Skip to main content
sharethis

 

28 ก.ค. 58 – ศาลทหารนัดสอบคำให้การนายกฤษณ์ จำเลยตามความผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 จากกรณีถูกกล่าวหาเผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ 13 ซึ่งเป็นของปลอมในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ โดยกฤษณ์ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอต่อสู้คดี

เวลาประมาณ 10.30 น. ณ ห้องพิจารณาคดีหมายเลข 1 มีการสอบคำให้การคดีตามมาตรา 112 ซึ่งมีจำเลยคือ นาย กฤษณ์ โดยอัยการทหารขอให้ศาลพิจารณาคดีเป็นความลับ เนื่องจากหากมีบุคคลใดมานั่งฟังการพิจารณาคดีจะทำให้เกิดความเสียหายต่อพระมหากษัตริย์ แต่ศาลได้วินิจฉัยว่า วันนี้เป็นเพียงการสอบคำให้การและอ่านคำฟ้อง ลักษณะเนื้อหาในคดีไม่น่าส่งผลกระทบใดๆ จึงวินิจฉัยให้พิจารณาคดีอย่างเปิดเผย และศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกวันที่ 19 ต.ค.2558 เวลา 8.30 น.

ขณะที่นายนิรันดร์ ผู้ดูแลเว็บไซต์ผู้จัดการที่มีการเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าวเช่นกัน ถูกแยกฟ้องอีกคดี เขาถูกนำตัวมาฝากขังในวันเดียวกับกฤษณ์และได้รับการประกันตัวไปในวันนั้นโดยทนายใช้หลักทรัพย์ 2 ล้านบาท ศาลทหารได้สอบคำให้การไปก่อนหน้าในวันที่ 29 มิ.ย.และนัดสืบพยานโจทก์ปากแรก วันที่ 30 ก.ย.2558

หลังจากศาลได้อ่านคำฟ้องคดีจนจบ จำเลยได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและจะสู้คดี หลังจากเสร็จสิ้นการสอบคำให้การ กฤษณ์เปิดเผยว่าเขามีรู้สึกกังวลใจ ไม่รู้ว่าผลจะออกมาในรูปแบบไหน และเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกนัก

ด้านวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความจำเลย ได้กล่าวถึงแนวทางการสู้คดีว่า จำเลยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากไม่มีเจตนาในการกระทำความผิด โดยจำเลยไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด และจำเลยไม่รู้ว่าแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นแถลงการณ์ปลอมจำเลยจึงสำคัญผิดว่าเป็นแถลงการณ์จริง ดังนั้นจำเลยจึงไม่มีเจตนาในการเผยแพร่และไม่มีเจตนาละเมิดสถาบันฯ แต่เป็นการโพสต์เพื่อนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสถาบัน ซึ่งจำเลยไม่ทราบข้อเท็จจริง เพราะเป็นเอกสารที่ทางประชาชนทั่วไปทราบได้ และจำเลยก็ไม่ได้เป็นคนกระทำเอกสารดังกล่าว อีกทั้งจำเลยไม่รู้ว่าเป็นของปลอม จึงไม่ได้มีเจตนานำข้อความหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

วิญญัติ กล่าวต่อว่า ในการประเมินเบื้องต้นนั้นจำเลยมีความมั่นใจว่าศาลจะให้ความเป็นธรรม เนื่องจากเมื่อจำเลยไม่อาจทราบได้ว่าข้อความดังกล่าวเป็นเท็จและหากศาลเห็นว่าข้อความดังกล่าวเป็นเรื่องที่ยากแก่ประชาชนโดยทั่วไปจะรู้ได้ว่าข่าวสารหรือข้อมูลนั้นจะถูกต้องหรือไม่ ศาลย่อมยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลยว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิด  แต่อย่างไรก็ตาม ทนายความยังมีความกังวลต่อการที่พลเรือนต้องขึ้นศาลทหารเพราะในสภาวะของการประกาศกฏอัยการศึกเช่นนี้ อาจจะทำให้กระบวนการพิจารณาคดีและการรับฟังพยานหลักฐานของศาลทหารต่างจากศาลพลเรือน

ทั้งนี้ กฤษณ์อายุ 26 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีงานอดิเรกคือการเล่นดนตรี ส่วนครอบครัวของเขามีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว เขากฤษณ์ ถูกทหารในพื้นที่และตำรวจจากกองปราบฯ หลายสิบนายบุกจับกุมตัวที่บ้านพักในจังหวัดเพชรบูรณ์ในเวลาราว 02.00 น.ของวันที่ 3 ก.พ. 58 เขาถูกนำตัวไปสอบสวนก่อนนำตัวไปค้นบ้านของเพื่อนในไลน์อีก 2 ราย กฤษณ์ถูกคุมตัวในค่ายทหารเป็นเวลา 7 วัน ก่อนทหารจะนำตัวส่งตำรวจและนำตัวไปขออำนาจฝากขังที่ศาลทหาร และฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 10 ก.พ. ต่อมา 17 ก.พ. 58 ทนายความของกฤษณ์ได้ยื่นประกันพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 400,000 บาท ผู้พิพากษามีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net