเธอปลอดภัย ไม่เป็นอะไร ทุกอย่างเป็นของปลอม นักลบคนอื่นๆ มาคุมตัวเธอไป 

ฉากคุณนาย Hook ถูกควบตัวมา ออกรายการ Deleted

Freddy เต็มไปด้วยคำภามมากมายว่าทำไมถึงมี คนกล้าตายเพื่อ “มัน” และ เหตุใดเขาไม่รู้มาก่อนว่าอาวุธการลบของเขาทุกอย่างเป็นของปลอม แต่ในวันเดียวกัน Hope นำตัว คุณนาย Kook มาออกรายการ Deleted พร้อมนักลบขนาบข้างและโพยกระดาษ โดยเธอสารภาพว่าเธอเป็นแค่นักแสดงที่ถูกจ้างขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ว่า “ถ้าคุณไม่มีมัน” อาวุธเหล่านี้ก็จะไม่ทำอันตรายคุณ Freddy ถาม Hope เรื่องนี้แต่คำตอบของ Hope กลับเผยอะไรบางอย่างที่ Freddy รู้อยู่แล้วนั่นคือ

“ไม่ว่ามันจะจริงหรือไม่มันทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นหรือแย่ลงหรือเปล่า สิ่งที่คุณควรสนใจคือการที่คุณมีงานทำ และทำยังไงให้ลูกของคุณโตก่อนคุณอายุ 60 อย่าไร้เดียงสาไปหน่อยเลยเฟรดดี้ ไม่มีใครสนใจหรอกว่ามันจริงหรือปลอม ก่อนที่ผมจะบอกว่าเธอเป็นนักแสดง คนทั้งเมืองก็เชื่ออยู่แล้ว ไม่มีใครคิดว่าจะมีใครตายเพื่อมัน ได้ผมแค่ย้ำในสิ่งที่พวกเขาเชื่ออยู่แล้ว”

เรื่องราวดำเนินไป เมื่อมีสัญญาณเตือนว่า พบ “มัน” อยู่ใกล้ห้อง Freddy ตกใจและพยายามหาว่า “มัน” ซ่อนอยู่ที่ไหน แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เหมือนทุกครั้งเขากลัวในการที่จะถูกค้นพบว่ามีมัน ในที่สุดเขาก็โล่งใจเมื่อ Hope มาที่ห้องเขาและแจ้งว่าคนที่มี “มัน” คือ Kasie เด็กผู้หญิงข้างห้องวัย 9 ขวบ เมื่อ Hope กลับไป เขาถอดชุด”นักลบ” ให้เคซี่บอกให้เธอใส่ไว้ เธอจะปลอดภัยจากทุกอย่าง มันคือแค่การทบทวน เขาเรียกนักลบ และHope มาที่บ้านและนำตัว Kasie ไปทบทวน

เสวนาหลังละคร Post-Show Talk

แบ๊งค์ งามอรุณโชติอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

แม้ในละครจะเป็นการฉายภาพความสัมพันธ์ระหว่างระบบเศรษฐกิจและการเมือง แต่ทุกอย่างดูทำให้แยกขาดกันจนกระทั่งตอนท้ายที่ Hope ขอบคุณสปอนเซอร์ที่ประดิษฐ์อาวุธให้กับเฟรดดี้ จะเห็นกลุ่มทุนต่างๆที่เข้ามาสัมพันธ์กับกลไกการปราบปราม ถ้าถามความเห็นว่า “มัน” คืออะไร ผมคงบอกได้จากมุมมองทางเศรษฐศาสตร์ มันคือการตั้งคำถามต่อระบบ มันคือการที่ปัจเจกชนไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่รัฐหรือทุนกำหนด “มัน” คืออะไรไม่รู้ แต่มันจะทำให้ลูก ซึ่งก็คือเงิน ดอกเบี้ย ปันผล การลงทุนของปัจเจกชนไม่เติบโต ละครพยายามเผยให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ทำให้ นามธรรม กลายเป็นรูปธรรมและถ้าเราสังเกตุชื่อละครแต่ละตัวมีความหมายทั้งหมด (Freddy-Afraid /Hyde-Hide/ Sofia- So Fear/ Kasie-Crazy) และตัวละครที่ทำร้ายเราที่สุดคือตัว Hope หรือความหวัง ในสังคมลักษณะนี้เราจะเห็นได้ว่า มันมี Simulation เยอะมาก เพราะมันอยู่ในโลกที่เหนือจริงขึ้นไป ที่คาดหวังความ “ปรกติ” และความสุข เราจะเห็นโซเฟีย ใช้ application คุยกับพระเอกละครเพื่อเติมเต็มว่าโลกของตนปกติแค่ไหน ซึ่งเราจะเห็นกระบวนการ Trade Off ระหว่างความจริงและความสุข ความจริงมันเหี่ยวแห้งเสื่อมได้ เหมือนดอกเคซี่ แต่ความสุขที่ระบบสร้างมันต้องนิรันดร์ไม่เปลี่ยนแปลง

ณัฐนนท์ จันทร์ขวาง นักศึกษา PPE ปี2 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ผมมองว่า “มัน” คือความจริง คือสิ่งที่จะคุกคามต่ออำนาจรัฐ และอำนาจทุน จะว่าไปนี่คือการพัฒนาเต็มขั้นของ Neo-Conservative ที่รัฐและทุนทำงานร่วมกัน จะมีการมองว่าความแปลกปลอมหรือการคิดต่างเป็นภัยและต้องกำจัดมัน คนถูกผลักดันให้คิดถึงแต่เรื่องตัวเอง และการเอาตัวรอด ความสัมพันธ์ต่างๆที่ไม่สามารถควบคุมได้ถูกทำให้เป็นภัย เราถูกทำให้เชื่อฟังและคล้อยตาม แต่หากสังเกตแล้วกลไกการควบคุมทั้งหมดมาจากตัวเราเองเป็นหลัก รัฐมีหน้าที่ในการเข้ามายืนยันความเชื่อของเราเท่านั้น ส่วนตัวผมว่า ประเด็น เรื่องการใช้ชีวิตอยู่ในระบบก็น่าสนใจครับ เรื่องที่ตัวละคร freddy สุดท้ายก็ยอมเชื่อและเลือกจะอยู่ในระบบต่อไป เพื่อให้ชีวิตตัวเองมีความสุขต่อไป

ณัฐนันท์ วรินทรเวช กลุ่มศึกษาเพื่อความเป็นไทย

เราเห็นต่างไปว่า “มัน” คงไม่ใช่ความจริง เพราะความจริงมันคงไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่สมบูร์แบบอยู่เหนือเงื่อนไข จะว่าไปแล้วหากเราพิจารณาจะพบว่า “มัน” อาจไม่มีจริง ไม่มีตัวตน ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า “มัน” หน้าตาเป็นอย่างไร หรือคืออะไร แม้แต่ตัว Hope เองก็ไม่รู้แต่มีคำอธิบายมาแทนว่า “ไม่ว่ามันจะคืออะไร ก็ไม่มีผลต่อเรา” สรุป มัน คือเป็นแค่ส่วนหนึ่งของพิธีกรรมปลอมๆ ของรัฐที่ตอกย้ำความเชื่อทำให้เราคล้อยตาม หากสังเกตุดูจะพบว่าทุกฉากจะเต็มไปด้วยพิธีกรรมที่ทำให้ทุกอย่างเป็นปกต ทุกคนจะบอกว่ามีความสุข แต่ถ้าเราใช้มาตรวัดจากคนนอกก็จะพบคำตอบง่ายๆว่า พวกเขาไม่มีความสุขหรอก พวกเขาเต็มไปด้วยความกลัวมากกว่า ถ้าเราสังเกตุเห็น Freddy จะลนลานทุกครั้งเมื่อสงสัยว่าตัวเองจะมีมัน อันนำสู่การโดนจับทั้งๆที่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร โซเฟียก็เป็นตัวละครที่น่าสนใจ เขาดูเหมือนไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใครเลยนอกจาก Freddy เหมือนเธอจะเป็น application ของ Freddy ด้วยซ้ำ

ผู้ชม นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผมรู้สึกอึดอัดในการแสดงบางครั้งจากมุมมองของคนทำละครแต่ในอีกด้านหนึ่ง ถ้าคุณอยู่ในสังคมแบบนี้จริงๆ ชีวิตคุณคงไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ไหลลื่น ไม่เป็นตัวของตัวเอง ผมว่า มันกลับกลายเป็น message ที่ดีทีเดียว ผมคิดว่าคนเขียนบทต้อง โกหกเก่งมาก ทั้งเรื่องเต็มไปด้วยการโกหก โกหกระหว่างรัฐและประชาชน โกหกระหว่างประชาชนด้วยกัน หรือกระทั่งการโกหกตัวเอง

ผู้ชม นักศึกษาโครงการสตรีและเพศสภาวะศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คิดว่าห้วงเวลาสำคัญคือคือจังหวะที่ “กะลาแตก” เมื่อความจริงมันปรากฏทีละชุด เราจะเห็นได้ว่า ตัวละครพยายามที่จะไปหากะลาใหม่มาใส่เพื่อให้รู้สึกปลอดภัย จะเกิดแบบนี้ซ้ำๆ แม้มันไม่สมเหตุสมผลเลยก็ตาม อันเป็นกลไกสำคัญที่เกิดขึ้นในสังคมที่ปกคลุมด้วยความกลัว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net